กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--สสว.
เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนและสินค้า OTOP มีที่วางจำหน่ายอย่างถาวร ยอดขายของร้านที่เปิดเต็มรูปแบบสามารถเลี้ยงตัวได้
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ตามที่ สสว. และหน่วยงานภาคี 4 แห่ง ได้แก่ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย (พช.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Bank) ร่วมกันจัดตั้ง "ร้านค้าประชารัฐสุขใจ Shop" ในปั๊มน้ำมัน ปตท. ทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวม 148 แห่ง โดยคณะกรรมการ สสว. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้อนุมัติงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการร้านค้าประชารัฐทั้ง 148 แห่ง รวมทั้งการปรับปรุงรูปแบบสินค้าของวิสาหกิจชุมชน และ OTOP ที่จะนำมาวางจำหน่ายในร้านค้าประชารัฐด้วย ขณะนี้ มีความคืบหน้าดังนี้
สสว. และกรมพัฒนาชุมชนได้รับมอบร้านค้าที่สร้างเสร็จแล้วจาก ททท. และได้ทยอยเปิดตัวร้านค้าประชารัฐไปแล้วจำนวน 143 แห่ง จากจำนวนที่ตั้งเป้าไว้ 148 แห่ง ในสถานีบริการน้ำมันของปตท. โดยอีก 5 แห่งที่ยังไม่ได้เปิดดำเนินการคือในเขตกรุงมหานคร ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการประสานกับกรุงเทพมหานคร สำหรับสินค้าที่จำหน่ายในร้านค้าประชารัฐสุขใจ Shop นั้น สสว. ร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน และผู้ว่าราชการจังหวัด ได้คัดเลือกสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์เด่นของแต่ละจังหวัด เพื่อนำมาวางขายในร้านค้าประชารัฐสุขใจ Shop ประจำจังหวัดนั้นๆ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน สำหรับสินค้าที่ยังไม่ผ่านการคัดเลือก เพราะอาจมีข้อจำกัดด้านคุณภาพของตัวสินค้า หรือ Packaging สสว. จะช่วยประสานงานกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่ เพื่อจัดหานวัตกรรมมาปรับปรุงตัวสินค้า ในกรณีที่เป็นPackaging สสว.ก็จะประสานงานให้ TCDC หรือศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ของกระทรวงอุตสาหกรรม เข้ามาช่วยปรับปรุง โดยมีธนาคาร SME สนับสนุนด้านการเงินให้แก่ ชุมชนที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน เพื่อผลิตหรือปรับปรุงมาตรฐานสินค้า สสว. และ พช. ได้ฝึกสอนชุมชนในเรื่องบริหารจัดการร้านค้า และจัดหาบุคลากรจากชุมชนมาทำหน้าที่ขายสินค้า โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะช่วยดูแลร้านค้าประชารัฐเป็นเวลา 3 ปี เมื่อร้านมีความมั่นคงแข็งแรงแล้วก็จะส่งคืนให้ชุมชนในแต่ละจังหวัดเป็นเจ้าของต่อไป
ยอดจำหน่ายของร้านค้าประชารัฐสุขใจ ที่ได้เปิดไปแล้วอย่างเต็มรูปแบบ อยู่ในระดับที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ คือเฉลี่ย เดือนละ 7 หมื่นบาท / ร้าน วิสาหกิจชุมชนที่ได้รับประโยชน์จากร้านประชารัฐ มีจำนวน3,000 แห่ง เป็นจำนวนประชาชนในเขตภูมิภาคที่ได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น ประมาณ 30,000 คน