กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--ทริส
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2544 บริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด (ทริส) ได้ประกาศผลอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันมูลค่า 8,000 ล้านบาท กำหนดไถ่ถอนปี 2546 และมูลค่า 12,000 ล้านบาท กำหนดไถ่ถอนปี 2549 ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ในระดับ "AA-" เท่ากัน โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงการเติบโตที่สูงของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย สถานภาพของบริษัทในฐานะผู้นำตลาด และผลประกอบการที่ดีมากจนทำให้กระแสเงินสดรับเติบโตอย่างรวดเร็ว ทว่า บริษัทอาจได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมและการแข่งขันที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นจากผู้ประกอบการรายใหม่ ทั้งนี้ ยังต้องคำนึงถึงการที่บริษัทต้องใช้เงินลงทุนอีกเป็นจำนวนมากในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งบางส่วนของเงินลงทุนจะต้องมีการกู้ยืม
ทริสรายงานว่า ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีแม้ว่าอาจจะไม่เพิ่มมากเท่าในปี 2543 ที่สูงถึง 53% ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนประกอบด้วยค่าใช้จ่ายในการใช้บริการที่ลดลงเรื่อยๆ และการเสนอบริการรูปแบบใหม่ๆ โดยราคาของเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลงถึง 30%-40% ในช่วงปี 2543 และมีแนวโน้มที่จะลดลงอีกในปี 2544 นอกจากนั้น อัตราการเป็นเจ้าของโทรศัพท์ต่อประชากรโดยรวมของไทยที่ระดับ 6.1% ณ ปลายปี 2543 ซึ่งยังถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำเป็นดัชนีชี้ให้เห็นว่าธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูง ปัจจัยดังกล่าวเป็นสิ่งดึงดูดให้มีผู้ประกอบการรายใหม่ และจะส่งผลให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น
ทริสกล่าวว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในประเทศโดยมีลูกค้าประมาณเกือบ 2 ล้านราย คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด ณ ปลายปี 2543 ประมาณ 52% ในช่วงปี 2543 บริษัทมียอดการเติบโตของลูกค้าถึง 60% ซึ่งสูงกว่าระดับ 46% ของ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ แทค ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญอยู่มาก แม้ว่าในอนาคตผู้ประกอบการรายใหม่จะทำให้ส่วนแบ่งตลาดลดลง แต่คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อรายได้ ทั้งนี้เพราะปริมาณการใช้บริการโดยรวมจะเพิ่มขึ้นจากการที่ค่าใช้จ่ายถูกลงและมีบริการใหม่ๆ การที่ผู้ประกอบการรายเก่าจะสามารถแข่งขันได้นั้น จะต้องมีการขยายโครงข่ายให้กว้างขวางเพื่อเพิ่มคุณภาพบริการ รวมถึงต้องมีการเสนอบริการใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนการลงทุนเพิ่มอีกเป็นจำนวนสูงถึงประมาณ 44 พันล้านบาทในช่วงปี 2544 - 2546 คิดเป็นมูลค่าเกือบเท่ากับเงินลงทุนเมื่อครั้งก่อตั้งกิจการจนถึงปี 2543 เนื่องจากการลงทุนดังกล่าวต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก ทำให้เงินสดจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทในแต่ละปีไม่เพียงพอ ดังนั้นบริษัทจะต้องมีการกู้ยืมเพิ่มเติม
กระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการของบริษัทเพิ่มขึ้นสูงมากในปี 2543 เพราะตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตสูงมาก เงินทุนจากการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 มีจำนวน 9,974 ล้านบาท นับว่าสูงกว่าเงินทุนจากการดำเนินงานทั้งปีของปี 2542 ที่อยู่ที่ระดับ 8,357 ล้านบาท ในขณะเดียวกันเงินกู้ยืมได้เพิ่มจาก 6,875 ล้านบาท ณ ปลายปี 2542 เป็น 13,331 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2543 และคาดว่าจะเพิ่มเป็นประมาณ 2 หมื่นล้านบาทในปี 2544 แม้ว่าอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้จะลดลงจาก 121.6% ในปี 2543 เป็นประมาณ 95% ในปี 2543 และคาดว่าจะลดต่ำลงไปที่ระดับ 60% - 80% ในช่วง 2 ปีข้างหน้า แต่อัตราส่วนดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูง อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 37.7% ในปี 2542 เป็น 41.7% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2543 เพราะมีการประหยัดต่อขนาด
ทริสกล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการเปิดเสรีธุรกิจโทรคมนาคมซึ่งคาดว่าจะทำให้การแข่งขันรุนแรงมากขึ้น แต่จากการที่ในขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดรูปแบบและระยะเวลาที่แน่นอนจึงเป็นการยากที่จะคาดคะเนถึงผลกระทบที่จะเกิดต่อผู้ประกอบการ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท ไทยเรทติ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด (ทริส)
*งานบริการสารสนเทศ*
อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 เลขที่ 191 ถนนสีลม กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ (66 2) 231-3011 ต่อ 500 โทรสาร 231-3012
Internet: www.tris.co.th, E-mail: tris@tris.co.th-- จบ--
-อน-