กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บมจ. เอกชัยการแพทย์ (EKH) ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนใน จ.สมุทรสาคร พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 27 ก.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,830 ล้านบาท
ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. เอกชัยการแพทย์ (EKH) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์ ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 นี้ โดย EKH ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลภายใต้ชื่อ "โรงพยาบาลเอกชัย" ขนาด 100 เตียง ให้บริการเชิงคุณภาพในจังหวัดสมุทรสาครและพื้นที่ใกล้เคียง มีกลุ่มแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์โดยเฉพาะด้านสูติ-นรีเวช และกุมารเวช และศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน กลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ ลูกค้าทั่วไปที่ชำระค่าบริการเอง และลูกค้าคู่สัญญา
EKH มีทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 433.20 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 166.80 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 156.80 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 10 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 15 และ 20-21 กรกฎาคม 2559 ในราคาหุ้นละ 3.05 บาท มูลค่าระดมทุนรวม 508.74 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,830 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการบริหาร บมจ. เอกชัยการแพทย์ (EKH) และผู้อำนวยการโรงพยาบาล เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้กับบริษัท โดยจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ สร้างศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ที่ให้บริการแม่และเด็กอย่างครบวงจร ปรับปรุงอาคารโรงพยาบาลเดิมและลานจอดรถ เพื่อสะท้อนการเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ที่พร้อมยกระดับคุณภาพและการบริการสู่มาตรฐานสากล รวมทั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
EKH มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มตระกูลเอื้ออารีมิตร ถือหุ้นรวม 19.66% กลุ่มตระกูลตั้งสัจจะพจน์ ถือหุ้นรวม 18.01% และกลุ่มตระกูลปัญญาสาคร ถือหุ้นรวม 4.62% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 30.50 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการ 12 เดือนล่าสุด (ตั้งแต่ 1 เมษายน 2558-31 มีนาคม 2559) หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.10 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินของบริษัทหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.ekachaihospital.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th
"ทศวรรษที่ 5 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อคนไทยเข้าถึงการลงทุนที่มั่งคั่งยั่งยืน"