กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--บลจ.บัวหลวง
นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา Managing Director และ Chief Investment Officer กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่ากองทุนเปิดบัวหลวงร่วมทุน หรือ BCAP พร้อมจ่ายปันผลจากรอบการดำเนินงานระหว่าง 1 พฤษภาคม2559 ถึง 30 กรกฎาคม 2559 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.34642 บาท โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันนี้ (15สิงหาคม 2559)
"นับตั้งแต่ต้นปี 2559 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์บ้านเราได้ปรับตัวขึ้นตามความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยนับแต่ต้นปีให้ผลตอบแทนไปแล้ว 20.44% และเมื่อการเมืองหลังประชามติร่างรัฐธรรมนูญมีทิศทางชัดเจนขึ้น เราจึงมองข้ามไปถึงการเลือกตั้งและโอกาสในการลงทุนในปีหน้าแล้ว" นายพีรพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเปิดบัวหลวงร่วมทุน หรือ BCAP เน้นลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่เติบโตสูงหรือมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง โดยมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ไม่เกินปีละ 4 ครั้ง นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯในปี 2539 ได้จ่ายปันผลสะสมไปแล้ว 15.3693 บาท ผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งคิดเป็น402.02% (เกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่ 62.02%) (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มิ.ย. 2559)
นายพีรพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์บ้านที่ปรับตัวขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากกระแสเงินที่ไหลออกจากตลาดของประเทศที่พัฒนาแล้ว (DM) เพราะต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาและความไม่แน่นอนต่างๆ โดยเฉพาะหลัง Brexit ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้นไปอีก ทำให้เงินไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ (EM) มากขึ้น ซึ่งรวมถึงภูมิภาคอาเซียนด้วย โดยประเทศไทยมีกระแสเงินไหลเข้าตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้กว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ อินโดนีเซีย 9.9 หมื่นล้านดอลลาร์ และมาเลเซีย 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์
"B-ASEAN กองทุนที่เราเลือกเฟ้นหาลงทุนเองในภูมิภาคอาเซียน จึงได้อานิสงค์อย่างเต็มที่ ถือเป็นหนึ่งในกองทุนที่เปิดตัวได้สวยงาม แต่นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะจากการที่เราได้ไปลงพื้นที่จริงในอาเซียน ทำให้เรารู้ซึ้งถึงศักยภาพที่ยังซ้อนเร้นอยู่ในแต่ละประเทศ ซึ่งจะให้ผลตอบแทนอีกมากสำหรับนักลงทุนที่มีความสามารถในการรอคอย"
สำหรับ B-ASEAN เป็นกองทุนหุ้นที่ลงทุนในตลาดทุนของประเทศอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ รวมทั้งประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อ 31 มีนาคม 2559 มูลค่าหน่วยลงทุนล่าสุดหน่วยละ 11.4393 บาท (10ส.ค. 2559) ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ตั้งกองทุน 14.39% ซึ่งสูงกว่า ดัชนีตลาดภูมิภาคอาเซียนถึง 11.46% (เกณฑ์มาตรฐาน MSCI ASEAN INDEX ที่ 2.93%) (ข้อมูล 10 ส.ค. 2559)