กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และวาตภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ฉะเชิงเทรา และเลย บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจากวาตภัย 8 หลังคาเรือน ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว พร้อมแจ้งเตือนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 25 – 30 กรกฎาคม 2559 ซึ่ง ปภ. ได้ประสานจังหวัดเสี่ยงภัยติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และวาตภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว ไม่มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลบางคล้า อำเภอบางคล้า ไม่มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่และฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยหน่วยทหารในพื้นที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว จังหวัดเลยเกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในพื้นที่หมู่ที่ 8 9 และ 12 ตำบลด่านซ้าย บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 8 หลังคาเรือน ต้นไม้ล้มขวางเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 2 สาย ได้แก่ ถนนสายเลย – ด่านซ้าย บริเวณวัดวิวัฎฎะ บ้านเดิ่น ตำบลด่านซ้าย และถนนสายปากหมัน – บ้านนาข่า ตำบลปากหมัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเลย ได้ร่วมกับหน่วยทหารและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น รวมถึงเคลื่อนย้ายต้นไม้ที่กีดขวางถนน ซึ่งสามารถเปิดใช้เส้นทางได้ตามปกติแล้วอย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 25 – 30 กรกฎาคม 2559 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทย มีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัย จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ในส่วนของการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมรับมืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากฝนตกหนัก รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th