กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--สำนักงาน ป.ป.ช.
ในรอบเดือนที่ผ่านมา มีคดีเกี่ยวกับความผิดในการจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของผู้บริหาร รองผู้บริหาร สมาชิกสภา ที่ปรึกษาและเลขานุการผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด และสำนักงาน ป.ป.ช. ได้รายงานให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบว่าได้ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง และห้ามมิให้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี รวมทั้งขอให้ลงโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวม 11 จังหวัด จำนวน 16 ราย ดังนี้
1. จังหวัดกาญจนบุรี : จำนวน 2 ราย คือ
(1) นายสรอรรศม์ (สรอรรถ) พันธ์เปรม รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกตะบอง อำเภอท่ามะกา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบภายในเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
(2) นางชาติญา เมืองเก่า รองนายกเทศมนตรีตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบภายในเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง
2. จังหวัดชลบุรี : จำนวน 3 ราย คือ
(1) นายพรชัย เชื้อชูชาติ สมาชิกสภาเทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่ง
(2) นายประโยชน์ ยิ่งยง ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
(3) นายวารินทร์ อินพุ่ม ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมืองชลบุรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง
3. จังหวัดชัยนาท : จำนวน 1 ราย คือนางสาวชญานันทน์ อิทธิภิวัฒน์กุล รองนายกเทศมนตรีตำบลหางน้ำสาคร อำเภอมโนรมย์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
4. จังหวัดนครสวรรค์ : จำนวน 1 ราย คือนายกัญจน์นที ศรีทับทิม เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำทรง อำเภอพยุหะคีรี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
5. จังหวัดพิจิตร : จำนวน 1 ราย คือนายวิลัย ตรีตุนา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสากเหล็ก อำเภอสากเหล็กจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
6. จังหวัดเพชรบูรณ์ : จำนวน 1 ราย คือนายจรูญเกียรติ จิรธนวรมงคล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลชนแดน อำเภอชนแดน จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
7. จังหวัดกาฬสินธุ์ : จำนวน 1 ราย คือนายสุรัตน์ แผ้วนพสุข นายกเทศมนตรีตำบลคำม่วง อำเภอคำม่วง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบภายในเวลากำหนด กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
8. จังหวัดนครราชสีมา : จำนวน 1 ราย คือนายไสว ลวกไธสง เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทับสวาย อำเภอห้วยแถลง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
9. จังหวัดสกลนคร : จำนวน 2 ราย คือ
(1) นายธานี วงศ์อักษร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคอนสวรรค์ อำเภอวานรนิวาส จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
(2) นายเกษม ไชยสาคร เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกศิลา อำเภอเจริญศิลป์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
10. จังหวัดพัทลุง : จำนวน 2 ราย คือ
(1) นายนัฐวุธ วงษ์บุญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าบอน อำเภอป่าบอน จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
(2) นายประทีป อ่อนดำ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบภายในเวลากำหนด กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
11. จังหวัดระนอง : จำนวน 1 ราย คือนายประจวบ จันทร์ลำภู นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละอุ่นเหนือ อำเภอละอุ่น จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี