กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--โพลีพลัส พีอาร์
หากจะกล่าวถึงอวัยวะที่มีความสำคัญในร่างกาย คงต้องบอกว่าทุกส่วนมีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะอวัยวะทุกส่วนต้องทำงานสอดคล้อง และสัมพันธ์กันทำให้เราดำเนินและใช้ชีวิตอย่างปกติสุข แต่หากกล่าวถึง "ดวงตา" อวัยวะที่นับเป็น "หน้าต่างของหัวใจ" นั้น คงไม่ได้เป็นเพียงอวัยวะที่แสดงความรู้สึก แต่ยังหมายรวมถึง การมองเห็น เพื่อเกิดการรับรู้ และส่งต่อภาพเพื่อให้สมองสั่งงานต่อไป ดังนั้น "ดวงตา" และ "สมอง" จึงเป็น 2 อวัยวะที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มีความ "สำคัญ" และ "สัมพันธ์" เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันแทบจะในทุกๆ อิริยาบท แต่ใครจะรู้ว่าเคล็ด (ไม่) ลับในการดูแลดวงตา และการบริหารสมอง ให้ทั้ง 2 สิ่งนี้ ยังมีความเฉียบคมนั้น ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ลงมือทำ!!
นายแพทย์สมโภช นิปกานนท์ แพทย์ผู้ก่อตั้งสถาบันทางการแพทย์ อีลิท ไลฟ์ อินทิเกรทเตท เมดิคอล เซ็นเตอร์ (Elite Life Integrated Medical Center) เล่าถึงการดูแลรักษาเทคนิคการดูแลรักษาสายตา และการบริหารสมอง ว่า "ปัจจุบันเทรนด์การดูแลสุขภาพโดยใช้การแพทย์แบบผสมผสาน ได้รับความนิยมเพิ่งสูงขึ้น โดยที่การแพทย์ผสมผสานเป็นลักษณะการดูแลสุขภาพตั้งแต่ต้นเหตุ เพราะคนส่วนใหญ่จะเริ่มรักษากันที่ปลายเหตุ ดังนั้น การที่เราดูแลอย่างควบคู่กันไปทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือก รวมถึงการดูแลสุขภาพตนเอง อาทิ การทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็ถือว่าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับการดูแลดวงตา – บริหารสมอง นั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่ารอให้เกิดผลกับร่างกายก่อน จึงค่อยรักษา แต่จริงๆ แล้ว ทุกวันนี้ เราสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเอง อย่างง่ายๆ โดยสเต็ปแรก เราควรต้องรู้ใน 4 ส่วนหลัก ของร่างกายก่อน ซึ่งได้แก่ อนุมูลอิสระในร่างกาย, การอักเสบของเนื้อเยื่อ, ฮอร์โมน และภูมิต้านทาน ซึ่งถ้า 4 ส่วนนี้มีความสมดุล ก็ยากที่จะเกิดสิ่งผิดปกติกับอวัยวะสำคัญในร่างกาย โดยเฉพาะสมอง และดวงตา"
นายแพทย์สมโภช กล่าวเพิ่มเติมว่า "2 อวัยวะสำคัญ ที่กล่าวมาข้างต้น เราสามารถดูแลรักษาได้ในชีวิตประจำวันนั้น เริ่มจากการดูแลดวงตา ที่ถือเป็นอวัยวะที่มนุษย์นั้นใช้งานอยู่ตลอดเวลา ในการทำกิจวัตรประจำวันตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงกระทั่งเวลาหลับ ฉะนั้น ในการใช้สายตาของมนุษย์ออฟฟิศ หรือคนวัยทำงาน ที่นับว่าใช้สายตามากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น การจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน, การขับรถ, การเจอกับแสงแดดที่มากไปหรือแม้กระทั่งการใช้สมาร์ทโฟน ที่มีคลื่นความถี่ ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ประสาทตาทำงานผิดปกติ และส่งผลให้เกิดความเสื่อมถอยแก่ดวงตาอยู่ในทุกๆ วัน ดังนั้น การดูแลรักษาเพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานของสายตาอยู่กับเราไปยาวนาน จึงต้องควบคุมการทำงานในส่วนนี้ให้มีความพอดี พร้อมทั้งการบำรุงควบคู่ไปด้วย อาทิ การรับประทานวิตามินเอ ที่มีอยู่ในน้ำมันตับปลา, วิตามินดี,วิตามินอี และ วิตามินเค ที่จะช่วยบำรุงสายตาให้ดีขึ้น นอกจากนั้น ยังมี ผลบิลเบอร์รี่ ผลไม้ที่มีผลการวิจัยว่ามีแอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ เพิ่มจอสีประสาทตาให้ทนต่อแสงได้ดี"
"นอกจากนั้น การบำรุงสายตาแล้ว สมอง ก็นับที่เป็นอวัยวะหลักสำคัญในร่างกายของมนุษย์ที่ต้องได้รับการดูแล โดยสามารถเริ่มบริหารสมองอย่างง่ายๆ ได้ในทุกๆ วันเพราะปกติแล้วสมองของเราจะมีลักษณะคล้ายๆ กล้ามเนื้อ ถ้าเราขยันออกกำลังกาย ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะยังดีอยู่เต็มที่ แต่เมื่อวันใดที่เราบริหารสมองน้อยลง มีการคิดวิเคราะห์ คิดเชิงลึกน้อยลง ก็ส่งผลทำให้เสื่อมถอยไปได้เช่นกัน นอกจากบริหารสมองแล้ว เราต้องบำรุงสมองให้ถูกจุด โดยสมองต้องการสารบางตัวเพื่อให้มีพละกำลังในการทำงาน อาทิ โคลิน ที่มีอยู่ในไข่แดงของไข่ไก่, ปลา, เนื้อสัตว์ และชีส ส่วนในวัยกลุ่มผู้สูงวัย ควรบริหารสมองเพื่อให้คงประสิทธิภาพไว้ มี 3 ข้อง่ายๆ ได้แก่ 1) การทำอะไรที่ชอบ อาทิ การดูแลต้นไม้, เลี้ยงสัตว์, ร้องเพลงฯลฯ 2) การทำอะไรใหม่ๆ หรือไม่ค่อยได้ทำ อาทิ การที่ผู้ชายจะไปลองเรียนเย็บปักถักร้อย, การใช้มือข้างที่ไม่ถนัดทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และ3) พักสมองเมื่อเราใช้สมองแล้ว ต้องมีการพักผ่อน โดยควรนอนหลับให้สนิทเพื่อเป็นการพักผ่อน อย่างน้อยที่สุดวันละ 5 ชั่วโมง โดยห้องควรมืดสนิทเพื่อให้เมลาโทนินทำงานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการอยู่กับอะไรที่มีความจดจ่อ อย่างเช่น การนั่งสมาธิ สวดมนต์ โดยให้ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน ก็ถือเป็นการพักสมองไปในตัวด้วย"นายแพทย์สมโภชกล่าวเพิ่มเติม
นอกจากการดูแลตัวเอง โดยการบริหารสมอง – ดูแลสายตา แล้วการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยบำรุงจากภายในได้ โดย คุณสลิลาพร กองทองมณีโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มี อินฟินิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย I-DEE (ไอ-ดี) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมองและสายตา กล่าวถึง "การรับประทานวิตามิน หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะสารอาหารบางชนิดที่อยู่ในอาหาร – ผลไม้ ที่เรารับประทาน อาจไม่ได้หาทานได้ง่ายมากนัก หรืออยู่ในรูปแบบที่ทานยาก เช่น ผลไม้บิลเบอร์รี่ ที่ให้สารอาหารที่มีประโยชน์กับดวงตา,ถั่ว ที่มีอินโนซิทอล (Inositol) ช่วยในการบำรุงตับ ฯลฯ ดังนั้น การทานผลิตภัณฑ์เหล่านี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยผู้บริโภคจะต้องเลือกทานในปริมาณที่พอเหมาะ หลายๆ คน อาจจะทานเยอะเกินความจำเป็นของร่างกาย ซึ่งแทนที่จะได้รับประโยชน์ อาจจะกลายเป็นโทษเพราะตกค้าง ดังนั้น การเลือกทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรดูสัดส่วนเท่าที่จำเป็นและพอเหมาะต่อร่างกาย อาจมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง"
สำหรับปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนช่วยในการดูแลและบำรุงอย่างหลากหลาย สำหรับแบรนด์ I-DEE(ไอ-ดี) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมองและสายตา นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนวัยทำงานรุ่นใหม่ – ผู้สูงวัย ที่ใส่ใจในสุขภาพรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.02-195-2999 และ 090-556-6661 หรือทาง www.meinfinitythailand.com