กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์
วงการค้าปลีกคึกคักสุดขีด เอ็น.ซี.ซี.ฯ เตรียมจัดงาน INTERSHOP ASIA 2002 เป็นครั้งที่ 2 หวังบูมให้ไทยเป็นศูนย์กลางค้าปลีกของเอเชีย นำธุรกิจจากทั่วโลกมาออกบู้ทนับ 100 บริษัท พร้อมด้วยโรบินสัน ไอบีเอ็ม จับมือเดินหน้าเตรียมโชว์ศักยภาพ ร่วมด้วยสมาคมผู้ค้าปลีกไทยสนับสนุนเต็มที่
นายโสภณ ดีสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น.ซี.ซี. เมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวล ลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดเผยว่า "จากการที่ประเทศไทยกลายเป็นเป้าหมายของธุรกิจค้าปลีกที่ต่างประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนอยู่ในขณะนี้ แม้ว่าอาจจะทำให้เกิดความยากในการ แข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในประเทศมากยิ่งขึ้นก็ตาม แต่ก็มีผลในด้านดีที่ทำให้เกิดแนวโน้มใหม่คือ จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการค้าปลีกของเอเชีย ดังนั้นงาน INTERSHOP ASIA 2002 จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบรับกระแสแนวโน้มใหม่นี้ โดยได้ร่วมมือกับ บริษัท ยาเบอร์ เอ็กซิบิชั่นแอนด์ มีเดีย จากประเทศเนเธอร์แลนด์ จัดงานแสดง สินค้าและสัมมนาด้านค้าปลีก ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2545 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้นับเป็นงานแสดงระดับนานาชาติของภูมิภาคเอเชียเลยทีเดียว"
ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางค้าปลีกของเอเชีย
นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล นายกสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ผู้สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้กล่าวถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ว่า "ค้าปลีกในเอเชีย มีการขยายตัวค่อนข้างเร็วใน 10 ปีนี้ โดยเฉพาะไทยยิ่งค่อนข้างเร็ว ติด 1 ใน 10 ของเอเชียที่เติบโตเร็วอันดับต้นๆ ซึ่งกลุ่มนี้ก็มี ไต้หวัน เกาหลี จีน และไทย ที่อยู่ในความสนใจของผู้ประกอบการค้าปลีกระดับโลก ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจของไทยยังมีปัญหา แต่การขยายตัวด้านโมเดิร์นเทรด ยังมีช่องทางอยู่เยอะในการที่จะพัฒนาให้สูงขึ้นไป และการขยายตัวจึงค่อนข้างที่จะเป็นโอกาสทางธุรกิจ เพราะจำนวนประชากรของเรามีสูงถึง 60 ล้านคน และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และนี่คือสาเหตุที่ทำให้ตลาดไทยเป็นศูนย์กลางอันดับต้นๆ"
ศ.ดร. กนก วงศ์ตระหง่าน ประธานบริหารสายปฏิบัติการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) ที่เข้าร่วมงานเช่นกันได้มีมุมมองสำหรับเรื่องนี้ว่า "ผมมองในภาพใหญ่ว่า อยากจะเห็นประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการประกอบธุรกิจค้าปลีกในภูมิภาคนี้ ซึ่งถ้าพูดกันจริงๆแล้วประเทศไทยเรา ถือว่าก้าวหน้าที่สุดประเทศหนึ่งทีเดียว เพราะประเทศเราอยู่ในแนวหน้า ผมคิดว่าผู้ประกอบการ ค้าปลีกในประเทศไทย เป็นผู้มีความทันสมัยก้าวหน้าอยู่ในระดับสูง และผมเชื่อว่าจะทำให้เราเข้าสู่การแข่งขันในเวทีภูมิภาคเอเชีย และเวทีโลก ต่อไปได้ ผมมีความมั่นใจในส่วนนี้"
นอกจากนี้ นายชัยเชษฐ ธารามาศ ผู้จัดการแผนกโซลูชั่น ร้านค้าปลีกไอบีเอ็ม ภูมิภาคอาเซียน บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด หนึ่งในผู้เข้าร่วมงานได้กล่าวเสริมว่า "ประเทศไทยน่าจะเป็นศูนย์กลางการค้าปลีกของเอเชียได้ โดยเฉพาะสำหรับในเรื่องเทคโนโลยีแล้ว บริษัทต่างๆที่เป็นผู้นำต่างมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองไทย อย่างเช่นไอบีเอ็มของเราเป็นต้น นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีศักยภาพ ในการผลิตฮาร์ดแวร์ได้เอง หากเศรษฐกิจไทยดีขึ้นรับรองว่าจะต้องมีโรงงาน และเกิดการลงทุนอีกอย่างมากแน่นอน"
จากการเปิดเผยดังกล่าวสอดคล้องกับการจัดงาน INTERSHOP ASIA 2000 ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว 2543 ที่สร้างกระแสวงการค้าปลีกทั้งในไทย และภูมิภาคเอเชียให้คึกคักมาแล้ว ซึ่งการจัดงานครั้งแรกนั้นบริษัทที่เข้าร่วมแสดงในงานกว่า 100 บู้ท ที่มาจาก 18 ประเทศ เช่น ไทย, ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 10,000 คน โดย 30% ของผู้ชมมาจากต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เกาหลี และออสเตรเลีย ตามลำดับ
แหล่งรวมสุดยอดนวัตกรรม
สำหรับในปีหน้างาน INTERSHOP ASIA 2002 คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่าเดิม 20% ที่มาจากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจุดมุ่งหมายของการจัดงานครั้งนี้จะเป็นกิจกรรมที่สำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางค้าปลีกเอเชีย เพื่อตอบรับกระแสแนวโน้มใหม่ กำลังมาแรงของสถานการณ์ค้าปลีกในไทยขณะนี้ รวบรวมสุดยอดแห่งนวัตกรรมด้านค้าปลีกมารวมไว้อยู่งานเดียวกัน คือ
งาน Shop Fitting Asia
คืองานที่แสดงอุปกรณ์การค้าปลีก และการตกแต่งระดับต่างๆเช่น อุปกรณ์ชั้นวางของ, อุปกรณ์ใช้สำหรับภัตตาคาร ร้านอาหาร ระบบทำความเย็น รถเข็น ตระกร้า อุปกรณ์ตกแต่งร้านค้าบริการปรึกษาและออกแบบร้านค้าปลีก ฯลฯ
งาน Asia Merchandisemart
คืองานแสดงที่เป็นส่วนการแนะนำแนวโน้มสินค้าอุปโภค และบริโภคต่างๆที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ต้องการนำเสนอทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
งาน Retail Tech & Security Asia
คืองานแสดงเทคโนโลยีที่ทันสมัยล่าสุด เพื่อการจัดการร้านค้าปลีกอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบบาร์โค๊ด ระบบการจัดการ ระบบตรวจสอบรักษาความปลอดภัย เป็นต้น
งาน Logisteling Asia
คืองานแสดงเกี่ยวกับการให้บริการระบบขนส่งสินค้า ระบบคลังสินค้า ตลอดจนเทคโนโลยี การกระจายสินค้า ฯลฯ
จากกิจกรรมดังกล่าว คาดว่า จะมีเงินสะพัดว่า 100 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานมากกว่า 12,000 คน ซึ่งมีผลสำคัญต่อการกระตุ้นการค้าปลีกของเอเชีย และไทยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การเปิดตลาดสินค้าใหม่ เทคโนโลยีระบบที่ปรึกษา การร่วมลงทุนระหว่างประเทศ การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ การเปิดตลาดสินค้าไทยสู่ต่างประเทศโดยผ่านบริษัทจัดจำหน่าย การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการจัดการค้าปลีก การพัฒนาระบบการจัดการของร้านอาหาร คอนวีเนียนสโตร์ ซุปเปอร์มาเก็ต ฟ้าสฟู้ด แฟชั่น เป็นต้น
งาน INTERSHOP ASIA 2002 จะเป็นศูนย์กลางการค้าปลีกเอเชียในด้านต่างๆ โดยจะเป็นเวทีการแข่งขันด้าน IT รวมถึงบทบาทในการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ ด้วยการมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจ SMEs และส่งเสริมสินค้าไทยให้มีคุณภาพไปสู่ตลาดระดับภูมิภาค
ขุมความรู้ทางด้านค้าปลีก
นายโสภณกล่าวอีกว่า "ภายในงานจะมีการจัดประชุมสัมมนาด้านค้าปลีกตลอด 3 วัน เป็นงานสัมมนาวิชาการระดับอินเตอร์ที่ระดมวิทยากรด้านค้าปลีกทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ที่ทำให้งานนี้ให้กลายเป็นแหล่งขุมความรู้สำหรับผู้อยู่ในวงการการค้าปลีก และเราได้มีการเชิญบริษัทค้าปลีกใหญ่ๆ เข้างานเรา อย่างเช่น เทสโก้โลตัส ท็อปซ์ซุปเปอร์มาร์เก็ต คาร์ฟู บิ๊กซี ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเข้ามาชมงานด้วยตัวเอง อีกทั้งกลุ่มบริษัทเทรดดิ้ง บริษัทจัดจำหน่าย ซัพพลายเออร์ มาพบกับธุรกิจจากประเทศไทย เพื่อทำให้เกิดการนำสินค้าและบริการของไทยไปสร้างตลาดในต่างประเทศด้วย ฉะนั้นทางบริษัทฯ จึงมีความมั่นใจว่างานอินเตอร์ช็อปเป็นงานที่มีบทบาทสำคัญต่อวงการค้าปลีกของเอเชีย และผลักดันให้ประเทศของเราก้าวสู่ความเป็นศูนย์กลางการค้าปลีกของเอเชียได้อย่างแน่นอน"
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 229-3000 ต่อ 4078 และ 4079
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
คุณอานนท์ พินิจจันทร์
โทร. 321-5129, 721-1175 และ 721-2795--จบ--
-อน-