กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)แนะประชาชนเรียนรู้แก้ไขจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยจากไฟฟ้าในช่วงฤดูฝนโดยสายไฟฟ้าตามผนังหรือนอกอาคารไม่ควรมีรอยบวมหรือรอยไหม้ สายไฟฟ้าที่อยู่ใต้ฝ้า เพดาน หรือหลังคา ควรหมั่นตรวจสอบหลังคาไม่ให้มีรอยรั่ว พร้อมทำรางร้อยสายไฟ รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อยู่ภายนอกอาคาร ควรจัดให้มีฝาครอบปิดแบบกันน้ำ ขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตั้งอยู่บริเวณที่ชื้นแฉะ ควรติดตั้งสายดิน จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยจากไฟฟ้าในช่วงฤดูฝน
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กล่าวว่าระยะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝนมีปริมาณฝนตกค่อนข้างมาก ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยจากไฟฟ้าสูงกว่าช่วงปกติ โดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุจากความชื้นจากฝน อุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุด ประกอบกับน้ำเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ขอแนะประชาชนเรียนรู้แก้ไขจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยจากไฟฟ้า ดังนี้สายไฟฟ้าที่อยู่ตามผนังหรือนอกอาคาร โดยเฉพาะสายไฟที่ใช้งานมานาน หากมีรอยบวม เปื่อยยุ่ยหรือรอยไหม้ให้เปลี่ยนใหม่ รวมถึงร้อยสายไฟใส่ท่อเพื่อป้องกันสายไฟฟ้าชำรุดและกระแสไฟฟ้ารั่ว สายไฟฟ้าที่อยู่ใต้ฝ้า เพดาน หรือหลังคา ควรหมั่นตรวจสอบหลังคาไม่ให้มีรอยรั่วพร้อมทำรางร้อยสายไฟฟ้า เพื่อป้องกันน้ำฝนซึมหรือสัตว์กัดแทะทำให้สายไฟชำรุด อุปกรณ์ไฟฟ้าที่อยู่ภายนอกอาคารควรจัดให้มีฝาครอบปิดแบบกันน้ำ พร้อมตรวจสอบฝาครอบไม่ให้มีรอยแตกเพื่อป้องกันน้ำรั่วซึม ทำให้กระแสไฟฟ้าลัดวงจร เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตั้งอยู่บริเวณที่ชื้นแฉะ อาทิ ปั๊มน้ำตู้กดน้ำดื่ม เครื่องซักผ้า เครื่องทำน้ำอุ่น ควรติดตั้งสายดินเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่ว ทำให้ผู้ใช้งานถูกไฟฟ้าดูด ทั้งนี้การตรวจสอบและแก้ไขจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยจากไฟฟ้า จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในช่วงฤดูฝนและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยจากไฟฟ้าท้ายนี้ หากประสบหรือพบเห็นผู้ประสบอุบัติภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th