กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--อสมท
ผลวิจัยจากหลายสถาบันชี้ว่าหากคุณพ่อคุณแม่ ปล่อยให้เด็กดูทีวีนานหลายชั่วโมงติดต่อกันใน 1 วัน จะส่งผลต่อพัฒนาการทางสมอง โดยทีวีจะเป็นตัวขัดขวางการสำรวจค้นคว้า การเรียนรู้และช่วงเวลาของการมีปฏิสัมพันธ์รวมถึงการเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ และบุคคลอื่นๆ อันเป็นกิจกรรมซึ่งล้วนแล้วแต่มีส่วนช่วยให้เด็กเล็กๆ สามารถพัฒนาทักษะต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตทางปัญญา ร่างกาย สังคม และอารมณ์
แต่ในทางกลับกันหากคุณพ่อคุณแม่ และผู้ปกครองอนุญาตให้เด็กๆ ดูทีวีอย่างเหมาะสม โดยให้ลูกดูทีวีเมื่ออายุเกิน 2 ปีขึ้นไป ไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมงต่อวัน และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ก็ดูไปพร้อมกับลูกด้วยทุกครั้ง เพื่อพูดคุยซักถามเกี่ยวกับสิ่งที่เขาดูและช่วยแก้สิ่งที่เห็นว่าผิดและแนะนำในสิ่งที่ถูกต้อง รวมทั้งเลือกรายการที่เหมาะสมกับวัยของลูก ซึ่งควรเป็นรายการที่มีเนื้อหาเหมาะสม มีสาระประโยชน์ รวมทั้งปราศจากความรุนแรง ก็จะส่งผลดีต่อพัฒนาการของลูกน้อยได้เช่นกัน
หนิง - ศรัยฉัตร กุญชรฯ จีระแพทย์ คุณแม่คนเก่งมากความสามารถของน้องเบลล่า เล่าว่า "เริ่มให้น้องเบลล่าดูทีวีหลังจากอายุ 3 ขวบ เมื่อโตขึ้นถ้าน้องต้องการดูทีวีจะมาขออนุญาตก่อน และมีผู้ใหญ่นั่งดูไปด้วย โดยจะให้ดูช่องรายการเด็กเป็นหลักและคอยพูดคุยคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับรายการ และจะให้ดูได้ไม่เกินครั้งละ 1 ชม. แต่จะมีวันพิเศษคือ คืนวันศุกร์ที่จะให้น้องดูภาพยนตร์สนุกๆ ไปพร้อมกันทั้งครอบครัว
น้องเบลล่าชอบงานศิลปะมากจึงทำให้ชอบดูรายการประเภทศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ DIY นอกจากนี้ หนิงยังให้ดูซีรีส์ต่างประเทศที่แฝงด้วยข้อคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนหรือครอบครัว ซึ่งเราก็จะสอนเขาไปด้วย โดยจะเลือกรายการที่มีคำว่าFamily ต่อท้าย เพราะจะทำให้มั่นใจได้ว่าได้ผ่านการคัดสรรมาแล้วว่าเหมาะสำหรับเด็ก มีข้อสังเกตว่าสมัยก่อนจะมีรายการเด็กที่ประสบความสำเร็จสูงมากแต่ปัจจุบัน คนส่วนมากไม่นิยมรับชมรายการเด็กเท่าไหร่ จึงอยากให้มีรายการที่ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก และเป็นการส่งเสริมความรู้ด้านต่างๆ ที่นอกจากจะช่วยส่งเสริมจินตนาการแล้ว ยังทำให้เด็กได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อีกด้วย"
คุณแม่สุดแซ่บ บุ๋ม - ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นอีก 1 คุณแม่ที่ขอยืนยันอีกเสียงว่า คุณพ่อคุณแม่ควรนั่งดูโทรทัศน์ไปพร้อมกับลูกด้วย "อยู่ที่บ้านเราจะนั่งประกบเลยค่ะ คือจะเล่าให้เขาฟังว่าสิ่งที่ดูอยู่นี้คืออะไร มีที่มาอย่างไร แล้วเราต้องสามารถตอบคำถามเขาได้เพราะเขาจะเป็นเด็กช่างซักถาม ส่วนใหญ่จะให้น้องอันดามันดูรายการภาษาอังกฤษ เพื่อให้เขาฝึกการฟังภาษาให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังให้ดูรายการชีวิต สัตว์โลกและแนววิทยาศาสตร์ความรู้รอบตัวด้วย พร้อมให้น้องอันดามันทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ออกกำลังกาย ว่ายน้ำ เล่นกับสุนัขที่บ้าน และวาดรูป
ปัจจุบันมีช่องทีวีที่เกี่ยวกับเด็กและครอบครัวโดยเฉพาะ แสดงให้เห็นว่ามีการใส่ใจเยาวชนมากขึ้นแต่อยากฝากให้ผู้ผลิตรายการทำคู่มือหรือแอพลิเคชั่นรวบรวมองค์ความรู้ในรายการที่สามารถเข้าถึงง่าย เพื่อให้พ่อแม่อธิบายกับลูกต่อได้ น่าเสียดายมากถ้าคอนเทนต์ดีๆ ที่ผลิตออกมาได้ออกอากาศตอนเดียวแล้ว จบไป ควรสร้างกิจกรรมต่อยอดเพื่อให้เด็กได้มีส่วนร่วมในรายการนั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมความภาคภูมิใจของเขาในทางที่ถูกต้อง"
ด้าน อร - อรอนงค์ อาวะกุล (ปัญญาวงศ์) คุณแม่ที่มีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนถึง 2 คน คือน้องอองรี วัย 11 ปี และน้องอองตอง วัย 9 ปี เผยว่า "ปกติถ้าเด็กๆ มีเวลาว่างจะพามาดูคุณแม่ทำงานเวลาเป็นพิธีกรรายการ MOM CLUB ทาง MCOT Familyช่อง 14 ด้วยเสมอ เด็กๆ ก็จะได้เห็นการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของวงการทีวี สำหรับช่อง MCOT Family เป็นช่องที่อรเชื่อมั่นว่าปลอดภัย สามารถเปิดให้น้องๆ ดูในช่วงที่คุณแม่ทำกับข้าวได้เลย ซึ่งน้องๆ จะชอบดูการ์ตูน, รายการวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับการประดิษฐ์ การสร้างสรรค์งานต่างๆ และดูละครสำหรับเด็กบ้าง แต่ละครแนวผู้ใหญ่ บู๊แอคชั่น ดราม่า จะไม่อนุญาตให้ลูกดูเลยและแม่ก็จะไม่เปิดดูด้วย"
อรอนงค์ บอกว่า "รายการเด็กที่ดีต้องเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ดูแล้วต้องสร้างให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงต้องบอกกระบวนการคิดให้เด็กๆ ด้วย ที่สำคัญคือต้องทำให้น่าดูทำให้เด็กชอบและอยากทำตาม รวมถึงสามารถทำให้เด็กได้มีส่วนร่วมกับรายการด้วย บางรายการมีเนื้อหาที่ยากเกินไป เด็กก็ไม่สามารถทำตามได้ หรือบางรายการมีเนื้อหาที่ง่ายเกินไป ทำให้เด็กๆ ไม่รู้สึกอยากทำตาม และหากเป็นไปได้ถ้าพ่อแม่หรือผู้ปกครองได้นั่งชมรายการโทรทัศน์ไปด้วยกันกับลูกก็จะดีที่สุด เพราะจะสามารถให้คำชี้แนะและตอบคำถามที่เด็กอยากรู้ได้อย่างทันท่วงที"
นายเฟอร์ดินานด์ ฮับส์บรูก (Mr.Ferdinand Habsburg) Chief Executive Officer บริษัท Da Vinci Learning Media GmbH ผู้ผลิตคอนเทนท์สำหรับเด็กและเยาวชนระดับโลก กล่าวว่า "สังคมสมัยใหม่เด็กๆ มักจะเสพสื่อทางโลกออนไลน์จาก
โทรศัพท์มือถือ และยังเต็มไปด้วยคอนเทนต์ที่เป็นอันตราย ผมเชื่อว่าหากผู้ปกครองเปิดรายการทีวีที่มีประโยชน์ดูไปพร้อมกันกับลูก จะเป็นการสร้างสัมพันธภาพอันดีภายในครอบครัว โดยเนื้อหารายการทีวีที่เหมาะสมกับเด็กๆ ต้องกระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ เทคโนโลยี รวมถึงเรื่องราวอื่นๆ รอบตัว ให้เด็กๆ มีความสุข ในเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับการออกผจญภัยในโลกกว้าง ผมเชื่อว่าความรู้จากเราจะไม่ทำให้ลูกอกหัก และลูกจะฉลาดกว่าพ่อแม่เมื่อดูรายการ Da Vinci Learning"
คุณพ่อคุณแม่ สมัยใหม่ที่ยังไม่หมดหวังกับการให้โอกาสลูกได้เรียนรู้สาระประโยชน์จากสื่อทีวี ลองเปิดใจให้กับ รายการเด็กและครอบครัวคุณภาพ จาก Da Vinci Learning ที่เปี่ยมไปด้วยสาระบันเทิง ครบรส พร้อมเสริมสร้างทุกการเรียนรู้ ให้คุณหนูๆ และครอบครัวเติบโตไปด้วยกันที่ MCOT Family ช่อง 14 สนุก สร้างสรรค์ สร้างอนาคต เริ่มออกอากาศ 1 สิงหาคมนี้ เวลา 06.00 - 06.30 น. และ 16.00 - 16.30 น.