กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--โรงแรม ดับเบิ้ลยู
เดอะ คอร์ทยาร์ด (The Courtyard) สวนสวยใจกลางของบ้าน เดอะเฮ้าส์ออนสาทร (The House on Sathorn) อีกหนึ่งที่โปรดของใครหลายๆคน ให้คุณนั่งพักผ่อนหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองกรุงเทพมหานครพร้อมรับประทานอาหารหรือจิบเครื่องดื่มได้ตลอดวัน
เดอะ คอร์ทยาร์ด นำเสนอบุฟเฟ่ต์อาลาคาร์ท 'วีคเอนด์ บาร์บีคิว (Weekend BBQ)' ที่เชฟเลือกสรรเฉพาะเนื้อสัตว์เกรดพรีเมี่ยมหลากหลายชนิด ให้คุณและครอบครัวได้ใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ไปกับการรับประทานอาหารร่วมกันอย่างสนุกสนาน
เริ่มต้นมื้อของคุณด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง สลัดมะเขือม่วงรมควันกับมะเขือเทศสดโรยหน้าด้วยเมล็ดทับทิม ใบโหระพา ไพน์นัท (Pine nut) คลุกเคล้าด้วยน้ำมันมะกอก และอื่นๆอีกมากมาย ตัวเลือกเนื้อสัตว์สำหรับบาร์บีคิวหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กุ้งลายเสือ ซี่โครงแกะ เนื้อวัวออร์แกนิค ที่เสิร์ฟพร้อมซอส 4 ชนิด ได้แก่ ซอสเนยพอนซึ (Ponzu Butter) ซอสน้ำผึ้งคอนยัคมัสตาร์ด (Honey-cognac Grain Mustard) ซอสพริกไทยดำสไตล์สิงคโปร์(Singapore Black Pepper Sauce) และซอสไวน์แดงบอร์เดอเลส์ (Red Wine Bordelaise) นอกจากนี้ยังมีปลาเผาเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด และเครื่องเคียงอีกมากมาย เช่น เห็ดผัด ข้าวบาร์เลย์ผัดสไตล์อิตาเลียน มันฝรั่งทอดปรุงรสด้วยเกลือทรัฟเฟิล ผัดบร็อคโคลี่ และผักรวมย่าง เป็นต้น
เพลิดเพลินอย่างต่อเนื่องกับเมนูขนมหวานซิกเนเจอร์อย่าง 'ฮ่องกงวาฟเฟิล (Hongkong Waffle) ' ที่เสิร์ฟพร้อมเบอร์รี่สด ราดด้วยเมเปิ้ลไซรัปและวิปครีม ไอศครีมโฮมเมดและผลไม้สดตามฤดูกาลอีกมากมาย
'วีคเอนด์ บาร์บีคิว' ราคา 1,350++ บาท/ท่าน ให้บริการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึง เดือนกันยายนนี้ ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 12.00 น. – 15.00 น. ที่ เดอะ คอร์ทยาร์ด
นอกจากนี้นักดื่มทั้งหลายยังสามารถมานั่งจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากหลายชนิดพร้อมกับส่วนลดพิเศษจาก โปรโมชั่น 'The Early Evening' วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 17.00 น. – 19.00 น. พร้อมส่วนลด 25% สำหรับเมนูค็อกเทล และเบียร์ ที่ เดอะ คอร์ทยาร์ด และ เดอะ บาร์ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2559
เดอะ คอร์ทยาร์ด เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 24.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 344 4000 หรือ อีเมล thehouseonsathorn@whotels.com
ติดตามข่าวสารอัพเดทของเดอะเฮ้าส์ออนสาทรได้ที่ www.facebook.com/thehouseonsathorn
อินสตาแกรม @thehouseonsathorn หรือ เว็ปไซต์ www.thehouseonsathorn.com
ชุบชีวิตใหม่ให้กับแลนด์มาร์คใจกลางกรุงเทพ
อาคารหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2432 ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นบ้านพักของครอบครัว หลวงสาทรราชายุกต์ นักธุรกิจผู้มั่งคั่งและเป็นผู้ริเริ่มขุดคลองสาทร อาคารนี้กลายเป็นมรดกตกทอดสู่รุ่นลูกหลาน จนกระทั่งช่วงปี พ.ศ. 2463 ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นโรงแรมหรู โฮเทล รอยัล จากนั้นระหว่างปี พ.ศ. 2491- 2542 คฤหาสน์นี้ถูกนำไปเช่าต่อเป็นที่ทำการสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย
ด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันสำคัญของตัวอาคาร ทีมงานได้ร่วมมือกับกรมศิลปากรอย่างใกล้ชิด เพื่อบูรณะอาคารหลังนี้ให้กลับมาสวยสง่างามดังเช่นในอดีต และเพื่อรับหน้าที่ใหม่สำหรับ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร การปรับปรุงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับตึกหลักทั้งสี่หลังรวมทั้งสนามหญ้าโดยยังรักษาโครงสร้างเดิมของตึกไว้อย่างครบถ้วน เช่นเดียวกับรายละเอียดภายใน แนวทางการใช้สี ราวบันไดไม้ที่สลักลายอย่างวิจิตร และรูปปูนเปียกนูนต่ำลวดลายประจำตระกูลของหลวงสาทรราชายุกต์ก็ได้รับการบูรณะไว้ตามแบบเดิมไม่ผิดเพี้ยนในความดูแลของกรมศิลปากร ในด้านรายละเอียดสมัยใหม่ที่เพิ่มความขัดแย้งอย่างลงตัวให้กับอาคารนี้เป็นผลงานการออกแบบของบริษัทออกแบบตกแต่งภายในชื่อดัง AvroKO จากนิวยอร์ก
เชฟ ฟาติห์ ทูทัค
เชฟฟาติห์ ทูทัค ผู้อำนวยการด้านอาหาร (Director - Culinary) ของ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร มาจากกรุงอิสตันบูลในประเทศตุรกี เชฟฟาติห์เป็นผู้ควบคุมดูแลทั้งด้านอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด เมนูต่างๆเชฟได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินทางท่องไปทั่วเอเชียและประเทศอื่นๆ เชฟฟาติห์ไม่หยุดยั้งการค้นหาเมนูและวิธีการปรุงอาหารแบบใหม่ๆ และมักจะสนทนากับแขก ผ่านรสชาติ สัมผัสและสีสันที่นำเสนอพร้อมกับเรื่องราวของเมนูอาหารแต่ละจาน
"ผมสนใจการทำอาหารมาตั้งแต่ยังเด็กเพราะอาหารฝีมือคุณแม่ ความสนใจนั้นกลายมาเป็นความหลงใหลที่เติมเต็มความฝันของผมในการมาเป็นเชฟ" เชฟฟาติห์อธิบาย "การนำเอาส่วนผสมตามฤดูกาลที่ดีที่สุดจากเอเชียมาใช้ ทำให้ทุกจานที่ผมทำสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวการเดินทางของผมและความตื่นเต้นเมื่อผมค้นพบสิ่งใหม่ๆ คอนเซ็ปต์ที่ผมเรียกว่า "ฟันไดน์นิ่ง (Fun Dining)" นี้เป็นความลงตัวของเทคนิค ความสามารถในการทำอาหารและอารมณ์ขัน ที่เข้ากันกับเรื่องราวของบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี"
เชฟฟาติห์ เข้ามาร่วมงานกับ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร หลังจากร่วมงานกับ ร้านอาหาร เดอะ เบลบรู๊ค ฮ่องกง (The Bellbrook Hong Kong) ที่ได้รับการยอมรับใน ฮ่องกง – มาเก๊า มิชลิน ไกด์ 2015 (Hong Kong-Macau Michelin Guide 2015) ประสบการณ์การทำงานอื่นๆ ของเชฟ ได้แก่ ห้องอาหารโนม่า (NOMA) ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในโคเปนเฮเกนและเป็นห้องอาหาร มิชลินสตาร์สองดาว และ นิฮอนเรียวริ ริวกิง (Nihonryori Ryugin) ในโตเกียว ที่เป็นห้องอาหารมิชลินสตาร์สามดาว เชฟฟาติห์ ยังเคยได้รับตำแหน่งซูส์เชฟที่ มารีน่า เบย์ แซนด์ส (Marina Bay Sands) ในประเทศสิงคโปร์ด้วย
ดื่มด่ำไปกับรสชาติของอาหาร
ด้วยความรักในการเดินทางของเชฟฟาติห์เป็นทุนเดิม แขกที่มารับประทานอาหารจะอิ่มเอมไปกับประสบการณ์ที่ยากจะลืมที่ เดอะ ไดน์นิ่งรูม อย่างซาซิมิสดๆ จากตลาดปลาซึกิจิในโตเกียว (Tsukiji Market) กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของเมนูปลาดิบที่ชื่อ "Early Morning at Tsukiji Market" ในขณะที่กล้วยปิ้งแบบไทยกลายมาเป็นของหวานแสนปราณีตเมื่อจับคู่กับน้ำตาลโอกินาว่าและไนโตรเจนเหลว ที่ชื่อว่า ''On My Way Home to Silom'' อาหารจานเด่นเหล่านี้รวมอยู่ในเมนูอาหารสไตล์เอเชียสมัยใหม่ หรือ New Asian Cuisine ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจจากประเทศต่างๆในทวีปเอเชีย
ก้าวออกไปด้านนอก เดอะ คอร์ทยาร์ด คือที่พักผ่อนหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองหลวง นำเสนอที่รับประทานอาหารกลางแจ้ง และเมนูอาหารง่ายๆ แขกยังสามารถพักผ่อนจิบชากลางสวยสวนในยามบ่าย พร้อมชุดน้ำชาและขนมหวานโดยฝีมือเชฟชาวฝรั่งเศส เชฟนิโคลัส เดสคลิโอ
วิสัยทัศน์ด้านอาหารของเชฟฟาติห์ ยังครอบคลุมไปถึงคราฟท์ค็อกเทล ที่ เดอะ บาร์ บริเวณชั้นหนึ่งที่ซึ่งจะเสิร์ฟค็อกเทลที่มีกลิ่นอายความเป็นเอเชีย รวมไปถึงแชมเปญ สาเก ไวน์และกับแกล้มที่น่าลิ้มลองเพื่ออุ่นเครื่องสำหรับปาร์ตี้ในตอนดึก และ อัพสแตร์ส เปิดประตูต้อนรับเหล่าเทรนเซ็ทเตอร์ทั้งหลายให้มาร่วมสังสรรค์ในบรรยากาศปาร์ตี้แบบส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับ เดอะเฮ้าส์ออนสาทร สามารถดูได้ที่www.thehouseonsathorn.com