กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น
IFEC เดินหน้ารุกธุรกิจโรงไฟฟ้าเต็มที่ จับตาเข้าถือหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต่างประเทศ 200-300 เมกะวัตต์กันยายนนี้ ดันพอร์ตโรงไฟฟ้าโตก้าวกระโดดทันที หลังประสบความสำเร็จดีลปรับโครงสร้างดาราเทวีดันกำไรไตรมาส 2 สูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 562 ล้านบาท ทะยานแรง 537% ผู้บริหารย้ำดำเนินการตามแผนหลังดาราเทวีพ้นฟื้นฟูกิจการฯ ทั้งผุดโครงการหรู พร้อมขายที่ดินบุ๊คกำไรต่อเนื่อง
นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเร่งดำเนินงานด้านธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ เน้นการไปที่การเข้าร่วมทุนกับพันธมิตรต่างประเทศ ในช่วงระหว่างรอทางการไทยเปิดประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
ล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทต่างประเทศที่ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่มีการจ่ายกระแสไฟเชิงพาณิชย์ (COD) อยู่แล้ว และมีสัญญาผลิตไฟฟ้า (PPA) อย่างต่อเนื่อง รวมจำนวน 200-300 เมกะวัตต์ โดยบริษัทจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วนราว 40-50% ปัจจุบันการเจรจาคืบหน้ากว่า 90% คาดว่าจะสรุปดีลดังกล่าวได้ในเดือนกันยายนนี้
"พันธมิตรต่างประเทศที่เราจะเข้าไปถือหุ้น มีความเชี่ยวชาญด้านโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเป็นอย่างดี และมีการผลิตไฟฟ้าอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้จากการขายไฟได้ทันทีหลังจากการเข้าถือหุ้น นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะทำให้การดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายผลิตไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ในปีนี้ จากปีที่ผ่านมาที่ผลิตไฟฟ้าได้ 38 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้รายได้เราเติบโตอย่างก้าวกระโดด" นายสิทธิชัย กล่าว
นายสิทธิชัย ย้ำด้วยว่า ผู้บริหารได้ดำเนินการอย่างเต็มกำลังที่จะทำให้บริษัทมีรายได้และกำไรเพื่อผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะในช่วงระหว่างรอทางการไทยประมูลใบอนุญาตโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน จะเห็นได้จากผลประกอบการไตรมาส 2 ที่บริษัทมีกำไรถึง 562 ล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเติบโตถึง 537% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่าน ได้ สะท้อนถึงผลสำเร็จจากการเข้าซื้อและปรับโครงสร้างหนี้ โรงแรมดาราเทวี และภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ โรงแรมดาราเทวี จะพ้นจากแผนฟื้นฟูอย่างเป็นทางการ
หลังจากนั้น บริษัทจะดำเนินการขายที่ดินด้านหลังโรงแรมดาราเทวี จำนวน 40 ไร่ มูลค่า 625 ล้านบาท ให้กับบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินโครงการหรู 5,000 ล้านบาท รวมไปถึงการขาย เรสซิเดนซ์ วิลล่าหรู จำนวน 14 หลังในโครงการดาราเทวีอีกมูลค่า 760 ล้านบาท รวมมูลค่า 1,385 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้กำไรได้อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงจะมีการปรับโครงสร้างกิจการโรงแรมดาราเทวีเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 มีรายได้รวมจำนวน 1,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 283% ส่งผลให้งวด 6 เดือนมีรายได้รวม 1,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 179% โดยมีกำไรสุทธิไตรมาส 2 จำนวน 562 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 537% ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 418 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 360%