กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--กรมปศุสัตว์
กรมปศุสัตว์ เดินสายตรวจสอบ 4 โรงงานผลิตนมพร้อมดื่มที่ร่วม โครงการจำหน่ายนมโรงเรียนในภาคอีสาน พบบางส่วนยังแอบลักลอบใช้นมผงละลายน้ำ และมีบางโรงงาน ที่อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน เตรียมตั้งทีมตรวจสอบด่วนทั่วประเทศ หากยังพบโรงงานใดใช้นมผง จะขึ้นบัญชีดำ ตัดสิทธิการจำหน่ายนมงวดปีการศึกษาใหม่ทันที
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยภายหลังการเดินทางตรวจสอบโรงงานนมและผลิตภัณฑ์นมที่เข้าร่วมโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีจำนวน 4 แห่งเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมว่า ผลจากการตรวจสอบพบว่า มีโรงงานที่ยังใช้นมผงเติมมันเนยละลายน้ำเพื่อผลิตเป็นนมพร้อมดื่มจำหน่ายให้กับโรงเรียนจำนวน 1 โรง ใช้น้ำนมดิบ 100 เปอร์เซ็นต์ 1 โรง และได้ประกาศหยุดกิจการเนื่องจากสู้การแข่งขันในตลาดท้องถิ่นไม่ได้อีก 1 โรง
นอกจากยังพบด้วยว่าการจำหน่ายนมพร้อมดื่มดังกล่าวของโรงงานส่วนใหญ่ ไม่ได้ใช้ใบรับรองสิทธิที่ออกโดยกรมปศุสัตว์ ในการจำหน่ายนมพร้อมดื่มให้กับโรงเรียนและส่วนราชการ ทั้งที่กรมปศุสัตว์ได้จัดประชุมชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว ตลอดทั้งประสานหน่วยงานที่มีงบประมาณให้แจ้งแนวทางปฏิบัติให้ส่วนภูมิภาคในสังกัดรับทราบแล้ว
ทั้งนี้ สาเหตุที่ไม่มีการใช้ใบรับรองสิทธิ์ในการจำหน่ายนม โรงงานอ้างว่าทางโรงเรียน ไม่ได้กำหนดเป็นเงื่อนไขในการจัดซื้อ ซึ่งถือว่าขัดต่อมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2542 ที่กำหนดให้หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนจัดซื้อนมพร้อมดื่ม จากผู้ประกอบการ หรือโรงงานที่รับซื้อน้ำนมดิบของเกษตรในประเทศ พร้อมทั้งให้คณะกรรมการพัฒนา การปศุสัตว์แห่งชาติเป็นผู้ตรวจสอบและออกใบรับรองให้แก่ผู้ประกอบการ หรือโรงงานเพื่อใช้แสดงต่อ โรงเรียนในการจำหน่ายนม และให้ผู้มีอำนาจในการจัดซื้อของโรงเรียน หรือส่วนราชการนั้น ๆ ต้องเรียกหนังสือรับรองหลักในการจัดซื้อพร้อมทั้งลงนามกำกับปริมาณการจัดซื้อนมในแต่ละงวดไว้ด้านหลังใบรับรองย่อย ทุกครั้งที่มีการจ่ายเงิน
“เป็นที่น่าสังเกตว่าโรงงานส่วนใหญ่มีอุปกรณ์ที่สามารถผลิตนมพร้อมดื่มโดยใช้นมผงละลายน้ำและมีบางโรงเรียนที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากแหล่งชุมชนมาก และการคมนาคมไม่สะดวก ที่สำคัญคือพบว่า ในจังหวัดอุบลราชธานีมีกำลังผลิตน้ำนมดิบเพียงประมาณ 1 ตันเศษ ๆ ทำให้โรงงานผลิตนมพร้อมดื่มที่เหลืออีก 3 โรง ต้องเดินทางไปรับซื้อน้ำนมดิบจากจังหวัดใกล้เคียงทดแทน ซึ่งกรมจะตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งว่าได้ใช้ น้ำนมดิบจริงตามกล่าวอ้างหรือไม่” นายยุคล กล่าว
รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ กรมยังมีแผนที่จะเตรียมตรวจสอบโรงงาน ที่เข้าร่วมโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 76 แห่งทั่วประเทศให้เร็วที่สุด และหากยังตรวจสอบพบว่ายังมีการใช้นมผงละลายน้ำ กรมจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดด้วยการขึ้นบัญชีดำแล้วตัดสิทธิ การขายโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนในงวดใหม่ทันที
ทางด้านนายระพีพงศ์ วงศ์ดี อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า หากผู้ใดพบข้อผิดสังเกตในการจัดซื้อนม หรือพบโรงงานใดใช้นมผงละลายน้ำขายให้กับโรงเรียน หรือหน่วยงานราชการต่าง ๆ ให้ส่งข้อมูลมายังอธิบดีกรมปศุสัตว์ และทางกรมปศุสัตว์จะเก็บข้อมูลเป็นความลับและดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป--จบ--
-สส-