ตลาดรถยนต์พฤษภาคม โตสวนกระแส ตัวเลขการขายพุ่งทะลุ 60,000 คัน : 5 เดือนขายกว่า 282,000 คัน

ข่าวยานยนต์ Tuesday June 14, 2005 11:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--โตโยต้า มอเตอร์
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2548 ด้วยปริมาณการขาย 60,070 คัน เพิ่มขึ้น 21.9% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2547 แบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 15,808 คัน เพิ่มขึ้น 0.1% รถเพื่อการพาณิชย์ 44,262 คัน เพิ่มขึ้น 32.2% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 39,834 คัน เพิ่มขึ้นถึง 34.1%
ทางด้านสถิติการขายสะสม 5 เดือนของปี 2548 มีปริมาณทั้งสิ้น 282,476 คัน เพิ่มขึ้น 13.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 74,268 คัน ลดลง 13.1% รถเพื่อการพาณิชย์ 208,208 คัน เพิ่มขึ้น 28% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 188,099 คัน เพิ่มขึ้น 30.1%
ประเด็นสำคัญ
1.) ตลาดรถยนต์ 5 เดือนแรกของปี 2548 มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดี โดยทำสถิติการขาย สูงถึงกว่า 280,000 คัน — ตัวเลขการขาย 282,476 คัน เพิ่มขึ้น 13.8% เมื่อเทียบกับสถิติการขายในช่วงเดียวกันของปี 2547 และยังคงส่งสัญญาณบวก แม้ว่าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช) จะประกาศปรับลดตัวเลขประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ จากเดิม 5.5-6.5% เป็น 3.5-4.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยสำคัญ 2 ประการ ได้แก่ ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และสถานการณ์ภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรกรรม โดยรถเพื่อการพาณิชย์ ยังคงเป็นตลาดที่มีสัดส่วนการขายสูงสุดตามที่ได้คาดหมายไว้ และในจำนวนนี้ เป็นตัวเลขการขายของรถกระบะขนาด 1 ตัน ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องถึงกว่า 180,000 คัน แสดงถึงความนิยมที่มีต่ออรรถประโยชน์ของรถกระบะขนาด 1 ตัน ทั้งการใช้งานเพื่อการเดินทางทั่วไป และการใช้งานในเชิงพาณิชย์ อันเป็นผลดีที่ผลักดันให้ตลาดรถยนต์ และเศรษฐกิจภาคอื่นๆ เจริญเติบโตด้วยเช่นกัน
2.) ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม ปรับขึ้นจากเดือนเมษายน ด้วยสถิติการขายกว่า 60,000 คัน — ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 21.9% เมื่อเทียบกับสถิติการขายของเดือนพฤษภาคม 2547 ดัวยตัวเลขการขาย 60,070 คัน และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 7.42% (สถิติการขายเดือนเมษายน 2548 = 55,920 คัน) ซึ่งปัจจัยบวกที่ช่วยผลักดันตัวเลขการขายของเดือนนี้ ได้แก่ แคมเปญส่งเสริมการขาย ที่ทุกค่ายรถยนต์ ต่างนำมาใช้เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
3.) ตลาดรถยนต์เดือนมิถุนายน น่าจะรักษาระดับปริมาณการขาย และมีแนวโน้มขยับตัวดีขึ้น เนื่องจากค่ายรถยนต์ต่างๆ มีแผนในการจัดกิจกรรมการตลาด พร้อมด้วยแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นตลาด และการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับในปีที่ผ่านๆ มา ผลกระทบจากสถานการณ์ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นมีไม่มากนัก โดยแนวโน้มราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซลที่ใกล้เคียงกัน จะสะท้อน ให้เห็นถึงความต้องการในการใช้รถแต่ละประเภทของประชาชนชัดเจนยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่ารถกระบะขนาด 1 ตัน จะเป็นตลาดสำคัญที่ทำให้ภาวะการณ์เศรษฐกิจเป็นไปตามที่คาดหมายไว้ ซึ่งตลาดรถยนต์ตลอดจนอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมจะเติบโตต่อไปอย่างต่อเนื่อง จากโครงสร้างราคาน้ำมัน และโครงสร้างภาษีสรรพสามิตที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ