กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
JWD ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ภาคพื้นดินอย่างครบวงจร ประเมินผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังเริ่มฟื้นตัวได้ดี หลังชูแผนลดต้นทุนและปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ลุยเดินหน้าเปิดให้บริการศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ภายในท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมขยายการลงทุนคลังสินค้าในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง ช่วยหนุนผลการดำเนินงานปี 59-61 เติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 7% ขณะที่คาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 ถึงจุดต่ำสุด ระบุจากปัจจัยปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของไทย กระทบธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นมีความต้องการเช่าพื้นที่ลดลง
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ภาคพื้นดินอย่างครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง หลังจากได้ปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มโอกาสการดำเนินธุรกิจและการขยายโครงการใหม่ ที่พร้อมเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3 และ4 ของปีนี้ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้แก่ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง โดยในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์พื้นที่ 6,900 ตารางเมตร รองรับการจัดเก็บและกระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีผู้เช่าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 50%
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ลงทุนขยายธุรกิจไปในภูมิภาคอาเซียนตามแผนงานเดิม เพื่อรับโอกาสการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยได้ร่วมมือกับกลุ่มบริษัทศรีไทย จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ LINK ASIA LOGISTICS เพื่อให้บริการขนส่งสินค้าข้ามแดนในอาเซียนตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งจะรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน ขณะเดียวกัน จะเปิดให้บริการคลังสินค้าในประเทศกัมพูชา ขนาดพื้นที่ 4,428 ตารางเมตร และที่เมียนมาร์จะขยายพื้นที่คลังสินค้าอีก 3,300 ตารางเมตร ส่งผลให้ ณ สิ้นปีนี้จะมีพื้นที่คลังสินค้าโดยรวมที่ตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศ CLMV เพิ่มขึ้นเป็น 9,448 ตารางเมตร
ส่วนไตรมาส 1/60 JWD มีแผนเปิดให้บริการคลังสินค้าแห่งใหม่ใน สปป.ลาว มีพื้นที่เพิ่มอีก 3,354 ตารางเมตร จากเดิมที่มีอยู่ 720 ตารางเมตร ส่งผลให้ปี 2560 บริษัทฯ จะมีพื้นที่คลังสินค้าในกลุ่มประเทศ CLMV รวมกว่า 12,800ตารางเมตร ซึ่งจะส่งผลดีต่อการให้บริการแก่ลูกค้าในภูมิภาคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลดีต่ออัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2559-2561) ที่คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยต่อปีไม่ต่ำกว่า 7%
ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของ 2559 คาดว่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/59 (เมษายน-มิถุนายน) มีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้จากผลกระทบการนำเข้าและส่งออกสินค้าที่ชะลอตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจให้บริการรับฝากและบริหารสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็นและแช่แข็ง ที่ได้รับผลกระทบจากการทำประมงผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ ส่งผลให้ไทยถูกจัดอยู่ในบัญชีกลุ่มที่ 3 (Tier 3) กระทบยอดการส่งออกสินค้าประมงไทย ก่อนได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในปัจจุบัน
ขณะที่ธุรกิจให้บริการรับฝากและบริหารสินค้าทั่วไป มีการปิดพื้นที่คลังสินค้า 2 แห่งในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อดำเนินการปรับปรุงเป็นศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ (JCS) นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจและพัฒนาธุรกิจเพิ่มขึ้นเพื่อให้บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตและขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้ตามแผนที่วางไว้