กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2559 – 2564 ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมที่เป็นวิกฤตคุณธรรมและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาประเทศให้สมดุลทั้งทางวัตถุและจิตใจ "คุณธรรมนำการพัฒนา" สร้างสังคมแห่งคุณธรรม โดยส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมสร้างค่านิยมจิตสำนึกที่ดีแก่ประชาชน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า สำหรับเนื้อหาและรายละเอียดของแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 มีวิสัยทัศน์ให้ "สังคมไทยมีคุณธรรมเป็นรากฐานที่สำคัญในการดำรงชีวิต สืบสานความเป็นไทยอยู่ร่วมกันด้วยความสันติสุขในประเทศไทย ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกอย่างยั่งยืน" ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ คือ 1. วางระบบรากฐานการเสริมสร้างคุณธรรมในสังคมไทย เป็นการวางรากฐานการพัฒนาคุณธรรมให้กับทุกสถาบันในสังคมให้มีส่วนร่วมสืบสานความเป็นไทยและยึดมั่นในสถาบันชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ เน้นการพัฒนาและยกระดับจิตใจประชาชนให้มีคุณธรรม อาทิ จัดตั้งศูนย์คุณธรรมพัฒนาครอบครัวในชุมชน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเสริมสร้างสถาบันครอบครัวในชุมชน 2. สร้างความเข้มแข็งในระบบการบริหารจัดการด้านการส่งเสริมคุณธรรมให้เป็นเอกภาพเป็นการสร้างและพัฒนาระบบส่งเสริมคุณธรรมให้มีโครงข่ายที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ อาทิ การสนับสนุนให้จัดตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ในชุมชนคุณธรรมเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ระหว่างศาสนาหรือชาติพันธุ์ในชุมชน
นายวีระ กล่าวว่า 3. สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการส่งเสริมคุณธรรมเป็นการผนึกกำลังทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วม ตลอดจนสร้างบุคคลต้นแบบที่เป็นแกนนำขับเคลื่อนและขยายภาคีเครือข่ายให้เพิ่มมากขึ้น อาทิ การส่งเสริมสนับสนุนการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานความร่วมมือในการส่งเสริมคุณธรรมชมรม หรือหน่วยเผยแพร่คุณธรรมตามหลักศาสนา และ 4. ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแบบอย่างด้านคุณธรรมในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกเป็นการสร้างคุณธรรมความร่วมมือในประชาคมอาเซียน ให้อยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทรและแบ่งปันในทุกมิติ อาทิ การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ทางศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม หรือศูนย์ศาสนิกสัมพันธ์แห่งอาเซียน โดยหลังจากนี้จะมีการขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติสู่การปฏิบัติ โดยให้ความสำคัญกับการแปลงแผนสู่การปฏิบัติในระดับต่างๆกระจายสู่ทุกพื้นที่ ยึดหลักภารกิจและการมีส่วนร่วมโดยมีคณะอนุกรรมการส่งเสริมคุณธรรมระดับกระทรวงและจังหวัด เป็นผู้ขับเคลื่อน กำกับติดตามเพื่อให้เข้าถึงประชาชน ทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิผล