กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมสำรวจความเสียหายของสิ่งปลูกสร้างที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว รวมถึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.0 แมกนิจูด บริเวณตอนกลางของประเทศเมียนมา ที่ระดับความลึกจากผิวดิน 91 กิโลเมตร ห่างจาก ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 509 กิโลเมตร ซึ่งประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และผู้ที่อยู่ในอาคารสูงของกรุงเทพมหานคร รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนดังกล่าว โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานให้จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สำรวจความเสียหายของสิ่งปลูกสร้าง โดยเฉพาะอาคารสูง โบราณสถาน เขื่อน และอ่างเก็บน้ำที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย รวมถึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย ทั้งนี้ รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือ แก้ไขปัญหาภัยจากแผ่นดินไหว โดยปรับปรุงแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาแผ่นดินไหวให้เป็นปัจจุบัน สำรวจสภาพความเสี่ยงภัยของพื้นที่ เพื่อวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม พร้อมพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัย โดยประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนติดตามรับฟังข้อมูลข่าวสารสถานการณ์แผ่นดินไหวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ไม่ตื่นตระหนก หรือหลงเชื่อข่าวลือ ในขณะเกิดแผ่นดินไหวให้ยึดการปฏิบัติตามหลัก "หมอบ ป้อง เกาะ" โดยหมอบใต้โต๊ะหรือหลบในจุด ที่มีโครงสร้างแข็งแรง พ้นจากแนวที่สิ่งของหล่นทับ รอให้แผ่นดินไหวสงบก่อนค่อยออกจากอาคาร สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th