กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--Worklink PR
PPS นำกลุ่ม SCS Consortium คว้างานบริหารและควบคุมงานก่อสร้างโครงการ "การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2" มูลค่ารวม 879.98 ล้านบาท รับรู้รายได้ 40% ดัน Backlog พุ่ง 660 ล้านบาท เตรียมเริ่มงานเดือนกันยายนนี้ พร้อมเดินหน้าประมูลเมกะโปรเจคภาครัฐเพื่อรองรับการลงทุนโครงการสาธารณูปโภคของรัฐที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยว่า กลุ่มวิศวกรที่ปรึกษาคุมงานก่อสร้าง SCS Consortium ได้ลงนามในสัญญางานบริหารและควบคุมงานก่อสร้างโครงการการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 กรอบระยะเวลาการทำงาน 39 เดือน กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) มูลค่างานบริหารโครงการรวม 879.98 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2559 โดยมี พณ ท่าน ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นสักขีพยานในการลงนาม
ทั้งนี้บริษัทฯเป็นผู้นำกลุ่มในการเข้ารับงานดังกล่าว โดย SCS Consortium เป็นความร่วมมือระหว่าง 6บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาชั้นนำ ประกอบด้วย 1.) บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) 2.) บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด 3.) บริษัท เอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด 4.) บริษัท ดอร์ช คอนซัลท์ เอเชีย จำกัด 5.) บริษัท เทสโก้ จำกัด 6.) บริษัท เอส.ดี.ซี. จำกัด ซึ่งกลุ่มที่ปรึกษาที่ร่วมมือกันเป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำที่เคยมีประสบการณ์โดยตรงกับงานบริหารและควบคุมงานก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิในเฟสแรก
สำหรับมูลค่ารวมของสัญญาจ้างงานที่ปรึกษาโครงการ 879.98 ล้านบาท บริษัทฯจะรับรู้รายได้ในสัดส่วน40% จากมูลค่ารวม คิดเป็นมูลค่า 351.99 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่างานในมือเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 660 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 100% โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ ปลายปี 2559 – พ.ศ.2562
"ทีมงานของบริษัทและ SCS Consortium ได้เตรียมความพร้อมเพื่อเริ่มงานโครงการการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ในเดือนกันยายนนี้ อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเดินหน้าเสนองานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้าง ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมยื่นข้อเสนองานเมกะโปรเจคภาครัฐอีกหลายโครงการ ตามนโยบายการลงทุนสาธารณูปโภคพื้นฐานของรัฐอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป ขณะที่งานภาคเอกชนเริ่มขยายการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อีกทั้งงานโรงงานอุตสาหกรรม และงานในกลุ่มอุตสาหกรรม IT โดยเฉพาะงานData Center ที่มีแนวโน้มขยายตัวเช่นเดียวกัน"นายธัช กล่าว