กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการของร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....(ร่างกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ) และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อไป โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะมุ่งเน้นการปฏิรูปและสร้างกลไกการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการให้บริการสาธารรณะที่มีคุณภาพแก่ประชาชน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพย์สินของประเทศ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจให้มีมาตรฐานระดับสากล และสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการองค์กรโดยยึดหลักธรรมาภิบาลและปราศจากการแทรกแซงทางการเมืองที่ไม่รับผิดชอบ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจกล่าวเพิ่มเติมว่า ร่างกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. การจัดตั้ง "คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ" ซึ่งเป็นคณะกรรมการระดับชาติขึ้นตามกฎหมาย เพื่อกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจให้ดำเนินงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
2. การจัดทำ "แผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ" ที่มีอายุ ๕ ปี เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนารัฐวิสาหกิจ
ให้เป็นเอกภาพ ชัดเจน และสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและยุทธศาสตร์ชาติ
3. การมีกลไกสร้างความโปร่งใส โดยเปิดเผยข้อมูลและให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบรัฐวิสาหกิจอย่างแท้จริง
4. การมีกระบวนการคัดเลือกกรรมการรัฐวิสาหกิจที่โปร่งใสและได้มาตรฐาน โดยการกำหนดสมรรถนะหลักเพื่อให้ได้คนดีและคนเก่งมาเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ
5. การพัฒนาระบบประเมินผล ให้สามารถวัดผลการดำเนินงานตามแผนและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมเป็นครั้งแรก
6. การจัดตั้ง "บรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ" เพื่อทำหน้าที่เป็นเจ้าของรัฐวิสาหกิจและพัฒนารัฐวิสาหกิจในฐานะผู้ถือหุ้นเชิงรุก (Active shareholder)
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวสรุปว่า การปฏิรูปรัฐวิสาหกิจในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการสาธารรณะแก่ประชาชน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป