ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน เร่งเครื่องสู่หลักชัยเติบโตรับฤดูการขายถึง 15.4 % ด้วยตัวเลขรวม 26,798 คัน และ ยอดขายสะสม 11 เดือน 260,213 คัน

ข่าวยานยนต์ Friday December 14, 2001 12:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.-- โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานยอดจำหน่ายรถยนต์เดือน
พฤศจิกายน ด้วยยอดจำหน่ายรวม 26,798 คัน เติบโต 15.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีในทุกตลาด โดย
ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเจริญเติบโตสูงสุด ถึง 22.2% ด้วยตัวเลขการจำหน่าย 9,293คัน อันดับ 2 ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีอัตราส่วนการ
เจริญเติบโตที่ 16.5% ด้วยตัวเลขการจำหน่าย 15,526 คัน และอันดับ 3 ตลาด รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เติบโต 12.2% ด้วยตัวเลขการจำหน่าย
17,505 คันตามลำดับ ส่วนทางด้านของตัวเลขการจำหน่ายสะสม 11 เดือนของปีนี้ มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น
260,213 คัน อัตราการเจริญเติบโต 13.7% ประกอบด้วยตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์นั่ง 90,542 คัน เพิ่มขึ้น 24.2% รถกระบะขนาด 1 ตัน
148,381 คัน เพิ่มขึ้น 12.4 % และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 169,671 คัน เพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ประเด็นสำคัญ
1. ภาพรวมของตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน มีอัตราการเจริญเติบโตสูงถึง 15.4% ด้วยปริมาณการขายในตลาดรวมที่ 26,798 คัน
อัตราการเจริญเติบโตที่สูงน่าจะมีผลมาจากการเข้าสู่ฤดูการขาย ประจำปีในช่วงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งค่ายรถยนต์ต่างทุ่มแคมเปญส่งเสริมการขาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคมเปญทางด้านเงื่อนไขพิเศษในการซื้อโดยวิธีการผ่อนชำระ ด้วยเงื่อนไขดอกเบี้ยราคาพิเศษดาวน์น้อย-ผ่อนนาน แถมทองคำ
ประกันภัยชั้น 1 รวมทั้งบัตรกำนัล เพื่อหวังกวาดยอดจองให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะปิดตัวเลขการขายประจำปีในเดือน ธันวาคม
2. ตลาดรวมรถยนต์ประจำปี 2544 ที่มีการคาดหมายตัวเลขว่าน่าจะมีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขประมาณ 290,000 คัน มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
และเมื่อพิจารณาตัวเลขการขายสะสมในระยะเวลา 11 เดือนที่ผ่านมาด้วยตัวเลข 260,213 คัน และอัตราการเจริญเติบโต 13.7 % เมื่อเทียบกับช่วง
เดียวกันของปีที่แล้ว แสดงถึงความมั่นใจของผู้บริโภคในการใช้จ่ายเงินรวมทั้งการซื้อรถยนต์ การเข้าสู่ฤดูการขาย พร้อมทั้งการแข่งขันที่สูงของบริษัท
รถยนต์ที่ต่างนำเสนอเงื่อนไขพิเศษมากมายที่ล้วนจูงใจและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเงิยฝากธนาคารพาณิชย์ที่มีการปรับตัว
ลดลงเหลือเพียง 1.75 % จึงมีผลกระตุ้นการตัดสินใจซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ดังนั้นตัวเลขการขายประจำปีน่าจะบรรลุเป้าหมายที่ได้คาดหมาย
ไว้ซึ่งต้องติดตามดูตัวเลขการขายของเดือนธันวาคมต่อไป
3. ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงถึง 22.2 % และมียอดขายสะสมที่ 90,542 คัน เป็นผลมา จากการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ
เข้าสู่ตลาด ได้แก่ ซันนี่ นีโอ โคโรลล่า อัลติส และ ล่าสุด แลนเซอร์ ซีเดีย ส่วนทางด้านตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันมีอัตราการเจริญเติบโตที่ 16.5 %
และมียอดขายสะสมที่ 148,381 คัน ก็เป็นผลมาจากการแนะนำรถกระบะรุ่นใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด ได้แก่ ดราก้อนพาวเวอร์ใหม่ ฟรอนเทียร์ และ ไฮลักซ์
ไทเกอร์ ด้วยเช่นกัน
1) สรุปยอดการจำหน่ายรถยนต์เดือน พฤศจิกายน 2544
1.1 ตัวเลขจำหน่ายตลาดรถยนต์รวม จำนวน 26,798 คัน อัตราการเจริญเติบโต 15.4 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,131 คัน เพิ่มขึ้น 74.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 34.1 %
อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,248 คัน เพิ่มขึ้น 26.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 23.3 %
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 3,135 คัน เพิ่มขึ้น 0.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.7 %
1.2 ตลาดรถยนต์นั่ง จำนวน 9,293 คัน อัตราการเจริญเติบโต 22.2 %
อันดับที่ 1 โตโยต้า 3,604 คัน เพิ่มขึ้น 86.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 38.8 %
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 2,955 คัน เพิ่มขึ้น 12.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 31.8 %
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 799 คัน เพิ่มขึ้น 505.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.6 %
1.3 ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน จำนวน 15,526 คัน อัตราการเจริญเติบโต 16.5%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 5,700 คัน เพิ่มขึ้น 23.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 36.7 %
อันดับที่ 2 โตโยต้า 5,010 คัน เพิ่มขึ้น 74.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 32.3 %
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,833 คัน ลดลง 32.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.8 %
1.4 ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ จำนวน 17,505 คัน อัตราการเจริญเติบโต 12.2 %
อันดับที่ 1 อีซูซุ 6,238 คัน เพิ่มขึ้น 26.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 35.6 %
อันดับที่ 2 โตโยต้า 5,527 คัน เพิ่มขึ้น 68.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 31.6 %
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,895 คัน ลดลง 34.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 10.8 %
2.) สรุปยอดการจำหน่ายรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายน
2.1 ตัวเลขจำหน่ายตลาดรถยนต์รวม จำนวน 260,213 คัน อัตราการเจริญเติบโต 13.7 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
อันดับที่ 1 โตโยต้า 72,107 คัน เพิ่มขึ้น 15.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 27.7 %
อันดับที่ 2 อีซูซุ 62,395 คัน เพิ่มขึ้น 21.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.0 %
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 32,956 คัน เพิ่มขึ้น 28.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.7 %
2.2 ตลาดรถยนต์นั่ง จำนวน 90,542 คัน อัตราการเจริญเติบโต 24.2 %
อันดับที่ 1 โตโยต้า 31,143 คัน เพิ่มขึ้น 25.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 34.4 %
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 29,390 คัน เพิ่มขึ้น 36.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 32.5 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 11,021 คัน ลดลง 0.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.2 %
2.3 ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน จำนวน 148,381 คัน อัตราการเจริญเติบโต 12.4 %
อันดับที่ 1 อีซูซุ 58,272 คัน เพิ่มขึ้น 22.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 39.3 %
อันดับที่ 2 โตโยต้า 36,232 คัน เพิ่มขึ้น 10.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.4 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 17,805 คัน เพิ่มขึ้น 50.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.0 %
2.4 ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ จำนวน 169,671 คัน อัตราการเจริญเติบโต 8.8 %
อันดับที่ 1 อีซูซุ 62,221 คัน เพิ่มขึ้น 21.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 36.7 %
อันดับที่ 2 โตโยต้า 40,964 คัน เพิ่มขึ้น 8.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.1 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 20,415 คัน เพิ่มขึ้น 31.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.0 %
ส่วนทางด้านของตัวเลขการขายรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 18 ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคมที่ผ่านมา ลูกค้าให้ความสนใจ
สั่งจองรถยนต์โตโยต้าในงาน 1,434 คัน โดยที่ลูกค้าให้ความสนใจเกียร์อัตโนมัติใหม่ และเครื่องยนต์ D-4D เป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลให้ตัวเลข
ยอดขายประจำเดือน ธันวาคม และยอดขายสะสมประจำปีนี้ มีความน่าสนใจด้วยเช่นกัน--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ