กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--สายการบินแอร์เอเชีย
แอร์เอเชียเซ็นสัญญากับบริษัทแอร์บัสสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่แอร์บัส A321neoจำนวน 100 ลำ โดยโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแอร์เอเชีย ร่วมลงนามกับ ฟาบริซ เบรจิเย่ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอร์บัส ในวันนี้ (12 ก.ค.) ที่งาน Farnborough International Airshow
สายการบินแอร์เอเชียได้สั่งซื้อเครื่องบินโมเดลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและขายดีที่สุดของเครื่องบินตระกูล A320 โดยเครื่องบินรุ่นดังกล่าวเป็นเครื่องบินโดยสารทางเดินเดี่ยวมีที่นั่งมากถึง 238 ที่นั่ง ซึ่งจะทำให้สายการบินสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งผู้โดยสารมากขึ้นได้ในแต่ละเที่ยวบิน และบริหารจัดการต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น
การประกาศลงนามซื้อขายอย่างเป็นทางการในวันนี้ ทำให้ยอดคำสั่งซื้อเครื่องบินตระกูล A320 ของสายการบินแอร์เอเชียเพิ่มขึ้นสูงถึง575 ลำ ซึ่งถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของแอร์บัสในกลุ่มของเครื่องบินโดยสารทางเดินเดียว จนถึงวันนี้มีเครื่องบินจำนวนมากกว่า 170 ลำ ที่ได้ส่งมอบให้แก่สายการบินไปแล้ว ซึ่งให้บริการอยู่ในประเทศมาเลเซีย ไทย อินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
โทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแอร์เอเชียกล่าวว่า กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย ให้บริการผู้โดยสารมากกว่า 1,000 เที่ยวบินต่อวัน สู่จุดหมายปลายทางมากกว่า 120 แห่ง ใน 24 ประเทศ ขณะเดียวกันยังมีอัตราการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 85 ในช่วงไตรมาสมาสแรกของปี 2559 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งแอร์เอเชียเชื่อมั่นว่าจะสามารถคงการเติบโตเช่นนี้ต่อไปได้ โดยการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A321neo รุ่นใหม่ในครั้งนี้จะช่วยให้แอร์เอเชียสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยบริหารจัดการต้นทุนที่ดีในภาพรวมของกลุ่มสายการบินได้อีกด้วย ซึ่งหมายถึงราคาค่าโดยสารต่อที่นั่งที่จะลดลงเช่นเดียวกัน ทั้งนี้แอร์เอเชียต้องขอแสดงความยินดีกับแอร์บัสที่สามารถผลิตเครื่องบิน A321neo ที่สามารถตอบสนองความต้องการของสายการบินในการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โทนี่ เฟอร์นานเดส กล่าวว่า เราจะนำเครื่องบิน A321neo ไปให้บริการในเส้นทางบินที่ได้รับความนิยม มีการเดินทางเป็นจำนวนมาก และสนามบินที่มีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับเครื่องบินรุ่นดังกล่าวได้ ซึ่งจะทำให้แอร์เอเชียสามารถขนส่งผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นต่อเที่ยวบิน อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อท่าอากาศยานในด้านการเก็บรายได้อีกด้วย โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นของสายการบินในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการ รายได้จากการบริการผู้โดยสาร ขณะที่ท่าอากาศยานจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการค้าขายสินค้าในสนามบิน อย่างไรก็ตามแอร์เอเชียจะยังคงความสามารถในการจัดเตรียมเที่ยวบินถัดไปให้อยู่ภายในระยะเวลา 25 นาทีได้เช่นเดิม เพื่อรักษามาตรฐานความต่อตรงเวลาอันเป็นหัวใจสำคัญของสายการบินแอร์เอเชีย
ฟาบริซ เบรจิเย่ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอร์บัส กล่าวว่าเรามีความยินดีอย่างมากที่ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากแอร์เอเชีย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีต่อเครื่องบินโดยสารทางเดินเดี่ยว ซึ่งเป็นรุ่นที่เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มของเครื่องบินที่มีที่นั่งมากกว่า 200 ที่นั่ง แอร์บัสจึงยินดีที่จะเห็น A321neo ออกปฎิบัติการในฝูงบินของแอร์เอเชีย และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสำเร็จให้กับสายการบินที่เป็นผู้นำด้านสายการบินราคาประหยัดของโลก
ทั้งนี้เครื่องบินตระกูลแอร์บัส A320 ที่เครื่องบินโดยสารทางเดินเดี่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยคำสั่งซื้อมากกว่า 12,600ลำ ตั้งแต่เปิดตัวมา โดยในขณะนี้มีเครื่องบินมากกว่า 7,100 ลำ ที่ได้ส่งมอบไปยังผู้ให้บริการกว่า 320 รายทั่วโลก ในขณะที่เครื่องบินโดยสารตระกูล A320neoนั้นเป็นเครื่องบินโดยสารในตระกูลที่ได้ระบบการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด รวมถึงเครื่องยนต์รุ่นใหม่ และมีปลายปีกแบบ Sharklet ที่สามารถช่วยให้ประหยัดพลังงานได้มากถึงร้อยละ 15 ในปัจจุบัน และจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20 เมื่อได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีในห้องโดยสารรุ่นใหม่ภายในปี2563