กรุงเทพฯ-- 2 พ.ย.--เชลล์แห่งประเทศไทย
เชลล์ประกาศเป็นบริษัทน้ำมันแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้การจัดซื้อด้วยระบบอิเลคโทรนิค (eProcurement) วิธีการจัดซื้อที่เชื่อมผู้จำหน่ายสินค้าและบริการทั้งหลาย (supplier) เข้าด้วยกันโดยผ่านระบบอินเตอร์เนต eProcurement ช่วยเพิ่มความถูกต้องแม่นยำของการสั่งซื้อ ลดปริมาณงาน ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด แจ้งว่า เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๓ ที่ผ่านมานี้ ได้เริ่มมีการทำ ธุรกรรมด้านการจัดซื้อผ่านระบบ eProcurement แล้ว โดยมีการส่งคำสั่งซื้อไปยังผู้จำหน่ายโดยใช้ MarketSite ของบริษัทคอมเมอร์สวัน (Commerce One) เชลล์เป็นบริษัทน้ำมันแห่งแรกในประเทศไทยที่มีการจัดซื้อสินค้าและบริการโดยผ่านอินเตอร์เนต การจัดซื้อในระบบ eProcurement นี้ เป็นการสั่งซื้อบนจอคอมพิวเตอร์ผ่าน BuySite อันเป็น หน้าจอที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาแคตตาล็อคสินค้า/บริการ จัดทำใบสั่งซื้อ และดำเนินการตลอดทุกขั้นตอนของการสั่งซื้อได้โดยตรงกับผู้จำหน่าย เพียงแค่มีเครื่อง PC, web browser และรหัสผ่าน (Password) ผู้ซื้อและผู้จำหน่ายก็สามารถเข้าสู่ระบบ eProcurement ได้อย่างง่ายดาย
เชลล์ได้วางแผนที่จะทำให้ธุรกรรมด้านการจัดซื้อเข้าสู่ระบบ eProcurement ให้ได้ถึง ๙๐% ภายใน สิ้นปีนี้ ทั้งนี้ ความสำเร็จของระบบ eProcurement ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ ๓ ประการได้แก่
๑) การติดต่อประสานงานกับผู้จำหน่ายทั้งหลาย เพื่อให้จัดทำแคตตาล็อคสินค้าแบบอิเลคโทรนิคให้เร็วที่สุด เพื่อรวบรวมแคตตาล็อคทั้งหมดบรรจุลงในระบบ
๒) การร่างข้อปฏิบัติในการจัดซื้อด้วยระบบอิเลคโทรนิค อันได้แก่กฎเกณฑ์ต่างๆ ในการจัดซื้อ มาตรฐานสินค้า และการจัดระบบส่งข้อมูลระหว่างผู้สั่งซื้อและผู้จำหน่าย
๓) การจัดฝึกอบรมให้แก่ทั้งผู้จัดซื้อและผู้จำหน่ายเพื่อให้เข้าใจและใช้ระบบ eProcurement ให้เกิด ประสิทธิภาพสูงสุด ในการนี้ ดร. ชัยยุทธ เลิศพาชิน - ผู้จัดการฝ่ายจัดหาและจัดจ้าง บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ระบบ eProcurement นี้ นอกจากจะให้ประโยชน์โดยตรงในการลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการจัดซื้อแล้ว ยังช่วยเพิ่มความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลการสั่งซื้อ ลดความผิดพลาดในการจัดทำเอกสาร และลดปริมาณเอกสารที่ต้องจัดทำ ตลอดจนลดเวลาที่ต้องใช้ในกระบวนการการจัดซื้อ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ สามารถลดปริมาณสินค้าคงคลังลงได้ ผู้จำหน่ายสินค้า/บริการทั้งหลายต่างก็เห็นประโยชน์จากระบบ eProcurement นี้ด้วยเช่นกัน เพราะระบบ eProcurement สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ธุรกิจของผู้จำหน่ายเอง เนื่องจากสามารถนำแคตตาล็อคสินค้าแบบ อิเลคโทรนิคที่ทำขึ้น ไปใช้กับธุรกิจอื่นๆ ได้อีก ทำให้ผู้จำหน่ายทั้งหลายมีช่องทางในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ"--จบ--
-อน-