กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--ดีคอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์
เป็นจุดหมายปลายทางแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือข่ายเส้นทางการบินของสายการบินสวิสที่ได้รับมอบเครื่องบินรุ่นนี้
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สายการบินสวิสได้เริ่มให้บริการเที่ยวบินทุกวันสู่กรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินลำใหม่รุ่นโบอิ้ง 777-300ER แทนเครื่องบินแอร์บัส เอ340-300 โดยจะทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิมในอัตรากว่าหนึ่งในสามของสายการบินสวิสในเส้นทางกรุงเทพฯ
"เครื่องบินลำใหม่นี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของสายการบินสวิส และเรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำก้าวแห่งความสำเร็จนี้มาสู่ผู้โดยสาร และพันธมิตรของเราในประเทศไทย" นายปีเตอร์ พูลเลม รองประธานฝ่ายการขายและการตลาดระหว่างประเทศของสายการบินสวิส กล่าว "ด้วยเครื่องบินรุ่นอันโดดเด่นลำล่าสุดที่จะเพิ่มเข้ามาประจำการในฝูงบินของเรา ทำให้เราสามารถมอบความเป็นส่วนตัว ความสบาย พื้นที่กว้างขวาง และความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสารของเราได้มากขึ้น ในฐานะสายการบินประจำชาติของสวิตเซอร์แลนด์ สายการบินสวิสนั้นได้ผสมผสานค่านิยมดั้งเดิมของประเทศเอาไว้ และยังมีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณภาพการบริการและผลิตภัณฑ์ในระดับสูงสุด"
นายเดิร์ก โกรสมันน์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า "โอกาสนี้ถือเป็นข่าวดีอีกครั้งของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่าในประเทศไทย ที่สายการบินสวิสได้นำเครื่องบินที่มีความสำคัญลำใหม่รุ่นโบอิ้ง 777-300ER มาให้บริการ หลังจากที่เราประสบความสำเร็จในการแนะนำสายการบินยูโรวิงส์ให้กับตลาดในประเทศไทย เมื่อปลายปีที่แล้ว" เขากล่าวเสริมว่า "นี่ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่าเรามีการเติบโตและยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้ และกรุงเทพฯยังคงเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญในเอเชียของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่า"
เครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ลำใหม่ของสายการบินสวิสให้บริการที่นั่งผู้โดยสารจำนวน 340 ที่นั่ง โดยแบ่งเป็น 8 ที่นั่งในห้องโดยสารชั้นหนึ่ง 62 ที่นั่งในห้องโดยสารชั้นธุรกิจ และอีก 270 ที่นั่งในห้องโดยสารชั้นประหยัด นอกจากนี้ การตกแต่งภายในห้องโดยสารใหม่ทั้งหมดของเครื่องบินลำใหม่ที่มีความสำคัญต่อสายการบินสวิสลำนี้ ยังจะนำเสนอมอบความสบายและความสุนทรีย์เพื่อตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุดมากที่สุดในทั้งสามชั้นโดยสาร ซึ่งรวมถึงการให้บริการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายด้วย
เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างและหลากหลาย สายการบินสวิสได้นำเสนอแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตบนเที่ยวบินในสามรูปแบบ ได้แก่ แพ็คเกจการเชื่อมต่อข้อมูลขนาด 20 เม็กกะไบท์ในราคา 9 ฟรังก์สวิส ซึ่งแพ็คเกจสำหรับผู้ที่ต้องการตรวจสอบอีเมล์และเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆในปริมาณไม่มากนัก แพ็คเกจ 50 เม็กกะไบท์ในราคา 19 ฟรังก์สวิสนั้นเหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการจะเชื่อมต่อเพื่อการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือใช้อินเทอร์เน็ตในการทำงาน และแพ็คเกจ 120 เม็กกะไบท์ในราคา 39 ฟรังก์สวิสนั้น นำเสนอความยืดหยุ่นและโอกาสที่มากขึ้นในการใช้งานอินเทอร์เน็ตเกือบเต็มรูปแบบ (ยกเว้นการใช้งานแบบสตรีมมิ่ง) และสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งนั้น สายการบินสวิสให้บริการแพ็คเกจการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตขนาด 50 เม็กกะไบท์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ในส่วนของที่นั่งผู้โดยสารชั้นหนึ่งสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องสวีทส่วนตัว มีจอภาพขนาดถึง 32 นิ้ว ซึ่งถือเป็นจอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมการบิน ณ ขณะนี้ นอกจากนั้น ม่านหน้าต่างยังสามารถปรับแสงได้โดยระบบอิเล็กทรอนิกส์และมีตู้เสื้อผ้าส่วนตัว ส่วนห้องโดยสารชั้นธุรกิจนำเสนอความเป็นส่วนตัวและอิสระในการเคลื่อนไหวได้อย่างเหมาะสมและลงตัว เบาะที่นั่งสามารถปรับความนุ่มของเบาะได้ตามความต้องการส่วนบุคคล นอกจากนี้ ในส่วนของผู้โดยสารชั้นประหยัด สายการบินสวิสยังได้นำเสนอเคาน์เตอร์แบบบริการตัวเอง โดยจัดเครื่องดื่ม และของทานเล่นอีกหลากหลายไว้ให้ผู้โดยสารเลือกหยิบทานได้ในช่วงเวลาที่นอกเหนือจากช่วงบริการอาหารและเครื่องดื่มตามปกติตลอดทั้งเที่ยวบิน ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องทวินเจ็ทรุ่นใหม่ยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งช่วยลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
"สายการบินยุคใหม่ของสวิตเซอร์แลนด์" (Next-Generation Airline of Switzerland) คือความมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่น่าดึงดูดและเป็นที่ชื่นชอบ (employer value proposition) ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่จะเพิ่มความน่าสนใจให้แก่บุคลากรใหม่เท่านั้น บริษัท ยังตั้งเป้าที่จะทำให้สายการบินสวิสเป็นองค์กรที่เป็นตัวเลือกอันดับแรกๆในบรรดาอุตสาหกรรมสายการบินในยุโรป รวมถึงยกระดับความน่าเชื่อถือในฐานะองค์กรให้เหนือกว่าภาคธุรกิจการขนส่งทางอากาศอีกด้วย
และเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นนี้ ทางบริษัทยังได้เปิดตัว "Faces of SWISS" ซึ่งได้ตกแต่งภายนอกลำตัวเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ลำแรกโดยมีภาพใบหน้าของพนักงานของสายการบินสวิสกว่า 2,500 คนปรากฏอยู่ โดยจะคงไว้ตลอดหนึ่งปีแรกในการปฏิบัติการบิน รูปภาพที่นำมาสร้างสรรค์เป็นลวดลายพิเศษในครั้งนี้ เป็นภาพของบรรดาพนักงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งมาให้ด้วยตนเอง และทุกภาพที่ถูกส่งเข้ามาได้ปรากฏอยู่ทั่วลำตัวเครื่องบิน และหนึ่งในตัวแทนของลูกเรือของสายการบินสวิสที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 12 ภาพที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ "Faces of SWISS" เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชาวไทยที่มีชื่อว่า นางสาวจันทิพร บุญเกียรติ