กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--มทร.ธัญบุรี
เด็กหนุ่มอารมณ์ดี ประธานฝ่ายศิลปะและวัฒนธรรม องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี "ณัฐ" นายณัฐพล เกิดเอี่ยม นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขานาฏศิลป์ไทยศึกษา คณะศิลปกรรม บุตรชายของ นายไชยศ เกิดเอี่ยม และนางผ่องศรี ช่างคิด นักศึกษาที่ควรเอาแบบอย่าง
ณัฐ เล่าว่า พ่อของตนเองเสียชีวิตตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ตนเองต้องอาศัยอยู่กับแม่ โดยแม่ยึดอาชีพขับรถแท็กซี่ ด้วยนิสัยส่วนตัวเป็นคนรักความสนุกสนาน ทำกิจกรรมมาตั้งเรียนเด็ก ชอบวาดรูป งานศิลปะต่างๆ ร่วมไปถึงสิ่งที่ตนเองชอบมาก คือ วิทยากรลูกเสือ เพราะว่า ได้ร้องเพลง ได้เต้น สร้างสันทนาการให้กับคนอื่น งานด้านวิทยากรลูกเสือ ช่วยงานการฝึกอบรมเยาวชน หรือลูกเสือเนตรนารี ยุวกาชาด และผู้บำเพ็ญประโยชน์ของโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นกิจกรรมทางด้านสันทนาการ สำหรับในการเดินทางไปเป็นวิทยากรตามค่ายลูกเสือต่างๆ จะมีครูของทางโรงเรียนต่างๆ ติดต่อเข้ามา กว่าที่ตนเองจะมาเป็นวิทยากรลูกเสือได้ ต้องผ่านการอบรมต่างๆ มากมาย แต่ด้วยใจรัก ตนเองจึงตัดสินใจเข้าอบรม ในการเป็นวิทยากรลูกเสือ บางงานจะมีค่าตอบแทนให้ หรือไม่มีให้ ตนเองไม่ได้สนใจเรื่องของค่าตอบแทน "แต่ตนเองชอบที่ได้สร้างความสนุกให้ผู้อื่น"
ปัจจุบันตนเองกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 สาขานาฏศิลป์ไทยศึกษา คณะศิลปกรรม มทร.ธัญบุรี สืบเนื่องมาจากตนเองทำกิจกรรมและได้อยู่ชุมนุมศิลปะการแสดง ของโรงเรียนธรรมศาสตร์ จึงรักและชอบการแสดง บวกกับมีอาจารย์ที่รู้จักแนะนำให้เรียนสาขาวิชานี้ ระหว่างที่เรียนอยู่ มทร.ธัญบุรี ตนเองรับงานแสดงกับทางภาควิชา ไม่ว่าจะเป็นการแสดงโขน รวมไปถึง การเล่นลิเก คณะรวมมิตรศิษย์บรรทม ซึ่งเป็นคณะลิเกของอาจารย์ในสาขานาฏศิลป์ไทยศึกษา รับทั้งบทพระเอก ตัวโกง และตัวโจ๊ก หลากหลายบท ท้าทายความสามารถของตนเอง และยังเป็นการทบทวนความรู้ ที่ได้เรียนมา เป็นการฝึกประสบการณ์ชีวิตอย่างหนึ่ง ปัจจุบันตนเองเกรดเฉลี่ยสะสมอยู่ที่ 3.49 ถึงจะทำงานแต่ก็ไม่ทิ้งการเรียน
ปัจจุบันตนเองดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายศิลปะและวัฒนธรรม ขององค์การนักศึกษา มทร.ธัญบุรี อาสาเข้ามาทำกิจรรมให้กับมหาวิทยาลัย จะได้ฝึกประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทำให้ตนเองรู้ว่าเวลาอยู่กับคนอื่นควรทำอย่างไร ปรับตัวอย่างไร และที่สำคัญวางตัวอย่างไร เมื่อเข้ามาทำงานในองค์การนักศึกษาต้องแสดงศักยภาพในตนเองที่มี เพื่อร่วมพัฒนามหาวิทยาลัย เข้ามาทำงานต้องทำให้ดีที่สุด และที่สำคัญต้องแบ่งเวลาให้ถูกต้อง
"กลองดังเพราะมีคนตี ศิษย์ดีเพราะว่ามีครู" คือคติพจน์ที่ผมใช้ในการดำเนินชีวิต เพราะว่า ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี ปัจจุบันผมจะแบ่งเบาภาระของแม่ให้ได้มากที่สุด เงินที่หามาได้จากการเป็นวิทยากรลูกเสือ รับงานลิเก รวมไปถึงงานแสดงต่างๆ ผมจะพยายามแบ่งใช้อย่างประหยัด ทุกวันที่ผมกลับบ้าน แม่ของผมจะกลับบ้านหลังสามทุ่มทุกวัน ผมสงสารแม่ อยากให้แม่เหนื่อยน้อยที่สุด อีก 2 ปี ตนเองจะสำเร็จการศึกษา เป็นคุณครูตามที่ตนเองได้วาดฝันไว้ ตนเองจะเป็นคุณครูที่เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตที่ดีให้กับเด็กๆ ณัฐ กล่าวทิ้งท้าย
ต้องขอชื่นชมในความสามารถของ ประธานฝ่ายศิลปะและวัฒนธรรม มทร.ธัญบุรี เด็กดีของ มทร.ธัญบุรี