กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เดินหน้าพันธกิจหลัก "ทำให้คนไทยมีบ้าน" จัดสรรกรอบวงเงินรวม 65,000ล้านบาท จัดทำ 4 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ รองรับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย นำโดย "โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก ปี 2559" วงเงินให้กู้สูงสุดรายละไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 2.99% ต่อปี นาน 2 ปีแรก นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษประจำไตรมาส 3 ประกอบด้วย สินเชื่อสำหรับลูกค้ากลุ่มบุคลากรภาครัฐและกลุ่มสวัสดิการไม่มีเงินฝาก อัตราดอกเบี้ยปีแรก 3% ต่อปี สินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.25% ต่อปี และสินเชื่อสำหรับลูกค้าโครงการ FAST TRACK/ REGIONAL FAST TRACK และลูกค้ารายย่อยโครงการ POST FINANCE ที่เข้าร่วมโครงการกับธนาคาร อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 3 เท่ากับ MRR-3% ต่อปี
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสาขาอาชีพได้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มรายได้ ทุกกลุ่มสาขาอาชีพ โดยเตรียมวงเงิน 5,000 ล้านบาท จัดทำ โครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก ปี 2559 ให้กู้สำหรับประชาชนที่มีรายได้รวมไม่เกิน 90,000 บาท/เดือน วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 - 2 เท่ากับ 2.99% ต่อปี ปีที่ 3 - 4 เท่ากับ 4.00% ต่อปี ปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.75% ต่อปี) วัตถุประสงค์ให้กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร หรือกรณีเป็นลูกค้าเดิมของ ธอส.และมีคุณสมบัติตามโครงการนี้สามารถขอกู้เพื่อต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมอาคารได้เช่นกัน ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี สำหรับลูกค้าที่ขอกู้วงเงิน 2 ล้านบาท ผ่อนชำระเริ่มต้น 2 ปีแรก เพียง 9,600 บาท/เดือนเท่านั้น สามารถยื่นคำขอกู้และ ทำนิติกรรมได้แล้วตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด
"สำหรับโครงการบ้าน ธอส. เพื่อสานรัก นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประชาชนให้การตอบรับมาเป็นอย่างดี โดยหลังจากเริ่มจัดทำโครงการมาตั้งแต่ปี 2557 ธนาคารสามารถปล่อยกู้เป็นวงเงินรวมถึง 10,800 ล้านบาท สร้างโอกาสให้ คนไทยได้มีบ้านแล้วได้ถึง 13,000 ราย และปีนี้ธนาคารได้ปรับเพิ่มวงเงินให้กู้สูงสุดจากเดิมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ปรับเป็นไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับราคาที่อยู่อาศัยที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยมั่นใจว่าจะช่วยทำให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายยิ่งขึ้น" นายฉัตรชัยกล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ประจำไตรมาส 3/2559 รองรับความต้องการของลูกค้าประชาชนทุกระดับรายได้และทุกสาขาอาชีพ ประกอบด้วย 1.สินเชื่อสำหรับลูกค้ากลุ่มบุคลากรภาครัฐและกลุ่มสวัสดิการไม่มีเงินฝาก (กรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 เท่ากับ 3.00% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 4.50% ต่อปี ปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี 2.สินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป (กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 เท่ากับ 3.25% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 4.50% ต่อปี ปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี 3.สินเชื่อสำหรับลูกค้าโครงการ FAST TRACK/ REGIONAL FAST TRACK และลูกค้ารายย่อยโครงการ POST FINANCE ที่เข้าร่วมโครงการกับธนาคาร (กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 – 3 เท่ากับ MRR-3.00% ต่อปี ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี สามารถยื่นกู้ได้แล้วตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2559 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2559 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด
ลูกค้าที่สนใจสามารถขอรับคำปรึกษาหรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์