กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--เอเอสวี อินเตอร์ กรุ๊ป
นับเป็นก้าวสำคัญบนแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากแบบ "ประชารัฐ" ที่กำลังผลิดอกออกผล สู่ความยั่งยืนมั่นคงอย่างเต็มรูปแบบ กับความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาคมชุมชน ในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์จากชุมชน สู่ห้างสรรพสินค้ากับความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง "กรมการพัฒนาชุมชน" กระทรวงมหาดไทย และ "เทสโก้ โลตัส" ที่จะร่วมกันรับซื้อและกระจายผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) รับซื้อตะกร้าจักสานจากวัสดุธรรมชาติและสินค้าโอทอปจากชุมชนต่างๆ กว่า 15 ล้านบาท สู่การสร้างช่องทางการตลาดครั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นแนวทางให้ภาคเอกชนอื่นๆ ก้าวเดินตามเข้ามา ร่วมกันขับเคลื่อนสร้างเศรษฐกิจชุมชน ให้มั่นคงยั่งยืนต่อไป
จากสินค้าหลากหลากหลายที่ผลิตโดยชุมชน สู่การพัฒนาต่อยอดคุณภาพเติมเต็มศักยภาพในด้านต่างๆ โดยกรมการพัฒนาชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชน ซึ่งเป็นไปตามแนวทาง "ประชารัฐ" ให้เป็นสินค้าที่มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ ทั้งในเรื่องของรูปแบบผลิตภัณฑ์ เรื่องของการสร้างแบรนด์ให้เป็นยอมรับ และตรงกับความต้องการของผู้บริโภค จนกลายเป็นที่ยอมรับของตลาด ในฐานะ "ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน"
สู่ช่องทางการตลาดบนห้างสรรพสินค้า ที่จะทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น!!
"อภิชาติ โตดิลกเวชช์" อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวถึง เส้นทางของสินค้าชุมชน กับ การเข้าสู่ช่องทางการตลาดบนห้างสรรพสินค้า ผ่าน พิธี ลงนาม MOU โครงการ "เทสโก้ โลตัส ประชารัฐ ร่วมใจ รับซื้อและกระจายผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP)"ในครั้งนี้ว่า "กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย มีวิสัยทัศน์ในการสร้างชุมชนเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากมั่นคง จึงได้ร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคประชาชนในการดำเนินงานโครงการในรูปแบบประชารัฐเพื่อยกระดับการสร้างรายได้ในชุมชน อันจะก่อให้เกิดชุมชนที่พึ่งพาตนเองได้และมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยทำงานร่วมกับเทสโก้โลตัส เพื่อวางแผนการเพิ่มปริมาณการรับซื้อสินค้าโอทอปในอนาคต รวมถึงร่วมมือพัฒนาสินค้าโอทอปให้มีรูปแบบตรงตามความต้องการของตลาด และช่วยยกระดับสินค้าโอทอปให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าประชาชนมากยิ่งขึ้น
ความร่วมมือครั้งสำคัญในครั้งนี้ เป็นผลต่อเนื่องมาจากคณะกรรมการสานพลังประชารัฐ เป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ก็จะมีคณะทำงานเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน และมีภาคเอกชนร่วมกันขับเคลื่อน รวมทั้งยังมีคณะทำงานกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งหมดถือเป็นจุดเริ่มต้นการร่วมมือกันพัฒนาชุมชนและสินค้าโอทอปของชุมชน ครั้งนี้เป็นการเข้ามามีส่วนร่วมของ เทสโก้ โลตัส ซึ่งเชื่อว่า คงจะมีภาคเอกชนอื่นๆ ที่ทยอยตามเข้ามา
ซึ่งนอกเหนือจากสินค้าโอทอปที่เข้าสู่ช่องทางการตลาดผ่านห้างสรรพสินค้าในครั้งนี้แล้ว อนาคตก็เชื่อว่า จะมีสินค้าประเภทอื่นๆ ทยอยตามเข้ามา ในส่วนของงานฝีมือ ที่เป็น ผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพโอทอป อาทิ เรือจำลอง ภาพวาด กระเป๋าถือ ซึ่งปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ร่วมกันส่งเสริม เพื่อให้เป็นสินค้าแบรนด์ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ โดยในวันที่ 12 -20 สิงหาคมนี้ จะจัดงาน ศิลปาชีพโอทอป ซึ่งจะเป็นงานรวมสินค้าจากมูลนิธิศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่จะเป็นงานใหญ่ ที่จะเป็นจุดพบกันระหว่าง ผู้ผลิต (ชุมชน) ผู้บริโภค รวมถึงภาคเอกชนที่ให้ความสนใจเข้ามามีส่วนร่วม เป็นการสร้างช่องทางการตลาดผ่านแนวทางประชารัฐ" อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว
ขณะที่ภาคเอกชนอย่าง "เทสโก โลตัส" ที่เป็นส่วนหนึ่งในการเข้ามาร่วมขับเคลื่อนแนวทางการตลาดสินค้าโอทอปชุมชน ผ่านช่องทางการตลาด ด้วยการ รับซื้อและกระจายผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยมีจุดเริ่มต้นที่จะรับซื้อตะกร้าจักสานจากวัสดุธรรมชาติและสินค้าโอทอปจากชุมชนต่างๆ ในโครงการ "เทสโก้ โลตัส ประชารัฐ ร่วมใจ รับซื้อและกระจายผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP)" ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะขยายตลาดสินค้าโอทอป ชุมชน สู่ผู้บริโภคโดยตรง
ตอบรับกับแนวทาง "ประชารัฐ" ให้มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น!!
"นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย" ประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายการพาณิชย์ เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เทสโก้ โลตัส ในฐานะผู้นำวงการค้าปลีกในประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการโอทอปมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เป็นช่องทางการกระจายสินค้าโอทอปจาก 200 ชุมชนทั่วประเทศ ผ่านร้านค้าของเทสโก้ โลตัส กว่า 1,800 สาขาและแพลทฟอร์มออนไลน์ ซึ่งในครั้งนี้เทสโก้ โลตัส ได้ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดโครงการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "เทสโก้ โลตัส ประชารัฐ ร่วมใจ รับซื้อและกระจายผลิตภัณฑ์ชุมชน(OTOP)" เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับสินค้าโอทอป สร้างความมั่นคงให้เศรษฐกิจฐานราก หลังจากที่ได้ร่วมมือกันมานานเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อพัฒนาทั้งรูปแบบและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาด
ซึ่งโครงการ ดังกล่าว เป็นอีกก้าวที่สำคัญในการขยายโอกาสทางธุรกิจสำหรับสินค้าโอทอป ที่เป็นความร่วมมือของ 3 ภาคส่วนตามกรอบประชารัฐ คือ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย, ชุมชนจากทั่วประเทศผู้ผลิตตะกร้าจักสานและสินค้าโอทอป และเทสโก้ โลตัส ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนมากกว่า 15 ล้านบาท และสร้างโอกาสให้ลูกค้าประชาชนได้เลือกซื้อกระเช้าปีใหม่ที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น เป็นของขวัญสำหรับช่วงเทศกาลที่กำลังจะมาถึง ผ่านช่องทางร้านค้ารูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ และช่องทางเทสโก้ โลตัส ช้อปออนไลน์
นอกจากโครงการดังกล่าวแล้ว เทสโก้ โลตัส ยังวางแผนขยายการรับซื้อในอนาคตอีกด้วย ซึ่งในช่วงเริ่มต้นได้รับซื้อตะกร้าและผลิตภัณฑ์โอทอปจาก วิสาหกิจชุมชนโอทอปคอมเพล็กซ์ พุแค สระบุรี และบริษัท กาญจนบุรี อินเตอร์เทรด จำกัด จำนวน 1.2 หมื่นตะกร้า โดยความต้องการกระเช้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ของเทสโก้ โลตัส มากกว่า 3 แสนตะกร้า ฉะนั้น จึงมีโอกาสในการเติบโตอีกมากสำหรับผู้ประกอบการโอทอป และชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศในอนาคต" ผู้บริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าว
นอกจากเรื่องของความร่วมมือระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และ ภาคเอกชนอย่าง เทสโก้ โลตัส ภายใต้โครงการ "เทสโก้ โลตัส ประชารัฐ ร่วมใจ รับซื้อและกระจายผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP)" ที่เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนแนวทางประชารัฐ ผ่านการเปิดช่องทางการตลาดสินค้าโอทอปชุมชนแล้ว
ผู้บริโภคเองก็เป็นส่วนสำคัญที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ สำหรับการสนับสนุนสินค้าชุมชน โดยมีมาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้า OTOP หรือ OTOP Extravaganza เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยตามนโยบายของภาครัฐด้วย
และนี่คือ "ก้าวสำคัญ" ของกรมการพัฒนาชุมชน และภาคเอกชน ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนแนวทางประชารัฐ ที่จะลงไป พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สร้างความเข้มแข็งมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญกับการก้าวเข้ามาของภาคเอกชนอื่นๆ ที่จะร่วมพัฒนาเสริมศักยภาพ สินค้าชุมชนโอทอปไทย ซึ่งจะเป็นส่วนเติมเต็มช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปในอนาคต