กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 3 โดยเก็บจากกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 1,123 กลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลในวันที่ 22 - 24 กรกฎาคม 2559 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ใช้เกณฑ์ตารางสำเร็จรูปของ Taro Yamane กำหนดว่า ประชากรเกิน 100,000 คนต้องการความเชื่อมั่น 95% และความผิดพลาดไม่เกิน 3% ต้องใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,111 กลุ่มตัวอย่าง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ กล่าวว่า ทางศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ ต้องการสะท้อนความคิดเห็นในเรื่องการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดวันออกเสียงประชามติ โดยกำหนดให้วันที่ 7 ส.ค. 2559 เป็นวันออกเสียงประชามติ และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ ดำเนินการประชาสัมพันธ์และการเตรียมการออกเสียงประชามติ ซึ่งผลการสำรวจในครั้งนี้ต่อการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 มีข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ทราบว่าจะมีการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2559 ร้อยละ 72.2 อันดับสองคือไม่ทราบ ร้อยละ 21.6 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 6.2
ในส่วนของความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 อยู่ ในระดับเข้าใจปานกลางเป็นอันดับหนึ่ง ร้อยละ 54.2 อันดับสองคือเข้าใจน้อย ร้อยละ 17.1 และอันดับที่สามคือ เข้าใจมาก ร้อยละ 28.7
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คิดว่าไปออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2559 ร้อยละ 73.1 อันดับสองคือไม่ไปออกเสียงประชามติ ร้อยละ 16.5 และอันดับที่สามคือไม่แน่ใจ ร้อยละ 10.4 และคิดว่าจะศึกษาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ก่อนไปออกเสียงประชามติ ร้อยละ 62.1
และในการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ทราบว่ามีคำถามพ่วง ร้อยละ 50.1 อันดับสองคือไม่ทราบ ร้อยละ 33.7 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 16.2
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดว่าจะเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ในการออกเสียงประชามติ ร้อยละ 52.9อันดับสองคือยังไม่ตัดสินใจ ร้อยละ 26.4 และอันดับที่สามคือไม่เห็นชอบ ร้อยละ 20.7
ในส่วนของคำถามพ่วง ในการออกเสียงประชามติ อันดับแรกคือเห็นชอบ ร้อยละ 47.2 อันดับสองคือ ยังไม่ตัดสินใจ ร้อยละ 27.9 และอันดับที่สามคือไม่เห็นชอบ ร้อยละ 24.9