กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--เอไอเอส
เอไอเอส ตอกย้ำผู้นำด้านเครือข่ายและบริการดิจิทัล เดินหน้าสนับสนุนพลังไอเดียคนรุ่นใหม่และ Tech Startup อย่างต่อเนื่อง และเปิดโอกาสใหม่ให้กับเหล่า the New Creative Digital Startup รุกเปิดตลาด Content Creator ของไทยให้เติบโตอย่างสร้างสรรค์ จัดโครงการ "The 5-Min VDO Challenge" ชวนคนรุ่นใหม่ ใครก็ได้ ส่งคลิปวิดีโอ เข้าประกวดในหัวข้อ "Connecting Live – เชื่อมโลกให้ใกล้ เชื่อมใจให้กว้าง" ค้นหาผู้ชนะ 2 ทีม คว้าเงินรางวัลรวมกว่า 5 แสนบาท พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขันในเวทีระดับโลก เพื่อชิงเงินรางวัล 1.3 ล้านบาท และโอกาสก้าวสู่การเป็นดิจิทัลพาร์ทเนอร์ ร่วมทำธุรกิจกับโอเปอร์เรเตอร์ชั้นนำจากทั่วโลก เผยแพร่ผลงานให้ผู้ใช้มือถือในกลุ่มสิงเทลกว่า 600 ล้านรายใน 7 ประเทศของทวีปเอเชีย แอฟริกา และออสเตรเลียได้ชม
พร้อมทั้งร่วมส่งเสริมกลุ่ม Tech Startup อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง กับโครงการ AIS The StartUp CONNECT ช่องทางเชื่อมต่อธุรกิจผ่านออนไลน์ (www.ais.co.th/thestarup/connect) เปิดกว้างให้เหล่าสตาร์ทอัพในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ และทั่วทุกมุมโลก สามารถส่งผลงานได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม. และนัดหมายพรีเซ็นต์งานผ่าน VDO Conference ได้อย่างไร้ข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานที่ อำนวยความสะดวกและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้สตาร์ทอัพทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด เอไอเอสยังร่วมสนับสนุนงาน "Startup Thailand and Digital Thailand" ระดับภูมิภาค จัดโรดโชว์ไปให้ความรู้ และเปิดรับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับเอไอเอส พร้อมพารุ่นพี่สตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ จากการบุกตลาดในระดับภูมิภาค ไปร่วมจุดประกาย และเปิดมุมมองทางธุรกิจ ให้กับคนรุ่นใหม่ เจ้าของธุรกิจ และสตาร์ทอัพในต่างจังหวัดทั่วประเทศอีกด้วย
นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า "เราเชื่อว่าพลังไอเดียของคนรุ่นใหม่ สามารถสร้างคอนเทนต์และธุรกิจใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นได้ทุกวัน อย่างไร้ข้อจำกัดทั้งเรื่องเวลาและสถานที่ ด้วยโครงข่ายดิจิทัล ทั้ง Mobile และ Fixed broadband ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้ตลาดผู้ใช้มือถือ และผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์และบริการ มีการเติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างก้าวกระโดด เห็นได้จากกระแสการเติบโตของธุรกิจ Tech Startup ในเมืองไทย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการยุคใหม่ ที่นำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาสร้างเป็นบริการเพื่ออำนวยความสะดวกหรือแก้ปัญหาในการใช้ชีวิตด้านต่างๆ ให้กับผู้คน ซึ่งเอไอเอสได้ให้การสนับสนุนและผลักดันบริการออกสู่ตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน เรามองเห็นพลังไอเดียของคนรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณค่า และช่วยจุดประกายสังคมให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยหนึ่งในดิจิทัลคอนเทนต์ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก คือ วีดิโอ ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่ทรงพลังไร้อุปสรรคทางด้านภาษาและภูมิศาสตร์ สามารถเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากทั้งที่อยู่ห่างไกลกันได้ เราจึงได้เห็นเทรนด์ใหม่ที่ผู้บริโภคทุกคนสามารถกลายเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ พร้อมส่งแชร์ให้คนบนโลกออนไลน์ติดตามได้ทุกที่ทุกเวลา
วันนี้ เอไอเอสจึงตั้งใจยกระดับการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ไปอีกขั้น โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมเป็น Content Creator สร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนต์ที่มีคุณค่าให้กับตลาดผู้ใช้มือถือในประเทศไทยและเผยแพร่สู่ตลาดระดับภูมิภาคต่อไป จึงได้จัดโครงการ "The 5 - Min VDO Challenge" ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทในกลุ่มสิงเทล ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็นสองระดับ คือ หาผู้ชนะระดับประเทศ จำนวน 2 ทีม เป็นตัวแทนไปแข่งขันในระดับภูมิภาค ร่วมกับผู้ชนะจากโอเปอร์เรเตอร์อื่นในกลุ่มสิงเทล รวม 14 ทีม 7 ประเทศทั่วโลก ด้วยโจทย์เดียวกันในหัวข้อ "Connecting Live" โดยมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการเชื่อมต่อผู้คนทั่วโลกด้วยคอนเทนต์วิดีโอที่มีคุณภาพและสร้างสรรค์"
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงานคลิปวิดีโอ ในหัวข้อ "Connecting Live – เชื่อมโลกให้ใกล้ เชื่อมใจให้กว้าง" ความยาวไม่เกิน 5 นาที ไม่จำกัดรูปแบบและแนวทาง ไม่จำกัดอายุ จะเดี่ยวหรือทีมก็ได้ มาที่เว็บไซต์ www.ais.co.th/the5minvideochallenge เปิดรับผลงานตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. – 9 ก.ย. 59 ประกาศรายชื่อทีมผู้ผ่านการคัดเลือกรอบแรก จำนวน 25 ทีม ในวันที่ 12 ก.ย. 59 จากนั้นจะจัดเวิร์คช็อป อบรมให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์เพื่อนำไปปรับปรุงผลงาน และประกาศรายชื่อผู้ชนะ จำนวน 2 ทีม ในวันที่ 7 ต.ค. 59 เพื่อเป็นตัวแทนไปแข่งขันในระดับภูมิภาค โดยประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานประกาศผลผู้ชนะระดับภูมิภาคขึ้น ในวันที่ 21 พ.ย. 2559 ที่กรุงเทพฯ
นายปรัธนา กล่าวเพิ่มเติมถึงการร่วมสนับสนุนการจัดงาน "Startup Thailand & Digital Thailand" ว่า "เอไอเอสยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับภาครัฐ ในการส่งเสริมและกระจายโอกาสให้คนไทยทั่วประเทศได้เห็นถึงพลังของกลุ่มสตาร์ทอัพ ที่นำไอเดียผนวกกับเทคโนโลยี มาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ซึ่งจากการทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพอย่างใกล้ชิดมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้เรามองเห็นเทรนด์การเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพในระดับภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในแง่ของการสร้างโซลูชั่นส์เพื่อแก้ปัญหาในการใช้ชีวิตให้กับคนในท้องถิ่น ตลอดจนการขยายตลาดและฐานลูกค้าไปยังต่างจังหวัด ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าลักษณะการทำงานของ Startup จากนี้ จะสามารถ Transform รูปแบบสู่การเป็น Digital Creator ที่สอดคล้องกับกระแสของ VDO Content ดังกล่าวข้างต้นอย่างแน่นอน
โดยในงาน "Startup Thailand & Digital Thailand" ครั้งนี้ เอไอเอสได้ร่วมโรดโชว์ไปให้ความรู้เกี่ยวกับสตาร์ทอัพ และเปิดรับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับเอไอเอส พร้อมนำทีมสตาร์ทอัพรุ่นพี่จากโครงการ AIS The StartUp ที่ประสบความสำเร็จและมีประสบการณ์ในการทำตลาดระดับภูมิภาค ได้แก่ Golfdigg, Infographic Thailand, Local Alike, Fixzy, ZipEvent, Fourleaf, Favstay ไปร่วมจุดประกาย และเปิดมุมมองทางธุรกิจ ให้กับนักศึกษา, คนรุ่นใหม่ เจ้าของธุรกิจ และสตาร์ทอัพในต่างจังหวัด ซึ่งจะจัดใน 3 หัวเมืองใหญ่ เชียงใหม่, ขอนแก่น และภูเก็ต ช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย. 59 นี้"