กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ในเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) รายงานผลกำไรสุทธิสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2559 จำนวน 10.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 20.1% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 สะท้อนอัตราการขยายตัวสินเชื่อที่น่าพอใจและครอบคลุมในทุกกลุ่มธุรกิจที่ 4.2%
สำหรับผลการดำเนินงานเฉพาะไตรมาส 2 ของปี 2559 กรุงศรีมีกำไรสุทธิ 5.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.2% จากไตรมาส 2/2558 และเพิ่มขึ้น 2.3% จากไตรมาส 1/2559
สรุปผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) และฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2559
· การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ: เพิ่มสูงขึ้น 4.2% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 54.9 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558
· การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 1.5% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 15.8 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558
· กำไรสุทธิ: เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ 20.1% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2558
· ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): อยู่ที่ 3.78% สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2559
· รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย: เพิ่มขึ้น 11.0% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2558
· อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: อยู่ที่ 46.1% ปรับตัวดีขึ้นจาก 46.7% ในครึ่งปีแรกของปี 2558
· สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ที่ 2.2% นับเป็นระดับต่ำสุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย
· อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 146.4%
· อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ที่ 13.8% เมื่อเทียบกับ 13.6% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 สินเชื่อเพิ่มสูงขึ้น 4.2% โดยมียอดรวมอยู่ที่ 1.36 ล้านล้านบาท คิดเป็นจำนวน 54.9 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 ทั้งนี้ สินเชื่อเพื่อรายย่อยเพิ่มสูงขึ้น 5.5% จากความต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้น 3.5% และ 2.5% ตามลำดับ
เงินรับฝากมีจำนวนทั้งสิ้น 1.06 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 15.8 พันล้านบาท หรือ 1.5% จากเดือนธันวาคม 2558 การเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากส่วนใหญ่เป็นผลจากเงินรับฝากออมทรัพย์และผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ "กรุงศรีมีแต่ได้" ทั้งนี้ สัดส่วนของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์และจ่ายเงินคืนเมื่อทวงถามต่อสัดส่วนเงินรับฝากทั้งหมดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53.9% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3.78%
อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 2.2% นับเป็นระดับต่ำที่สุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 146.4% จากการขยายตัวของพอร์ตเงินให้สินเชื่อด้วยความรอบคอบระมัดระวัง
นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้ ความสำเร็จด้านการขยายตัวของสินทรัพย์และผลการดำเนินงานที่น่าพอใจของกรุงศรี สะท้อนศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของธนาคาร โดยเงินให้สินเชื่อเติบโตสูงถึง 4.2% ครอบคลุมในทุกกลุ่มธุรกิจ ส่งผลให้ธนาคารมีโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อที่สมดุล ด้วยสัดส่วนสินเชื่อเพื่อธุรกิจที่ 57% และสินเชื่อเพื่อรายย่อยที่ 43%"
นายโกโตะ ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจโดยรวมว่า "สำหรับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2559 กรุงศรีคาดว่า เศรษฐกิจจะยังคงขับเคลื่อนสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตแข็งแกร่ง การเร่งเบิกจ่ายของภาครัฐและการลงทุน ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ กอปรกับการฟื้นตัวของภาคเกษตร ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานดังกล่าว กรุงศรีจึงยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อของทั้งปี 2559 ที่ 5-6%"
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับห้าในไทยมีสินเชื่อรวม 1.36ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.06 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.78 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 174.6 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 13.8% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 12.1%