กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ.ทีพีบีไอ' หรือ TPBI วางเป้าขยายพอร์ตสินค้าบรรจุภัณฑ์กลุ่มมูลค่าเพิ่ม อีกเท่าตัวใน 3-5 ปีข้างหน้า รับความต้องการบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับอุปโภคบริโภคในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารสด อาหารแช่แข็งขยายตัวพุ่ง หลังภาพรวมรายได้ครึ่งปีแรกทำกำไรสุทธิ 191 ล้านบาท จากปัจจัยการเติบโตของถุงพลาสติก, ถุงขยะ, และบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับอุปโภคบริโภค มั่นใจครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง
นายกมล บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ TPBI ผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ครบวงจรระดับโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม ที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายพอร์ตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม หรือ High Value Addedอีกเท่าตัวในอีก 3-5 ปีข้างหน้า หลังแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์ชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแช่แข็งสำเร็จรูป, อาหารพร้อมรับประทาน, ถุงบรรจุขนม, และกลุ่มผลิตภัณฑ์ในหมวดฟิล์มประเภท Multilayer Blown Film ได้แก่ ฟิล์มลามิเนตและฟิล์มแบริเออร์ ที่นิยมนำไปใช้ในกลุ่มสินค้าอาหารสดและอาหารสำเร็จรูป มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้เตรียมแผนงานเพื่อรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้น โดยได้ตัดสินใจลงทุนขยายกำลังการผลิตโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภค เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีกเท่าตัวหรือเพิ่มขึ้นอีก 100 ล้านเมตรต่อปี บนที่ดิน 17 ไร่ ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม รองรับความต้องการในอนาคตที่คาดว่าจะสูงขึ้น โดยใช้งบลงทุนรวม 800 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปีนี้และจะแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าได้ภายในปี 2561 โดยกำลังการผลิตของโรงงานใหม่แห่งนี้สามารถรองรับความต้องการของตลาดได้ 4-5 ปี
"กลุ่มสินค้า High Value Added ในหมวดบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนและหมวดฟิล์มลามิเนตและฟิล์มแบริเออร์ ที่นิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสด อาหารแช่แข็งและอาหารสำเร็จรูป มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นเฉลี่ยปีละ 10-20% เราจึงต้องเตรียมพร้อมด้านกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาด ซึ่งจะมีผลดีต่อการผลักดันสัดส่วนยอดขายสินค้าในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนการขายอยู่ที่ 18-20% ของยอดขายรวมในแต่ละปี" นายกมล กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน TPBI กล่าวว่า ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2559(มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้ 2,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้2,187 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 191 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ183 ล้านบาท หลังจากไตรมาส 2/59 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,161 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 94 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่เติบโตได้ดีมากจากยอดคำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นของลูกค้ารายสำคัญของบริษัทฯ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคในไตรมาส 2/59 เติบโตถึง18.9% ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เพิ่มเป็น 14% ของยอดขายรวม ขณะที่กลุ่มบรรจุภัณฑ์ประเภทถุงขยะ ซึ่งถือเป็นกลุ่มสินค้าหลักก็มียอดคำสั่งซื้อขยายตัวเช่นกัน โดยเติบโต 9.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
"แม้ไตรมาส 2/59 สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกจะยังค่อนข้างซบเซาและมีความผันผวน แต่จากนโยบายที่มุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพในขบวนการผลิตโดยใช้เม็ดพลาสติกคอมพาวด์เพื่อช่วยลดต้นทุนและรักษาความสามารถการทำกำไรได้ดี รวมถึงปรับ Product Mix ที่หันมาเน้นสินค้ากลุ่มมูลค่าสูงให้มากขึ้น จึงส่งผลให้อัตราการทำกำไรของ TPBIอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและยังสามารถเติบโตต่อเนื่องต่อไป" นายกมล กล่าว