กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--ปตท.
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ลดลง 0.65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 46.54เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ลดลง 0.15 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 42.44เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) ลดลง 0.67 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่44.92 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เพิ่มขึ้น 0.02 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 51.82 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลลดลง 1.05 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 53.81เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
· รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซีย นาย Alexander Novak เผยยังไม่มีการร่วมมือกับกลุ่มOPEC เพื่อควบคุมปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ การหารือมีขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนด้านข้อมูลข่าวสารและวิเคราะห์ตลาดเท่านั้น และกล่าวว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปี พ.ศ.2559 จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.93 ล้านบาร์เรลต่อวัน มากกว่าสถิติสูงสุดในรอบ 30 ปี ใน พ.ศ. 2558 ที่ ระดับ 10.73 ล้านบาร์เรลต่อวัน
· Reuters รายงานปริมาณส่งออกน้ำมันดิบของอิรักจากท่าส่งออกทางตอนใต้ช่วง 1-21 ก.ค. 59 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันเดือนก่อน 100,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 3.28 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนปริมาณส่งออกน้ำมันดิบจากท่าส่งออกทางตอนเหนือช่วงระยะเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้น 36,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 550,000 บาร์เรลต่อวัน
· Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (Rig) ในสหรัฐอเมริกา สัปดาห์สิ้นสุดวันที่22 ก.ค. 59 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 14 Rig เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ทำให้จำนวนแท่นผลิตน้ำมันที่ยังดำเนินการอยู่ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 371 Rig
· กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund) ปรับลดประมาณการณ์อัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ โลกปี พ.ศ.2559 และ พ.ศ. 2560 ลงมาอยู่ที่ 3.1% ต่อปี และ 3.4% ต่อปีตามลำดับ (ลดลงปีละ 0.1%จากประมาณการเมื่อเดือน เม.ย. 59 จากผลกระทบของ Brexit)
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
· Reuters คาดว่าบริษัท ExxonMobil ในไนจีเรียจะประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) การส่งออกน้ำมันดิบ Qua Iboe ต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากพบว่าการซ่อมแซมท่อขนส่งที่รั่วไหลนั้นใช้เวลามากกว่าที่ประเมินไว้เบื้องต้น
· Reuters รายงานอินเดียนำเข้าน้ำมันดิบเดือน มิ.ย. 59 ที่ระดับ 4.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.1%
· รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอินโดนีเซีย นาย Sudirman Said เผย รัฐบาลมีแผนจัดตั้งคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve-SPR) ซึ่งได้รับงบประมาณจากรัฐบาลแล้ว 8 แสนล้านRupiah (ประมาณ 61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งเพียงพอสำหรับการสำรองน้ำมันดิบเทียบเท่ากับปริมาณการใช้ 1-1.5วัน และตั้งเป้าเก็บสำรองน้ำมันดิบให้ครอบคลุมปริมาณการใช้ของประเทศ 30 วัน (ประมาณ 45 ล้านบาร์เรล)ภายในปี พ.ศ.2564
· Energy Information Administration (EIA) ของสหรัฐฯ รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ก.ค. 59 ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 2.3 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับ 519.5 ล้านบาร์เรล
แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันดิบลดลงจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ประกอบกับนักลงทุนกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาดที่ EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป เชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 ก.ค. 59 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 2.62 ล้านบาร์เรล สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,385ล้านบาร์เรล โดยเฉพาะปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินอยู่ในระดับสูงแม้จะอยู่ในช่วงฤดูขับขี่ และ กองกำลังคุ้มกันโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของลิเบีย หรือ Petroleum Facility Guard (PFG) จะเปิดท่าขนส่งน้ำมันดิบ Es Sider, Ras Lanuf and Zuetina ปริมาณส่งออกรวม 750,000 บาร์เรลต่อวัน ภายในสัปดาห์นี้ หลังรัฐบาลที่ UN หนุนยินยอมจ่ายค่าจ้างให้กับ PFG อนึ่งเจ้าหน้าที่ลิเบียระบุว่าต้องใช้เวลาประมาณ 5 สัปดาห์ ในการซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสียหาย และคาดว่าจะส่งออกน้ำมันดิบได้เบื้องต้น 100,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบเดือน มิ.ย. 59 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.3% อยู่ที่ระดับ 3.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ บริษัท Oilfield Service ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Schlumberger เห็นว่าระดับราคาน้ำมันดิบได้พ้นจุดต่ำสุดแล้ว จึงพิจารณาเสนอราคาค่าบริการที่สูงขึ้นแก่ผู้ผลิตน้ำมันเพื่อเพิ่มกระแสเงินหมุนเวียนในบริษัท และเสริมสภาพคล่อง ให้ติดตามสภาวะเศรษฐกิจอังกฤษที่อาจชะลอตัว หลัง Markit รายงานดัชนี Purchasing Managers' Indexes (PMI)ภาคบริการของอังกฤษเดือน ก.ค. 59 ลดลงจากเดือนก่อน 4.9 จุด อยู่ที่ 47.4 จุด และ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ PMIภาคการผลิตเดือน ก.ค. 59 ลดลงจากเดือนก่อน 3 จุด อยู่ที่ระดับ 49.1 จุด ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนสูงสุดตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติปี พ.ศ. 2539 ทั้งนี้ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 43-47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ NYMEX WTI อยู่ในกรอบ 41-45 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ ดูไบ จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 40-44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวสูงขึ้นจาก Pertamina บริษัทน้ำมันแห่งชาติของอินโดนีเซียออกประมูลซื้อน้ำมันเบนซินชนิด 92 RON จำนวน 2 เที่ยวเรือ ปริมาณรวม 400,000 บาร์เรล ส่งมอบเดือน ส.ค.59 ด้านปริมาณสำรองน้ำมัน International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรองเชิงพาณิชย์ Light Distillates ในสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค. 59 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 610,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 12.92 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน อย่างไรก็ตาม สำนักสถิติแห่งชาติของจีนรายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินในเดือน มิ.ย. 59 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 122% มาอยู่ที่ 9.36 ล้านบาร์เรลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าการใช้ภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14% สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 50-54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงจากสำนักสถิติแห่งชาติของจีนรายงานปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือน มิ.ย. 59 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 64% มาอยู่ที่ 8.17 ล้านบาร์เรล หรือ 1.1 ล้านตัน ซึ่งนับว่าสูงกว่า 1 ล้านตันติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 แล้ว ขณะที่การใช้ภายในประเทศลดลงจากปีก่อน 3% อย่างไรก็ตามIES รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ในสิงคโปร์สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค. 59 ลดลง จากช่วงเดียวกันสัปดาห์ก่อน 340,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 10.98 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ จาก สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 52-56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล