กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--IR PLUS
"SMPC" ประกาศงบ 6 เดือนแรกปีนี้ กำไรโต 32% ขณะที่ยอดขายไตรมาส 2/59 อยู่ที่ 749ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึง 31% เหตุต้นทุนเหล็กลดลงตามราคาตลาดทำให้ต้องปรับราคาขายสินค้าลง แต่กำไรโตขึ้นมาก ด้านบอร์ดใจป้ำประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลเอาใจผู้ถือหุ้น 0.30 บาท/หุ้น "สุรศักดิ์ เอิบสิริสุข" คาดหวังผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรกตามความต้องการใช้ถังแก๊สทั้งในและ ต่างประเทศ ประกอบกับสถานการณ์ที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยราคาเหล็กที่เริ่ม ทรง ตัวทำให้ลูกค้าทยอยสั่ง ซื้อตามปกติ
นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ผู้ประกอบธุรกิจผลิตถังทนความดันแบบต่าง ๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่ง พลังงานรถยนต์ โดยจำหน่ายภายในและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า "SMPC" รวมทั้งรับจ้างผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าต่างๆ เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2559 ว่า บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 1,561 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,236 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 325 ล้านบาท หรือ 26% ด้านกำไรสุทธิอยู่ที่ 284 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70 ล้านบาท หรือ 33%
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2559 มียอดขายรวมอยู่ที่ 749 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 177 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 31% เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีก่อนที่มียอดขาย 572 ล้านบาท เนื่องจากงวดนี้ปริมาณขายเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเนื่องจากค่าเงินยูโร ที่ ผันผวนมากในช่วงต้นปี 2558 ทำให้ลูกค้าบางส่วนชะลอการ สั่งซื้อเพื่อดูสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ลูกค้าเริ่มกลับมาสั่งซื้อตามปกติแล้วตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ประกอบกับราคาเหล็กที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าสั่งซื้อใน ปริมาณเพิ่มขึ้นโดยมีกำไร สุทธิในงวดไตรมาส 2/2559 จำนวน 149 ล้านบาท ลดลง 14 ล้านบาท หรือลดลง 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 163 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรลดลงเนื่องจากภาษีเงินได้และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ เพิ่มขึ้น สุทธิกับยอดขายและอัตราการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น
"ครึ่งปีหลังปีนี้คาดว่าผลประกอบการจะดีกว่าครึ่งปีแรกจากความต้องการใช้ถัง แก๊สทั้งในประเทศและต่าง ประเทศกลับมาฟื้นตัวอีก ครั้งหลังชะลอตัว หลักๆมาจากราคาเหล็กเริ่มทรงตัวทำให้ลูกค้าทยอยสั่งซื้อตามปกติ แต่ค่าเงินบาทที่แข็งค่า ขึ้น เมื่อเทียบกับทั้ง EURO และUSD อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทบ้างในฐานะผู้ส่งออก เพราะยอดขายหลักมาจากการ ส่ง ออก 80-90%" นายสุรศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัทฯอนุมัติจ่ายเงิน ปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท จากผลการดำเนินงานของบริษัทฯสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียน 25 สิงหาคม 2559 และกำหนดวันจ่ายปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2559