กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานการประชุมติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2559 กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐวิสาหกิจมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ และที่ประชุมในวันนี้เพื่อติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2559 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด และผลักดันการลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปี 2560 ให้เร็วขึ้น ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่าในปีงบประมาณ 2559 รัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของ สคร. ที่มีงบลงทุน 45 แห่ง ได้รับความเห็นชอบในวงเงินลงทุน 304,639 ล้านบาท โดยกำหนดให้เบิกจ่ายร้อยละ 95 ของกรอบวงเงินลงทุน โดยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงเดือนกรกฎาคม 2559 สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 131,081 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 79 ของแผนการเบิกจ่ายสะสม โดยรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการตามปีงบประมาณสามารถเบิกจ่ายสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 –กรกฎาคม 2559 ได้จำนวน 70,764 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 76 ของแผนการเบิกจ่ายสะสม และรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการตามปีปฏิทินสามารถเบิกจ่ายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2559 ได้จำนวน 60,317 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 84 ของแผนการเบิกจ่ายสะสม
ในวันนี้ได้เชิญรัฐวิสาหกิจที่มีมูลค่าการลงทุนขนาดใหญ่จำนวน 17 แห่ง ซึ่งมีวงเงินลงทุนจำนวน 289,634 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 96 ของวงเงินลงทุนรวมของรัฐวิสาหกิจ เข้ามาร่วมประชุม โดยรัฐวิสาหกิจที่มีผลการเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การประปาส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และการเคหะแห่งชาติ ขณะที่รัฐวิสาหกิจที่เบิกจ่ายต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) โดยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงปัจจุบันมีรัฐวิสาหกิจ 7 แห่ง ที่มีแผนงานและโครงการที่ดำเนินการได้เร็วกว่าแผนประมาณ 2,569 ล้านบาท เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีเขียวได้เร็วกว่าแผนปะมาณ 380 ล้านบาท และ 1,154 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ มีแผนงานและโครงการลงทุนใหม่ของรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง ที่คาดว่าจะลงทุนเพิ่มเติมได้ในปี 2559 ได้ประมาณ 2,700 ล้านบาท เช่น โครงการบรอดแบนด์ความเร็วสูง 1.6 ล้านพอร์ต ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) วงเงินโครงการประมาณ13,662 ล้านบาท คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ 1,004 ล้านบาท และโครงการลงทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ 1,401 ล้านบาท
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สคร. ควรร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาแผนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจสำหรับปีงบประมาณ 2560 ในรายละเอียด เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผนที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการลงทุนของประเทศในปี 2560 รัฐวิสาหกิจและบริษัทในเครือต้องพิจารณานำโครงการใหม่ที่สามารถดำเนินการได้ในปี 2560 เร่งเบิกจ่ายให้ได้โดยเร็ว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงไตรมาสที่สุดท้ายของปีงบประมาณ 2559 ขอให้รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยรองนายกรัฐมนตรีจะเข้าตรวจเยี่ยมรัฐวิสาหกิจทุกเดือนเพื่อขับเคลื่อนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งได้มอบนโยบายเพื่อเร่งรัดการลงทุนของรัฐวิสาหกิจดังนี้
(1) ให้รัฐวิสาหกิจเร่งการเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2559 ให้มากกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้
(2) ขอให้รัฐวิสาหกิจเร่งทำแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2560 โดยแบ่งเป็น โครงการปกติและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ ให้เลื่อนการลงทุนให้เร็วขึ้น (Front load) ทั้งนี้ ขอให้เน้นให้มีการเบิกจ่ายในไตรมาสที่ 1 ให้มากขึ้น
(3) มอบหมายให้ สคร. แจ้งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจให้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนอย่างใกล้ชิด โดยจะพิจารณาผลการเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ และผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ
(4) มอบหมายให้ สคร. แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อติดตามการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอย่างใกล้ชิด