กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--chom-co
• ASUS เปิดตัว Zen Series ภายใต้แนวคิด "Zenvolution" นำเสนอนวัตกรรมสุดล้ำ ผสานเข้ากับดีไซน์เรียบหรูสุดพรีเมี่ยม ทั้งสมาร์ทโฟนและโน้ตบุ๊ก
• "ZenFone 3 series" นำเสนอคุณสมบัติที่โดดเด่นและสเปคที่ทรงพลัง เปิดตัวพร้อมกัน3 รุ่น ประกอบด้วย ZenFone 3, ZenFone 3 Ultra และ ZenFone 3 Deluxe ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการ
• สมาร์ทโฟนรุ่นASUS ZenFone 3 Laser และ ASUS ZenFone 3 Max เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย
• ASUSZenBook 3 นั้นอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของZenBookในเรื่องความบางและเบา แต่ประสิทธิภาพสูงมีดีไซน์ที่โดดเด่น ใช้อะลูมิเนียมระดับสำหรับยานอวกาศ เพิ่มความทนทานถึง 50% และประดับด้วย ขอบสีทองและโลโก้ ASUS
• ASUS Transformer 3,เป็นได้ทั้งแท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก และพีซีประสิทธิภาพสูง รองรับ ROG XG Station 2 น้ำหนักเพียง 695 กรัม ถือว่าเบามากเมื่อเทียบกับพีซีขนาด 12.6 นิ้ว และหนาเพียง 6.9 มม. บางกว่าสมาร์ทโฟนบางรุ่น
• ASUS เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของประเทศไทย ปู – ไปรยา สวนดอกไม้ลุนเบิร์ก
นายอิรีค เฉิน ประธานของ ASUS เปิดตัวสมาร์ทโฟนตัวล่าสุด ASUS ZenFone 3 Series ที่งานแถลงข่าว Zenvolution ในประเทศไทยในงานนี้มีการเปิดตัว ZenFone 3 Max และZenFone 3 Laser รวมถึงโน้ตบุ๊กรุ่น ASUS ZenBook 3 และพีซีแบบ 2-in-1รุ่น ASUS Transformer 3 และ ASUS Transformer 3 Pro งานเริ่มต้นด้วยการแสดงโฮโลกราฟเพื่อแสดงให้เห็นถึงความงามและความสมดุลในแบบ Zen
"ซีรี่ส์ ZenFone 3 เป็นสิ่งทั่วโลกรอคอยหลังจากที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกที่งานComputexปีนี้" นายอิรีค เฉิน ประธานของ ASUS กล่าว "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้บริโภคในประเทศไทย"
นายปรากาช มัลยา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Intel South East Asia จำกัด ที่ได้เข้าร่วมบนเวทีกับนายอิรีค เฉิน ในส่วนของการเป็นพันธมิตรที่ยาวนานในการพัฒนานวัตกรรมของทั้งสองบริษัท ASUS และ Intel กล่าวว่า เป็นเวลาเกือบสามสิบปี Intel และ Asus ได้ทำงานร่วมกันเพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่ทันสมัยของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ออกสู่ท้องตลาด ในวันนี้เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกัน ในส่วนของ ZenBook 3 และ Transformer 3 ที่ได้ใช้หน่วยประมวลผลของIntel โดยผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ได้ส่งมอบประสบการณ์การใช้คอมพิวเตอร์ ในรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ผ่านประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ กับการพกพา และประสิทธิภาพในการใช้พลังงานอย่างทรงพลัง และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ทำงานร่วมกับเอซุส ในการนำเสนอนวัตกรรมคอมพิวเตอร์ออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น "
นายเจฟฟ์ โล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมีความหลากหลายขึ้น ดังนั้น ในฐานะที่เอซุสเป็นแบรนด์คอมพิวเตอร์และไอทีระดับโลก จึงได้มุ่งมั่นคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเอซุสสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
"ครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งที่เอซุสสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการคอมพิวเตอร์และไอที เริ่มตั้งแต่การเปิดตัวสินค้า ทั้งกลุ่มสมาร์ทโฟน และกลุ่มโน้ตบุ๊กพร้อมกันในหลายรุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Zenvolution" หรือ การสร้างสรรค์นวัตกรรมสุดล้ำ ผสานเข้ากับผลิตภัณฑ์ดีไซน์เรียบหรู นำสมัย นับเป็นก้าวสำคัญของเอซุสที่มีการนำเสนอสินค้าอย่างครบวงจร เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกสิ่งที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง"
สำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟน ภายใต้ตระกูล "ZenFone 3" แบ่งออกเป็น "ASUS ZenFone 3" สมาร์ทโฟนที่ได้รับรางวัลจาก Computex 2016 และ d&I Award ในด้านการออกแบบที่มีความพรีเมียม ควบคู่กับการมอบประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว Full HD เลือกใช้พาเนล Super IPS+ คุณภาพสูงให้แสงสว่างสูงสุดถึง 500cd/m2ทำให้เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อความบันเทิงไม่ว่าจะใช้แอพพลิเคชั่น วีดีโอ หรือเล่นเกมความละเอียดสูงก็ทำได้เป็นอย่างดี และมีหน่วยความจำแรม 4GB ให้ประสิทธิภาพการทำงานในระดับคอมพิวเตอร์พีซี ขณะที่กล้องหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เทคโนโลยีออโต้โฟกัส ASUS TriTechและ ZenFone 3 รุ่น 5.5 นิ้ว มาพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษคือ หูฟัง Marshallเพื่อการสัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงที่เหนือกว่า (จำนวนจำกัด)
"ASUSZenFone 3 Ultra" ได้รับรางวัล Best Choice Golden Award จากงาน Computex 2016 เป็นสมาร์ทโฟนที่ขึ้นรูปด้วยอลูมิเนียม ไม่มีเส้นรับสัญญาณด้านหลัง ออกแบบมาสำหรับผู้รักความบันเทิงกับจอแสดงผลขนาด 6.8 นิ้ว Full HD และเป็นครั้งแรกของโลกที่ใช้ชิปประมวลผลภาพระดับ 4K UHD TV ขณะที่ระบบเสียง ให้ความคมชัดและมีพลังด้วยชิป NXP Smart Amplifier และรองรับระบบเสียงระดับ Hi-Res Audio (HRA) ทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่รองรับการจำลองเสียง 7.1 ทิศทางผ่านเทคโนโลยี DTS Headphone:Xส่วนกล้องถ่ายภาพ ให้ความละเอียดสูงถึง 23 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยเทคโนโลยีโฟกัสภาพ ASUS TriTechและจุใจกับแรมสูงสุด 4GB มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4600 mAhรองรับการชาร์จเร็ว ทั้งยังใช้เป็นแบตเตอรี่สำรองเพื่อชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์อื่นได้อีกด้วย
"ASUSZenFone 3 Deluxe" สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมโครงสร้างวัสดุอลูมิเนียมระดับพรีเมี่ยม ไร้เส้นเสาอากาศภายนอกทำให้ได้ทั้งความบางเบาและความแข็งแกร่ง ทั้งยังรวบรวมเทคโนโลยีชั้นยอด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD กล้องถ่ายภาพมีเซ็นเซอร์รับภาพชั้นยอด ให้ความละเอียดสูงสุด 23 ล้านพิกเซล และมีเทคโนโลยีโฟกัส ASUS TriTechครอบคลุมทั้งเลเซอร์ออโต้โฟกัส ระบบโฟกัส Phase Detection และโฟกัสแบบต่อเนื่องส่วนระบบเสียงให้ความคมชัด มีพลังด้วยชิป NXP Smart Amplifier และระบบเสียงระดับ Hi-Res Audio (HRA) ทั้งยังมีเทคโนโลยี Quick Charge 3.0 ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว นอกจากนี้มีหน่วยความจำแรม 6GB ให้ประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างลื่นไหล
ZenFone 3 Laser ตัวเครื่องเป็นเมทัลลิกหน้าจอ Full HD ขนาด 5.5 นิ้วและมีระบบโฟกัสอัตโนมัติที่เร็วเพียง 0.03 วินาที และมีโหมดแบ็กไลท์ (HDR) ที่ล้ำสมัยเพื่อให้ถ่ายภาพได้สวยยิ่งขึ้น มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลและเซ็นเซอร์ Sony IMX214 พร้อมระบบปรับสีเพื่อให้ภาพดูเป็นธรรมชาติแม้ในที่ที่แสงน้อยหรืออยู่ในที่ร่มมีระบบป้องกันการเคลื่อนไหว Electronic Image Stabilization (EIS) แบบ 3 แกน (yaw, pitch และ roll) และมีการชดเชยการเคลื่อนไหวเพื่อให้ถ่ายวิดีโอได้นิ่งกว่าเดิม
ASUS ZenFone 3 Max ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้น ด้วยแบตเตอรี่ 4100mAh ที่สามารถสแตนด์บายได้ถึง 30 วัน เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น สามารถใช้โทรศัพท์บน 3G ได้ถึง 20 ชั่วโมง เข้าเว็บด้วย Wi-Fi ได้นานถึง 18 ชั่วโมง ฟังเพลงได้ 87 ชั่วโมง และเล่นวิดีโอได้นานถึง 15 ชั่วโมงZenFone 3 Max สามารถใช้เป็นพาวเวอร์แบงก์เพื่อชาร์จอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อีกด้วยและหน้าจอขนาด 5.2 นิ้วของZenFone 3 Max เป็นแบบ IPS และเคลือบแก้ว พร้อมขอบ 2.5D ที่เรียบสนิทไปกับตัวเครื่องเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ค"ASUS"ยังคงผนึกกำลังกับ "Intel" พันธมิตรธุรกิจสำคัญที่ร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมอันยอดเยี่ยม อย่างการเปิดตัว 3 รุ่นในปีนี้ ก็ได้เลือกใช้ขุมพลังของโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน
"ASUSZenBook 3" ล่าสุดยังคงรักษาคอนเซ็ปต์ของ ZenBookที่เน้นเรื่อง "ความบาง เบา แต่ประสิทธิภาพสูง" โดยโฉมใหม่นี้ชูจุดเด่นด้วยความเพรียวบางเพียง 11.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 910 กรัม ใช้วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยเกรดระดับเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศเพื่อเพิ่มความทนทานถึง 50% จอแสดงผลขนาด 12.5 นิ้ว มาพร้อมกับ Intel® Core™ i7 Processor แรม 16GB ความเร็ว 2133MHz หน่วยความจำ SSD แบบ PCIe® Gen 3 x4 มากสุด 1TB ลำโพงและระบบเสียงจาก Harman Kardonร่วมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสุด 9 ชั่วโมง ผสานกับลวดลายการออกแบบในแบบฉบับของ ZenBookมีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ สีน้ำเงิน Royal Blue, สีชมพู Rose Gold และสีเงิน Quartz Grey
"ASUS Transformer 3" พีซีแบบ 2-in-1 แข็งแกร่งแต่บางเบาด้วยการใช้อลูมิเนียม ทำให้มีน้ำหนักเพียง 695 กรัม และบางเพียงแค่ 6.9 มิลลิเมตร ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกว่ากระดาษขนาด A4 จอแสดงผลมีขนาด 12.6 นิ้ว และสามารถใช้งานคู่กับ ASUS Transformer Sleeve Keyboard ขณะที่ภายในเลือกใช้ 7th Gen Intel® Core™ Processorแรมสูงสุด 8GB และหน่วยความจำ SSD สูงสุด 512GB นอกจากนี้รุ่นนี้รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น ปากกา ASUS Pen, ลำโพง Audio Pod โดยมีให้เลือกสองเฉดสี ได้แก่ สีทอง Icicle Gold กับสีเงิน Glacier Gray
"ASUS Transformer 3 Pro" พีซี 2-in-1 รุ่นแรกและรุ่นเดียวในโลกที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในรูปแบบแท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก เครื่องดนตรี และพีซีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับทั้งการใช้งานในวันทำงานและเพื่อความบันเทิง ให้ผิวสัมผัสอันยอดเยี่ยมจากอลูมิเนียม มีความบางเพียง 8.35 มิลลิเมตรพร้อมจอแสดงผล 12.6 นิ้ว ความละเอียดสูง เพื่อภาพคมชัด และหนึ่งในขุมพลังที่เลือกใช้ก็คือIntel® Core™ i7 Processor, โดยมีตัวเลือกหน่วยความจำSSD แบบ PCIe x4 สูงสุดถึง1TB และแรมความเร็ว 2133MHz ความจุสูงสุด 16GB ส่วนขาตั้งถูกออกแบบด้วยโลหะคุณภาพสูง และผู้ใช้งานสามารถปรับองศาได้ตามที่ต้องการ โดยมีมุมกว้างสุดถึง 170° สามารถทำงานร่วมกับคีย์บอร์ด ASUS Transformer Cover Keyboard และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้ เช่นปากกา ASUS Pen, แท่น ASUS Universal Dock สำหรับเป็นฮับเชื่อมต่อ
นอกจากนี้ ASUS ยังได้เปิดตัวโน้ตบุ๊ก"ASUS ROG GX800" สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งรุ่นนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในโน้ตบุ๊กที่ประสิทธิภาพสูงสุดรุ่นหนึ่งของโลกในปัจจุบัน รวมทั้งทำตลาดคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป "ROG G31 Edition 10" ขนาดกะทัดรัด สานต่อความสำเร็จจาก ROG G20 ปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยลวดลายพิเศษฉลองครบ 10 ปีผลิตภัณฑ์ซีรีย์ ROG นอกจากเรื่องของผลิตภัณฑ์แล้ว เอซุสยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารแบรนด์ซึ่งในปีนี้เป็นปีแรกที่ เอซุสประเทศไทยใช้กลยุทธ์การสื่อสารผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่ได้ "ปู – ไปรยา สวนดอกไม้ลุนเบิร์ก" มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนไทยคนแรก ด้วยภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับในหลากหลายบทบาทหน้าที่ ทั้งการเป็นนักแสดง นางแบบ ตลอดจนกิจกรรมทางสังคม ที่ปัจจุบัน ปู – ไปรยาได้เข้าร่วมกับโครงการเพื่อสังคมหลายโครงการ หนึ่งในนั้นคืองานช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในโครงการ Namjai for Refugees ของ UNHCR รวมทั้งยังเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในการมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่งในทุกๆด้าน
เอซุสมั่นใจว่าการสื่อสารผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่มีไลฟ์สไตล์สอดคล้องกับแบรนด์เอซุสจะช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เด่นชัดขึ้น และสร้างการรับรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ดียิ่งขึ้น
"เราเชื่อมั่นว่าการนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน และโน้ตบุ๊กอย่างครบวงจร ภายใต้แนวคิด "Zenvolution" ที่โดดเด่นทั้งในด้านนวัตกรรมสุดล้ำ และด้านดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย พร้อมกับการสื่อสารผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์ในครั้งนี้ จะเป็นการยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์เอซุสให้มีความพรีเมี่ยมขึ้น และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ที่จะทำให้การใช้ชีวิตของผู้บริโภคสะดวกและง่ายขึ้นในทุกๆ วัน" นายเจฟฟ์ โลกล่าวในตอนท้าย