กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--บลจ.กสิกรไทย
บลจ.กสิกรไทย ส่งกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอายุโครงการ 3 เดือน และ 6 เดือน เสนอขายต่อเนื่อง ชูโอกาสรับผลตอบแทน 1.50% - 1.60% ต่อปี เปิดเสนอขาย 16-22 สิงหาคมนี้
นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 16 - 22 สิงหาคม 2559 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน บีวี (KFF6MBV) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.60% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน แซท (KFF3MZ) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.50% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
สำหรับภาวะตราสารหนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายชัชชัยกล่าวว่า "อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าในเกือบทุกช่วงอายุตราสาร โดยคาดว่าเป็นผลมาจากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมซึ่งออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้นดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่อัตราการว่างงานยังคงที่ จึงทำให้ตลาดคาดการณ์ถึงโอกาสที่มากขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในปีนี้ ประกอบกับผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญของไทยที่ผ่านไปได้ด้วยดี ส่งผลให้มีแรงขายพันธบัตรเข้าซื้อในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และทำให้ผลตอบแทนของพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ มุมมองของบลจ.กสิกรไทย คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.50% ไปจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศลดลงภายหลังร่างรัฐธรรมนูญผ่านมติเห็นชอบ ทำให้ทิศทางการเมืองมีความชัดเจนขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจไทยยังมีทิศทางขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป"
อย่างไรก็ตาม นายชัชชัยกล่าวว่า สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก หรือผู้ที่ต้องการแบ่งเงินลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงมาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ บลจ.กสิกรไทยได้เปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภทกำหนดอายุโครงการเป็นประจำทุกสัปดาห์เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อกผลตอบแทนที่แน่นอน โดยสามารถเลือกลงทุนเป็นเวลา 3 เดือน หรือ 6 เดือน ทั้งนี้สำหรับ กองทุน KFF6MBV ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก Agricultural Bank of China, เงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Commercial Bank of Qatar และเงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank, ประเทศกาตาร์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในตราสารหนี้ Qatar National Bank ด้านกองทุน KFF3MZ ที่มีอายุโครงการ 3 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank, ประเทศกาตาร์ และพันธบัตรรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน KFF6MBV และกองทุน KFF3MZ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com