กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--สถานีโทรทัศน์ช่อง 8
รายการ "ปากโป้ง" ทางช่อง 8 กดเลข 27 โดยมี "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" และ "เข็ม ลภัสรดา ช่วยเกื้อ" เป็นพิธีกรได้นำเสนอเรื่องราวสุดฮอตที่กำลังถูกแชร์ไปในโลกโซเชี่ยลอย่างกว้างขวาง ของหญิงสาวคนหนึ่งที่พัฒนาการตัวเองจากเดิมเป็นแค่ทอมธรรมดาทั่วไป แต่มาปัจจุบันนี้เธอมาไกลมา เพราะเขาได้กลายเป็นผู้ชายไปเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดวันนี้ (4ส.ค.59) คุณ "ชิน – ภัธราปกรณ์ ชินอักษร" เวลา 11.15 น. เจ้าตัวได้เดินทางมาเปิดใจในรายการแบบหมดเปลือก ว่าสาเหตุใดถึงได้เปลี่ยนตัวเองจากผู้หญิงมาเป็นผู้ชายเต็มตัว
สรุปคุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?
"คือถ้าตามชีวิตชินเดิม ๆ แล้วก็คือผู้หญิงนั่นแหล่ะครับ แต่ว่าตอนนี้เปลี่ยนตัวเองมาเป็นแบบนี้ ในปัจจุบันถ้าในบัตรประชาชนก็เป็นนางสาว อายุ 35 ปี"
รู้ตัวเองว่าอยากเป็นผู้ชายตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
"ตั้งแต่เด็ก ๆ เลยครับ คือตั้งแต่เด็ก ๆ พ่อผมสอนมาให้เป็นเด็กผู้ชาย คือพ่อผมรับราชการและค่อนข้างจะโหดนิดหนึ่ง คือถ้าผิดก็ตบเลย ตบหน้าเลย คือเขาเป็นตำรวจไงครับ คือคนอื่นทำผิดได้แต่ลูกตัวเองห้ามทำผิด เขาจะไม่ให้ท้ายเลย และเขาก็เป็นคนเจ้าชู้เค้าก็เลยกลัวลูกสาวออกมาแล้วจะโดนผู้ชายเจ้าชู้มาจีบก็เลยแบบสอนให้ลุย ๆ เลี้ยงแบบผู้ชาย พาไปลุยป่า พ่อจะดูก่อนว่าเราไม่ชอบใส่กระโปรงใช่ไหม เขาก็จะบอกย่าว่าไม่ต้องให้มันใส่กระโปรง ถ้ามันไม่ชอบก็ไม่ต้องให้มันใส่"
คุณรู้ตัวไหมว่าตอนนี้เรื่องของคุณมันถูกแชร์ไปเยอะมากและก็ยังไม่มีใครได้คุยกับคุณเลยว่าคุณเป็นใครมาจากไหน ส่วนใหญ่แล้วที่แชร์ ๆ ออกไปเขาก็จะบอกว่าขยี้หนังตาแทบหลุด ผู้ชายหรือผู้หญิง?
"ตกใจเหมือนกันครับ ก่อนหน้านี้เหมือนกับเราทำเพลงกันมา ทำอินดี้กันมาก็จะแบบเหมือนแค่เราไปร้องเพลงที่ร้านก็จะมีคนติดตาม แต่พอวันหนึ่งที่เราเริ่มเทคฮอร์โมน และก็เริ่มอัดคลิปตัวเอง เพราะตัวเองก็อยากจะรู้ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างไร สองก็คืออยากให้คนอื่นรู้ด้วยว่าเริ่มต้นการทำต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง แต่พอมาเมื่อสองวันเฟสบุ๊คมีอินบ๊อกเข้ามาเยอะมาก เป็นพัน ๆ คนเลยงง เราก็ไม่รู้ว่าเขาไปรื้อรูปมาจากไหน"
ตอนที่คุณเรียนอยู่ชั้นมัธยมคุณแต่งตัวเป็นผู้ชายไหม?
"ผมเป็นเด็กกาญจนบุรี เรียนโรงเรียนผู้หญิงล้วน แต่งตัวเป็นผู้หญิง มีอยู่ช่วงหนึ่งที่อยู่มหาวิทยาลัยแล้วมันพีคมาก เพราะว่าชินร้องเพลงให้มหาวิทยาลัย ช่วงนั้นมีเด็กวิศวะมาจีบเยอะมาก เคยนั่งคิดกับตัวเองว่าเราเป็นอะไรกันแน่ เราชอบผู้หญิงนะ ไอทุกอย่างที่เราแบบไปจับมือผู้หญิง ไปขอเขาเป็นแฟน ไปตามจีบเขา พอผู้ชายมาทำกับเรา เรารู้สึกว่าเดี๋ยวนะ เราลองดีไหม เหมือนเรายังไม่รู้จัวเอง และเราก็เด็กด้วย"
คุณเคยมีแฟนเป็นผู้ชายไหม?
"เขาเรียกว่าลองคบดีกว่า เคยลองคบเพราะว่าอยากจะรู้ว่าตัวเองใช่หรือไม่ใช่ แบบอินเนอร์จริงๆของเราเป็นยังไง อันนี้มันไม่ใช่เรื่องผิดนะ แต่ผมอยากรู้ตัวผมเองจริง ๆ ว่าใช่ไม่ใช่ ไอ้ที่เราทำกับผู้หญิงทุกอย่าง จับมือ แต่พอเราโดนเขาจับกลับรู้สึก...มันไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเลย"
เริ่มรู้ตัวเองมากขึ้นที่สุดช่วงไหน?
"มหาวิทยาลัย เป็นทอมเต็มตัว เพราะตอนมัธยมก็แมนอยู่แล้ว แต่ยังไม่เท่าตอนมหาวิทยาลัย คือมหาวิทยาลัยมีข้อบังคับอย่างหนึ่งคือต้องเป็นนักร้องให้มหาวิทยาลัย และต้องไว้ผมยาว เพราะว่าเผื่อมีงานใหญ่ อย่างเช่นงานเย้าเยือนของคณะแล้วต้องไปร้องที่อื่น เราต้องดูเรียบร้อยที่สุด ซึ่งตอนนั้นผู้ชายก็ยังเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ แต่เราก็ห้าวนะ เราก็พูดกับเขาตรง ๆ ว่าเราไม่ได้ชอบผู้ชาย"
เสียงคุณแบบนี้ คุณเป็นนักร้องหรอ?
"คือตอนนั้นเสียงผู้หญิงมาก หลับตาแล้วแบบเป็นเสียงผู้หญิงเลย"
อยู่ดีดีมาเปลี่ยนร่างกายเป็นผู้ชายแบบนี้ได้อย่างไร?
"ผมเคยคุยกับพ่อว่าอยากเป็นผู้ชายมาก ถึงขนาดที่บอกว่าพ่อทำไงก็ได้อยากเป็นนักมวยปล้ำ อยากหุ่นแบบนั้น พ่อก็บอกว่าเอ็งอยากเป็นอะไรเอ็งก็เป็นไปเลย เอ็งเป็นลูกข้าก็พอแล้ว ตอนนี้อยู้มหาวิทยาลัยแล้ว ก็เริ่มจากดูข้อมูล หาข้อมูลของเมืองนอก ดูจากยูทูปบ้างว่าผ่าอย่างไร"
คุณเป็นแบบนี้มากี่ปีแล้ว?
"ผมเพิ่มเทคฮอร์โมนได้ กันยายนนี้ครบ 1 ปี ปีเดียวแต่ร่างกายผมเปลี่ยนเร็วมาก"
ตัดหน้าอกตั้งแต่เมื่อไหร่?
"ต้องเล่าอย่างนี้ วันที่เทคฮอร์โมนวันแรกก็เดือนกันยายนปีที่แล้ว ผมต้องเข้าออกอยู่กับรพ.รามา ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าเวลาที่เทคฮอร์โมนต้องเทคตลอดชีวิต คุณต้องอยู่กับหมอตลอดชีวิต ต้องตรวจร่างกาย ต้องเจาะเลือด ตรวจเลือดทุก 3 เดือน เช็คมวลกระดูก เช็คฮอร์โมนทุกอย่าง อยู่ในการดูแลของแพทย์ ยากกว่าการที่ผู้ชายแปลงเป็นผู้หญิงอีกหลายเท่า ยากมากเพราหน้าอกต้องเอาออกแน่นอน ผมเอาออกปลายพยปีที่แล้ว"
แสดงว่าที่ผ่านมาเป็นผู้หญิงมาตลอด จนกระทั่ง 7 เดือนที่แล้วคุณเพิ่งเปลี่ยน?
"ใช่ครับ ผมผ่าหน้าอกตัวเองมาพักนึง แตก็ไม่ได้ขึ้นอะไรมาก รูปร่างก็ปกติ พอเราเห็นคนนั้น คนนี้เขาเล่นกล้าม เขาเล่นฟิตเนส เราก็มาคิดว่าเราไม่มีเวลาไปเลย เราก็แบบโอเค เดี๋ยวจะทำให้ดู แรงกดดันมันเยอะครับ โลกโซเชี่ยลมันก็มีผลต่อจิตใจเราเหมือนกัน คือจุดประสงค์ของชินเราจะวางเป้าหมายว่าเราจะทำอะไร ทำเพื่ออะไร ทำไปแล้วได้อะไร แล้วชินอยากหุ่นเฟิร์มมาก ถ้าเราจะเปลี่ยนเป็นผู้ชายทั้งที เราก็ไม่อยากพุงย้อย เราอยากแบบสมาร์ทในการใส่ชุด ใส่สูท ใส่อะไรก็ได้ที่ไม่ต้องใส่เสื้อใน และเราเดินเราต้องแมน นั่นคือพ้อยที่เราตั้งใจ"
แล้วใครว่าเหมือนว่าอะไรคุณ?
"มันก็ไม่เชิงว่าว่า แต่มีแบบพูดว่าเล่นที่บ้านมันจะได้อะไร และกว่าจะไปฟิตเนสคือ กว่าจะขับรถไปฟิตเนสก็ปิดแล้ว มีคนมาว่าเยอะ ส่วนใหญ่ที่ว่าคือทอมด้วยกันนั่นแหล่ะ แบบใช้แอฟแต่งกล้ามบ้างล่ะ"
คุณฉีดฮอร์โมนมาประมาณ 1 ปี?
"ใช่ครับ เสียงเปลี่ยนไปตั้งแต่สองเข็มแรก ตอนนั้เสียงยังเป็นเป็ดอยู่เลย ร้องเพลงไม่ได้ไปประมาณ 2 เดือน"
แล้วคุณทำอาชีพอะไร?
"เป็นครีเอทีพดีไซน์ กลางวันนะครับเป็นฟรีแลนด์ ส่วนตอนกลางคืนเป็นนักร้อง เป็นงานประจำ เมื่อก่อนก็ร้องเพลงเป็นเสียงผู้หญิง แต่ตอนนี้เสียงเปลี่ยนเป็นเสียงผู้ชาย ตอนแรกก็หยุดร้องไปพักหนึ่งเพราะรับเสียงตัวเองไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่เซ็นสิทีฟมากที่เสียงเปลี่ยน"
สังเกตได้ว่าโครงหน้า หน้าคุณจะเปลี่ยนไปด้วย?
"ใช่ครับ จากหน้าใส ๆ ก็จะกร้าน เป็นผด ผดที่มันขึนอยู่ตรงนี้ก็คือหนวดที่มันกำลังจะมา แต่ทุกอย่างเป็นกรรมพันธุ์ด้วยนะถ้าสมมุติบ้านพี่หนุ่มบ้านพี่เข็มไม่มีใครมีหนวด คุณก็จะไม่มีนะ ไม่ใช่มาปลูกกันได้ทีหลัง"
ณ วันนี้หน้าอกคุณตัดไปแล้ว และมดลูกล่ะ?
"มดลูกยังมีอยู่ ผมทราบว่าถ้าเทคฮอร์โมนเพศชายในผู้หญิงแล้ว ยังไงก็ต้องเอาออกคือหน้าอกและรังไข่ ต้องเอาออกแน่นอน แต่วันนี้ยังไม่ได้เอาออก ถ้าไม่เอาออกมีผลแน่นอน"
ทุกวันนี้คุณมีประจำเดือนไหม?
"ไม่มีครับ มันโดกกดไปหมดแล้ว และฮอร์โมนผู้ชายมันเยอะมาก"
และเมื่อไหร่คุณจะเอาออก?
"น่าจะปีหน้า คือที่ไว้อยู่เนี่ย เพราะเราอยากจะรู้ว่าจะอธิบายได้ไหมว่า เวลาผู้หญิงมีประจำเดือนมันมีความรู้สึกว่าปวดท้องอย่างไร เพราะตอนนี้มันไม่สามารถพูดได้เลยว่ามันรู้สึกอย่างไร ผมไม่มีประจำเดือนมานานแล้ว ก่อนที่จะเทคฮอร์โมนอีก แต่ตอนตรวจภายใน ตรวจอะไรก็แข็งแรงหมด"
เอาเป็นว่ามดลูกของคุณรอการเอาออก และสิ่งที่จะนำเข้าล่ะ?
"สิ่งที่จะนำเข้าที่ต้องการคือเย็บปิดช่องคลอดครับ ที่จะทำคือการผ่าปุ่มคริสตอล ปุ่มคริสตอลของผู้หญิงมันจะยื่นออกมา เยอะสุดแค่ไหนแล้วแต่กรรมพันธุ์ ตรงนั้นแหล่ะครับเย็บปิดและเราจะสามารถยืนฉี่ โดยพุ่งไปข้างหน้าได้ ถ้าปั้นออกมา คือจะต้องเอาเนื้อตรงแขนมาใส่ ผมไม่ทำแบบนั้นครับ ต้องบอกไว้ก่อนว่ามาออกรายการมันเป็นดาบสองคม สิ่งที่จะบอกก็คือว่าสิ่งที่พูดในรายการก็คือตัวผม และตัวผมพอใจที่สุดแล้วกับการที่ตัวผมเป็นอย่างนี้ ผมต้องการแค่รูปลักษณ์ สิ่งที่สังคมยอมรับคือครอบครัว เพื่อน พี่น้อง แฟนผม แต่ว่าไม่ต้องการที่จะแบบว่าจะต้องแทนถึงขนาดจะปั้นปิกาจูขึ้นมา ต้องแบบนู่น นี่ นั่น คือผมไม่มีเวลาไม่มีเงินขนาดนั้น คือเราจะคบกันผมพูดกับแฟนเสมอว่าวันนี้ผมหยุดแค่นี้นะ แฟนผม เราคบกันตั้งแต่ผมเทคฮอร์โมนอีก แฟนผมเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชาย"
สิ่งที่อยากจะบอก?
"ขอบคุณเว็บต่าง ๆ ที่รื้อรูปผมไปลง ไม่ได้โกรธไม่ได้อะไรเลย แต่คือบอกว่าอย่างน้อง ๆ คนที่มาติดตามผมก็ดูด้วยว่า ศึกษาให้มันดีดี ปรึกษาแพทย์ดีที่สุด คนเราเปลี่ยนมันรีเทิร์นกลับมาไม่ได้ ถ้าฉีดฮอร์โมนมันต้องฉีดไปตลอดชีวิต คุณตัดสินใจคุณต้องมองถึงอนาคตคุณด้วย ครอบครัวคุณเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ก่อนที่คุณจะทำอะไรต่าง ๆ คุณถามคนข้าง ๆ คุณก่อน ถ้าคุณเปลี่ยนไปแล้วครอบครัวรับได้ แต่การงานของคุณ ข้าราชการรับไม่ได้นะครับ"