กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ดังนี้
หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 30 มิถุนายน 2559 มีจำนวน 5,924,055.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 42.83 ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาล จำนวน 4,373,288.14 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็น สถาบันการเงิน จำนวน 1,021,940.40 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 517,517.92 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 11,309.07 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับ เดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะคงค้างลดลงสุทธิ 53,297.79 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
v หนี้ของรัฐบาล จำนวน 4,373,288.14 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 41,731.87 ล้านบาทโดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก
· การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 8,418.77 ล้านบาท
· การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 1,805 ล้านบาท
โดยเป็นการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อ แบ่งเป็น (1) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน 1,031.13 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง (2) การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 773.26 ล้านบาท สำหรับดำเนินโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง โครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย
ต่อการเดินรถ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น และโครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และ (3) กรมทางหลวง จำนวน 0.61 ล้านบาท สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2)
· การชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย จากหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง จำนวน 54,087.45 ล้านบาท แบ่งเป็น
- การชำระหนี้เงินต้นที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 (ไทยเข้มแข็ง) จำนวน 9,230.29 ล้านบาท
- การชำระหนี้ต่างประเทศ จำนวน 507.69 ล้านบาท
- การชำระดอกเบี้ย จำนวน 44,349.47 ล้านบาท
· การชำระหนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 11,523.61 ล้านบาท โดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ แบ่งเป็นชำระเงินต้น จำนวน 3,222.33 ล้านบาท และชำระดอกเบี้ย จำนวน 8,301.28 ล้านบาท
· ผลของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้หนี้ต่างประเทศสกุลต่างๆ เพิ่มขึ้น 1,594.58 ล้านบาท
หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน จำนวน 1,021,940.40 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 6,831.42 ล้านบาท โดยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก
· บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินที่ครบกำหนด จำนวน 4,000 ล้านบาท
· การทางพิเศษแห่งประเทศไทยไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด จำนวน 1,000 ล้านบาท
· การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด จำนวน 133 ล้านบาท
· การชำระคืนหนี้เงินต้นจากสัญญาเงินกู้ (Term Loan) จากแหล่งเงินกู้ต่างๆ ที่มากกว่าการเบิกจ่าย ทำให้หนี้ลดลง 120.30 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการชำระหนี้เงินต้นของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,836 ล้านบาท และ 1,200 ล้านบาท ตามลำดับ
· ผลของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้หนี้ต่างประเทศสกุลต่างๆ เพิ่มขึ้น 417.84 ล้านบาท
หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 517,517.92 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 4,096.12 ล้านบาท โดยรายการที่สำคัญเกิดจากการไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนดของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำนวน 2,000 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ และการชำระหนี้สกุลเงินยูโรของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
จำนวน 1,001.07 ล้านบาท
หนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 11,309.07 ล้านบาท ลดลงสุทธิ 638.38 ล้านบาท โดยรายการ ที่สำคัญเกิดจากการชำระคืนต้นเงินกู้ของสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จำนวน 650.94 ล้านบาท
หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559 จำนวน 5,924,055.53 ล้านบาท แบ่งออกเป็น หนี้ในประเทศ 5,577,202 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.14 และหนี้ต่างประเทศ 346,853.53 ล้านบาท (ประมาณ 10,004.27 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือร้อยละ 5.86 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด และแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาว 4,994,348.02 ล้านบาท หรือร้อยละ 84.31 และหนี้ระยะสั้น 929,707.51 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.69 ของหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหมด