กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
กองทุนพัฒนาสหกรณ์คว้า 2 รางวัลจากการประเมินประสิทธิภาพการบริหารจัดการกองทุนหมุนเวียนของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เข้ารับรางวัลจากนายกรัฐมนตรีในงานมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2559 ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ขณะที่กรมส่งเสริมสหกรณ์เดินหน้าพัฒนาต่อเนื่อง วางยุทธศาสตร์เพื่อยกระดับการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพ สนับสนุนเงินทุนเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับสหกรณ์ต่างๆอย่างทั่วถึง
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กองทุนพัฒนาสหกรณ์ ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้รับการประเมินผลการดำเนินงานจากกรมบัญชีกลางว่าเป็นกองทุนหมุนเวียนที่มีผลการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับดีเด่น โดยมีเกณฑ์การประเมินใน 4 ด้าน คือ ด้านการเงิน ด้านการสนองประโยชน์ ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้านการปฏิบัติการ และด้านการบริหารพัฒนาทุนหมุนเวียน ซึ่งกองทุนพัฒนาสหกรณ์ผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ว่าเป็นกองทุนที่สามารถดำเนินงานได้บรรลุเป้าหมายตามภารกิจ มีการพัฒนาการบริหารงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้เข้ารับรางวัล "ผลการดำเนินงานดีเด่น" และรางวัลชมเชย "การพัฒนาดีเด่น" จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในงานมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2559 โดยมีนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้จัดงานจากกระทรวงการคลัง ร่วมให้การต้อนรับและนำชมบูธนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาสหกรณ์ที่เข้าร่วมจัดแสดงภายในงานดังกล่าว ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา
กองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2542 เพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง โดยการสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้สหกรณ์ต่าง ๆ กู้ยืมไปบริการแก่สมาชิก ทั้งในด้านการรวบรวมผลผลิต การจัดหาสินค้ามาจำหน่าย การลงทุนในทรัพย์สินและการให้สมาชิกกู้ยืมไปประกอบอาชีพ แต่ละปีจะอนุมัติวงเงินกู้ยืมให้แก่สหกรณ์ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งสหกรณ์ที่กู้ยืมเงินสามารถส่งชำระหนี้คืนได้ตามกำหนดเกินกว่า 92% และผลการดำเนินงานใน ปี 2558 ที่ผ่านมา กองทุนฯได้อนุมัติเงินกู้โครงการปกติ วงเงิน 2,570.166 ล้านบาท ให้สหกรณ์ 900 แห่งกู้ยืม เพื่อสนับสนุนโครงสร้างปัจจัยพื้นฐาน สนับสนุนด้านการผลิตและการตลาดและสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสหกรณ์ และมีเงินกู้โครงการพิเศษ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 อีก 15 โครงการ วงเงินกู้ 1,429.834 ล้านบาท ให้สหกรณ์ 547 แห่ง กู้ยืมไปดำเนินธุรกิจต่าง ๆ อาทิ เป็นทุนรวบรวมผลไม้ในฤดูกาล ผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าว ธุรกิจการรวบรวมกาแฟ การเสริมสร้างความมั่นคงให้สหกรณ์ขนาดเล็ก การดำเนินธุรกิจปาล์มน้ำมันของสหกรณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ สนับสนุนสหกรณ์ในพื้นที่โครงการพระราชดำริและโครงการหลวง พัฒนาธุรกิจสินเชื่อของสหกรณ์และการดำเนินงานของศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ นอกจากนี้ยังมีการอนุมัติเงินกู้เป็นการเฉพาะสำหรับดำเนินโครงการพัฒนาการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพ 80 ล้านบาท และช่วยเหลือเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยให้แก่สหกรณ์ในเขตพื้นที่ภัยแล้งอีกจำนวน 300 ล้านบาทด้วย