กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--เดียริสติก เอเจนซี่
ขอบคุณ "เอดิสัน" ที่ทำให้โลกรู้จักแสงสว่างยามกลางคืน
สีสันบนโลกใบนี้เปลี่ยนไปตั้งแต่ปี ค.ศ.1879 นับแต่แต่นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างโทมัส อัลวา เอดิสัน ได้ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้าไส้คาร์บอนได้สำเร็จ แล้วโลกใบนี้ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะหลายกิจกรรมประจำวันของมนุษย์ที่ถูกจำกัดให้สามารถทำได้เฉพาะกลางวันที่มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ นับจากนี้สามารถทำได้ในตอนกลางคืนเช่นเดียวกัน เนื่องจากความมืดนั้นได้ถูกทำลายลงจากแสงไฟ
จากในยุคแรกที่ "ไฟฟ้าแสงสว่าง" ถูกนำมาใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชีวิตของผู้คนในยามกลางคืน พ่อบ้านใช้แสงไฟนี้ทำงานที่คั่งค้างจากที่ทำในตอนกลางวัน แม่บ้านใช้แสงไฟในการทำอาหารค่ำมื้อพิเศษ ลูก ๆ ใช้แสงไฟเหล่านี้ในการอ่านหนังสือและช่วยเหลืองานคุณพ่อคุณแม่
ในยุคต่อมากความเป็นไปได้ของ "ไฟฟ้าแสงสว่าง" ถูกพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จากฟังก์ชั่นการใช้หลอดไฟในครัวเรือน "ไฟฟ้าแสงสว่าง" ถูกนำมาใช้ในงานอื่น ๆ เช่นงานโฆษณาตามบิลบอร์ดขนาดใหญ่ การประดับประดาไฟตามห้างร้าน ไปจนถึงกลายเป็น "เครื่องประดับ" สีสวยในงานปาร์ตี้ต่าง ๆ
"ไฟฟ้าแสงสว่าง" ถูกพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง จากหลอดฟ้าคาร์บอนที่มีอายุการใช้งานสั้น ๆ เพราะไม่อาจจะทนความร้อนจากการจ่ายไฟฟ้า ถูกพัฒนาขึ้นมาให้มีอายุการใช้งานยาวขึ้นอย่างที่เห็นในรูปแบบของหลอดไส้ของฟลูออเรสเซนต์ที่หลายครัวเรือนใช้ในปัจจุบัน
จนในที่สุด โลกของเราก็ได้รู้จักกับ "ไฟฟ้าแสงสว่าง" ที่เรียกว่า LED
LED รุ่นที่ 2 ในโลกยุค Internet of Things
จนในปี ค.ศ.1962 มีการพัฒนา "ไฟฟ้าแสงสว่าง" ในรูปแบบของหลอด LED(Light Emitting Diode) ซึ่งคุณสมบัติของ LED คือ "ไฟฟ้าแสงสว่าง" สำหรับอนาคต เพราะทั้งมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น บำรุงรักษาง่าย ทนทาน ประหยัดพลังงาน มีแสงไฟที่เสถียรภายใต้ไส้หลอดที่เล็กลงเมื่อเทียบกับแบบเดิม
LED ถูกพัฒนาเรื่อยมาจนถูกนำใช้ในงานที่หลากหลาย ตั้งแต่ใช้ในงานทั่วไปในครัวเรือนทั้งหลอดไฟจนถึงจอโทรทัศน์ ไม่เพียงเท่านั้น เทคโนโลยี LED ไปไกลถึงการนำไปใช้เป็นไฟสัญญาณสำหรับการบิน ซึ่งถึงจุดนี้แล้ว LED อาจจะไปได้ไกลเกินกว่าที่คนในยุคของโทมัส อัลวา เอดิสัน จะจินตนาการยิ่งนัก
โดยในประเทศไทยเอง ตลาด "ไฟฟ้าแสงสว่าง" ตอบรับกระแส LED ค่อนข้างดี ในปี พ.ศ.2558 (ค.ศ. 2015) ตลาด LED ในบ้านเรามีมูลค่าสูงถึง 80,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2563 สัดส่วนตลาดจะเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 70 จากตลาดแสงสว่างทั้งหมด
นี่คือนิมิตหมายว่า โลกกำลังจะเข้าสู่ยุค LED อย่างเต็มตัว และจาก LED ยุคแรกที่เน้นประสิทธิภาพการใช้งาน ในวันนี้ "ไฟฟ้าแสงสว่าง" ในแบบ LED ก็ก้าวเข้าสู่ยุคที่ 2 (LED Generation 2)
"LED Generation 2" นั้น สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกในยุคที่เรียกว่า Internet of Things ซึ่งเป็นยุคที่ สิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันอย่าง ตู้เย็น โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องซักผ้า แน่นอนรวมไปถึง "ไฟฟ้าแสงสว่าง" สิ่งของทั้งหมดนี้ สามารถเชื่อมโยงและสื่อสารกันด้วยระบบอินเตอร์เน็ต นั่นหมายถึงการย้ายรูปแบบการใช้งานของสิ่งของเครื่องใช้เหล่านี้ จากระบบ Analog เข้าสู่ความเป็น Digital อย่างเต็มตัว
พาขวัญ เจียมจิโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิ เอ็กซ์ซิบิส ผู้จัดงาน Thailand Lighting Fair 2016 Smart Lights. Smart Life. นวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างอัจฉริยะ นวัตกรรมเพื่อชีวิต อธิบายว่า "ในส่วนของการใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และอุตสาหกรรม "LED ยุคที่ 2" นั้นมีหน้าตาออกมาในรูปแบบของ "ระบบแสงอัจฉริยะ" หรือ Smart Lighting ที่ใช้ระบบสั่งการอัตโนมัติแบบ Real Time โดนการใช้ระบบการเซ็นเซอร์ในการเปิด-เปิดไฟ แทนที่ผู้ใช้จะต้องเดินไปเปิดปิดสวิตช์ไฟเหมือนอย่างที่เคย นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบการเปิด-ปิดไฟ และความผิดปกติอื่น ๆ ผ่านการใช้แอพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน นอกจากจะตอบโจทย์ความสะดวกสบายและ ยังช่วยประหยัดไฟได้อีกด้วย "LED ยุคที่ 2" จึงทำให้ชีวิตประจำวันของคุณ ง่ายขึ้นกว่าเดิม"
"LED ยุคที่ 2" นวัตกรรมเปลี่ยนโลก
นวัตกรรม LED ในยุคที่ 2 ที่น่าสนใจมีมากมาย ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่า เทคโนโลยีของ "ไฟฟ้าแสงสว่าง" ก้าวไปไกลมาก จะเห็นได้จากเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น
• AUTOMATIC ON/OFF SWITCH สวิตช์เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ รุ่นล่าสุดจาก HomeXpert ช่วยลดปัญหาการเปิด-ปิดไฟในบ้าน ที่ทั้งประหยัด สะดวก และปลอดภัยต่อชีวิตผู้ใช้
• NULITE LED BULB T40 CYLIC-I MODEL หลอดไฟฟ้า LED ตัวหลอดทรงกระบอก มุมแสงรอบทิศ 360 องศา ใช้ได้ทั้งโคมแนวตั้งและแนวนอน ยี่ห้อ Everlight จากไต้หวัน ประหยัดไฟกว่า 85% เมื่อเทียบกับหลอดไส้ และประหยัดไฟกว่า 50 % เมื่อเทียบกับหลอดประหยัดไฟ มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 10 ปี
• NEX ILLUMI LED DIMMABLE PLUG LIGHT หลอดไฟฟ้า LED รุ่นยอดนิยม สามารถใส่ทดแทนหลอดเดิมได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนโคม ให้แสงรอบตัว 360 องศา เสริมพิเศษด้วยคุณสมบัติการปรับลดแสงได้ (Dimmable)
• PLPL TUNABLE WHITE โคมไฟแขวนรูปทรงทันสมัยเหมาะกับออฟฟิศสมัยใหม่ ด้วยการออกแบบให้มีการกระจายแสงแบบ Direct / Indirect ที่นอกจากจะให้ความสว่างกับพื้นที่ใช้งานแล้วยังให้แสงสว่างกับฝ้าเพดานให้นุ่มนวล สบายตา สามารถควบคุมแสงสว่างผ่านอุปกรณ์สื่อสารอย่างสมาร์ทโฟนได้
• LED SMART EMERGENCY 3 IN 1 ด้วยวงจรอัจฉริยะหลอด LED Smart Emergency สามารถทำงานได้แม่นยำ โดยเฉพาะกรณี ไฟตก หลอด LED จะเปิดติดเองอัตโนมัติ เป็นไฟฉุกเฉินทันที อีกทั้งยังสามารถนำหลอด LED มาถือเป็นไฟฉายให้ความสว่างได้ในทุกที่ที่คุณต้องการ เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัสที่ขั้วรับหลอด จึงหมดปัญหาเรื่องถ่านไฟฉายหมดเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
• LED HIGH BAY เป็นหลอดไฟ LED ที่สามารถติดตั้งได้ทั้ง ภายในและภายนอกอาคาร เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมโกดังสินค้า สนามกีฬา เป็นต้น มีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 50,000 ชั่วโมง และทนต่อการสั่นสะเทือนมากกว่าหลอดไฟปกติ
• LED MOTION SENSOR หลอด LED ตรวจจับการเคลื่อนไหวในยามค่ำคืน หลอดจะเปิดติดเองด้วยระบบเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว และจะดับลงหากไม่มีการเคลื่อนไหว เพื่อช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟและปลอดภัยในยามค่ำคืน
พบนวัตกรรม "LED ยุคที่ 2" ของจริงกันได้ในงาน "Thailand Lighting Fair 2016 Smart Lights. Smart Life. นวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างอัจฉริยะ นวัตกรรมเพื่อชีวิต" ระหว่างวันที่ 1 –3 กันยายน 2559 ณ ฮอลล์ 101 –102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandlightingfair.com