กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--
ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ร่วมกับ ขายหัวเราะ (บรรลือสาสน์) จัดแสดงนิทรรศการ "อุตสา ฮา กรรม : ผลิตขำ ทำเงิน" พาผู้ชมสำรวจและทำความรู้จักกับอารมณ์ขัน ตีความเสียงหัวเราะเป็นเครื่องมือทางความคิดอันสำคัญยิ่งของมนุษยชาติ เสริมสร้างสมดุลสุขภาวะจิตที่ดี สู่การเป็นเครื่องมือสร้างธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ผ่านการบอกเล่าจากเนื้อหานิทรรศการ 3 ส่วน ได้แก่ อารมณ์ขันไม่ไร้สาระ, คลี่วิธีการใช้งานอารมณ์ขัน, อารมณ์ขันเป็นของทุกคน จัดแสดงระหว่าง 15 กรกฏาคม – 2 ตุลาคม 2559 ที่ ห้องนิทรรศการ 2 ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น 5 ดิ เอ็มโพเรียม
โดย วันที่ 14 กรกฏาคม 2559 ได้จัดพิธีเปิดนิทรรศการนิทรรศการ "อุตสา ฮา กรรม : ผลิตขำ ทำเงิน" ขึ้น โดยได้รับเกียรติ นาย อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ และนาย วิธิต อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บันลือกรุ๊ป จำกัด หรือ 'บ.ก. วิติ๊ด' แห่งขายหัวเราะ โดย บรรลือสาส์น มาเป็นประธานกล่าวเปิดงาน
นาย อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) กล่าวว่า ตลอดมา TCDC เป็นหนึ่งในหัวหอกสำคัญในการผลักดันสังคมความคิดสร้างสรรค์ ที่ไม่เพียงเป็นองค์กรให้ความรู้เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ และกำลังขยายโอกาสไปสู่องค์กรขับเคลื่อนด้านสร้างสรรค์ นำเสนอข้อมูลความคิดสร้างสรรค์เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นภาพใหญ่ในการพัฒนาของประเทศ โดยหนึ่งในภารกิจสำคัญคือ การเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้เพื่อยกระดับศักยภาพของความคิดสร้างสรรค์ ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนจากทั่วโลก เช่นเดียวกับการจัดนิทรรศการ "อุตสา ฮา กรรม : ผลิตขำ ทำเงิน" อันเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือกับ ขายหัวเราะ (บรรลือสาสน์) ผู้สร้างสรรค์ต้นตำหรับความฮาของเมืองไทย ที่จะมาตีความเสียงหัวเราะในมุมมองใหม่ๆ ทั้งการเป็นเครื่องมือที่ใช้เสริมสร้างสมดุลสุขภาวะจิตที่ดี ตลอดจนนำไปสู่การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคม
ทางด้านนาย วิธิต อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บันลือกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่าในฐานะผู้ผลิตเสียงหัวเราะให้กับสังคมไทยมานานกว่า 50 ปี รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทาง TCDC ในการช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ที่มีต่อ "อารมณ์ขัน" ไปสู่การจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ทางสำนักพิมพ์บรรลือสาส์น หวังว่าจากประสบการณ์การใช้อารมณ์ขันที่ผ่านมาจะช่วยให้นิทรรศการ "อุตสา ฮา กรรม : ผลิตขำ ทำเงิน" ครั้งนี้ เต็มไปด้วยมุมมองใหม่ๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์ในระดับที่ยิ่งใหญ่ ทุกย่างก้าวของชีวิตมีทำนองของเสียงหัวเราะ ตั้งแต่การใช้ชีวิตประจำวันอย่างรื่นรมย์ การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในสังคม เปิดพื้นที่การเรียนรู้ ไปจนถึงพลิกฟื้นเมืองและพัฒนาเศรษฐกิจ
ทั้งนี้นิทรรศการ "อุตสา ฮา กรรม : ผลิตขำ ทำเงิน" แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ อารมณ์ขันไม่ไร้สาระ, คลี่วิธีการใช้งานอารมณ์ขัน, อารมณ์ขันเป็นของทุกคน ที่พร้อมพาผู้ชมไปสำรวจและทำความรู้จักกับอารมณ์ขัน ในฐานะเครื่องมือทางความคิดอันสำคัญยิ่งของมนุษยชาติ ที่ใช้เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน เพื่อผลิตเสียงหัวเราะ สร้างความสุขและความบันเทิงในหลากหลายรูปแบบ ตลอดจนเป็นอีกเครื่องมือเพื่อนำไปใช้ทำธุรกิจ สื่อสารและสร้างสรรค์แนวความคิด สินค้า หรือบริการต่างๆ อีกมากมาย สู่การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคม
อารมณ์ขันไม่ไร้สาระ : ส่วนเปิดนิทรรศการ เล่าหน้าที่ของอารมณ์ขันที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิตมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เมื่อมองในมุมของปัจเจก อารมณ์ขันช่วยปลดปล่อยและคลายเครียดจากสิ่งที่พบเจอและความไม่แน่นอน เมื่อมองในมุมของสังคม อารมณ์ขันยึดโยงเราเข้าด้วยกัน ทำให้เห็นเป้าหมายเดียวกัน สร้างพื้นที่ให้เราเห็นพ้องต้องกัน ทำหน้าที่เป็นตัวจุดระเบิดหรือตัวตั้งเตะอันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและสิ่งใหม่ๆ
คลี่วิธีการใช้งานอารมณ์ขัน : แสดงให้เห็นถึงวิธีการใช้งานอารมณ์ขัน ในฐานะเครื่องมือในการสื่อสารและต่อยอดในการทำธุรกิจที่สร้างเสียงหัวเราะและสร้างความสุข อารมณ์ขันจะทรงประสิทธิภาพสูงสุด สามารถนำไปใช้สื่อสารและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้มากมายนั้น ก็ต่อเมื่อผู้นำไปใช้งานรู้จักและเข้าใจวิธีการใช้งานอารมณ์ขันอย่างถ่องแท้ โดยต้องเข้าใจในบริบทที่อารมณ์ขันถูกใช้งาน เข้าใจในพื้นที่หรือผู้คนหรือต้องสื่อสาร เข้าใจกระบวนการการใช้งานร่วมกันระหว่างผู้ใช้งาน และที่สำคัญที่สุดคือการรู้จักใช้อารมณ์ขันเพื่อพลิกมุมมองต่อโลก เพื่อหยิบยกและดึงสิ่งรอบตัวมาใช้งาน เพื่อตั้งคำถามกับต่อสิ่งที่เกิดขึ้นและความเป็นไปรอบตัว ซึ่งการใช้อารมณ์ขันอย่างยั่งยืน ผู้ใช้งานยังต้องรู้จักปรับเปลี่ยนและปรับตัวไปตามบริบทยุคสมัยและกาลเวลาอีกด้วย
อารมณ์ขันเป็นของทุกคน : ส่วนปิดนิทรรศการ สะท้อนให้เห็นการใช้อารมณ์ขันนั้นเป็นของทุกคน มนุษย์เรามีศักยภาพนี้ในตัวอยู่แล้วการใช้งานอารมณ์ขันจึงไม่ได้ถูกจำกัดอยู่กับแค่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือเพียงแต่การสร้างความสุขและความบันเทิงเพียงอย่างเดียว หากแต่ใครๆ ก็สามารถใช้อารมณ์ขันได้ ตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงระดับสังคม แถมยังนำไปได้ในทุกเรื่องและในทุกมิติ ท้ายที่สุดแล้วขึ้นอยู่กับเราทุกคนว่าจะใช้อารมณ์ขันไปในรูปแบบไหน อย่างไร เพื่อจุดประสงค์ใด
นิทรรศการ "อุตสา ฮา กรรม: ผลิตขำ ทำเงิน" จัดแสดงระหว่าง 15 กรกฏาคม – 2 ตุลาคม 2559 ที่ ห้องนิทรรศการ 2ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น 5 ดิ เอ็มโพเรียม (ปิดทำการทุกวันจันทร์)