ฮิวเลตต์-แพคการ์ด และคอมแพคตกลงควบกิจการ กลายเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีของโลก ด้วยรายได้ 87 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ข่าวเทคโนโลยี Thursday September 6, 2001 16:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
องค์กรธุรกิจและผู้ใช้จะได้รับบริการและผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์ครบชุดมากที่สุด และบริการต่างๆ บนเทคโนโลยีระบบและสถาปัตยกรรมแบบเปิด
โดยจะเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของโลกในผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ พีซีและอุปกรณ์มือถือ ระบบภาพและการพิมพ์ และยังเป็นผู้นำทางด้านบริการไอที ระบบจัดเก็บข้อมูล และซอฟต์แวร์การจัดการ
บริษัทคาดว่าขบวนการควบรวมจะประหยัดค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปีและคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปีแรก
พาโล อัลโต้ - แคลิฟอร์เนีย และ ฮูสตัน--บริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด จำกัด และคอมแพค คอมพิวเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศเซ็นสัญญารวมบริษัท กลายเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ด้วยรายได้ถึง 87 พันล้านเหรียญสหรัฐ บริษัท เอชพีใหม่นี้จะนำเสนอผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่ครบชุด พร้อมการบริการให้กับองค์กรธุรกิจและผู้บริโภค และด้วยคำมั่นว่าจะให้บริการด้านระบบและสถาปัตยกรรมเปิด (open systems and architectures) บริษัทควบรวมนี้จะมีรายได้เป็นอันดับหนึ่งของโลกในด้านผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ Access Devices (พีซีและอุปกรณ์มือถือ) และระบบภาพและการพิมพ์ อีกทั้งยังเป็นผู้นำด้วยรายได้จาก การให้บริการด้านไอที การจัดเก็บ และซอฟต์แวร์การจัดการการควบรวมกิจการครั้งนี้ประมาณการว่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี และจะช่วยกระตุ้นให้บริษัทปรับปรุงโครงสร้างค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากรายงานผลประกอบการ 4 ไตรมาสของทั้งสองบริษัท เอชพีใหม่นี้คาดว่าจะมีสินทรัพย์ประมาณ 56.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้ต่อปีประมาณ 87.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำไรจากการประกอบการรายปี (annual operating earnings) 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้บริษัทยังมีพนักงานรวมทั้งสิ้นมากกว่า 145,000 คนในกว่า 160 ประเทศ
ทั้งนี้ คาร์ลี่ ฟิออร์ริน่า ประธานบริษัทและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของเอชพี จะขึ้นเป็นประธานบริษัทและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของเอชพีใหม่นี้ โดยมีไมเคิล คาเพลลาส ประธานบริษัทและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผู้บริหารของคอมแพค เป็นประธาน (president) ทั้งนี้นายไมเคิล และคณะกรรมการผู้อำนวยการของคอมแพคอีก 4 ท่าน จะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการของเอชพีด้วย
"การตัดสินใจควบรวมกิจการครั้งนี้เป็นการตอกย้ำนโยบายและจุดยืนของเอชพีในการที่จะนำเสนอมูลค่าที่เพิ่มขึ้นแก่ลูกค้าและคู่ค้าของเรา" ฟิออร์ริน่า กล่าว "นอกเหนือจากผลได้รับจากกลยุทธ์การรวมบริษัททั้งสองซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้แก่กันและกันแล้ว เรายังสามารถเพิ่มค่าของการลงทุนของผู้ถือหุ้นให้สูงขึ้นจากการปรับโครงสร้างต้นทุน และการเข้าถึงโอกาสการเติบโตใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นด้วย ในช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับวงการอุตสาหกรรมไอทีนี้ การควบรวมกิจการยังกระตุ้นให้บริษัทก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำพร้อมกับลูกค้าและคู่ค้าของเรา เราจะร่วมสร้างอุตสาหกรรมร่วมกันในปีต่อๆ ไปที่กำลังจะตามมา
นายคาเพลลาส กล่าวว่า "เรากำลังสร้างความเป็นผู้นำรูปแบบใหม่ในวงการ ซึ่งพบได้เกิดจากการประสบความสำเร็จของลูกค้า วิศวกรรมชั้นเยี่ยมระดับโลก และสายผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด ในทางตรงกันข้ามกับคู่แข่ง เราสัญญาที่จะนำอุตสาหกรรมให้เปิดกว้างขึ้น สถาปัตยกรรมรวมด้านการตลาด และ ความสามารถในการจัดการภายในที่จะช่วยลดความซับซ้อนและต้นทุนให้กับลูกค้า จากการควบรวมกิจการครั้งนี้ เราจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงการแข่งขันในในอุตสาหกรรมด้วย"
ภายใต้ข้อตกลงครั้งนี้ ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการผู้อำนวยการของทั้งสอง โดยผู้ถือหุ้นของคอมแพคจะได้รับมูลค่า 0.6325 ของหุ้นของเอชพีที่ออกใหม่ต่อมูลค่าหุ้น 1 หุ้นของคอมแพค ทำให้การควบรวมกิจการครั้งนี้มีมูลค่าถึง 25 พันล้านเหรียญ และผู้ถือหุ้นของเอชพีจะถือหุ้นในบริษัทใหม่นี้ 64% และผู้ถือหุ้นคอมแพคมีหุ้น 36% ในการซื้อขายครั้งนี้คาดว่าผู้ถือหุ้นจะไม่ต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากนับว่าเป็นการซื้อหุ้น
จากการลดต้นทุนที่คาดว่าจะได้รับ การซื้อขายนี้จะเพิ่มกำไรต่อหุ้น (earnings per share) ให้กับเอชพีสำหรับช่วงหนึ่งปีแรกของการรวมการปฏิบัติการเข้าด้วยกัน ผลประกอบการปี 2003 ซึ่งเป็นการครบปีแรกของการปฏิบัติการร่วมกันคาดว่า ค่าใช้จ่ายที่จะลดลงได้จากการควบรวมจะ มีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าเพิ่มของการควบรวมกิจการครั้งนี้ จะมีมูลค่าประมาณ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2004 และผลจากการรวมกิจการจะเกิดจากการจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ประสิทธิภาพในการจัดการ การดูแลรักษา การผลิต และการตลาด และการประหยัดจากการปรับปรุงการจำหน่ายเครื่องพีซีและเซิร์ฟเวอร์โดยตรง ภายใต้กฎข้อบังคับ และข้อตกลงของผู้ถือหุ้น และเงื่อนไขในการควบรวมครั้งนี้ คาดว่าการควบรวมจะเสร็จสิ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2002 และสำหรับข้อเกี่ยวเนื่องจากการซื้อขายนี้ ทั้งสองบริษัทตกลงที่จะรับแผนสิทธิของผู้ถือหุ้น และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำเสนอต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ภายในวันนี้
สำนักงานใหญ่ของการควบรวมกิจการนี้จะอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในพาโล อัลโต้ และที่ฮูสตัน ซึ่งนับเป็นศูนย์ยุทธศาสตร์สำหรับความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์
โครงสร้างของบริษัทฯ ใหม่นี้จะประกอบไปด้วยการบริหารงาน 4 ฝ่ายที่สร้างอยู่บนพื้นฐานของตลาดและโครงสร้างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชัดเจนต่อเป้าหมายกลุ่มลูกค้าและคู่แข่ง การคาดการณ์สภาวะการเป็นผู้นำและประมาณการรายได้ (คำนวณด้วยการรวมรายงานของผลประกอบการในสี่ไตรมาสที่ผ่านมาของทั้งสองบริษัทฯ) มีดังนี้:
- รายได้ประมาณ 20 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จะมาจากฝ่ายระบบภาพและการพิมพ์ของเอชพี โดยมร. โยเมช โจชิ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธาน ฝ่ายภาพพิมพ์และระบบพิมพ์ของเอชพีจะเป็นผู้ดูแล
- รายได้ประมาณ 29 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จะมาจากฝ่ายอุปกรณ์ Access Devices โดยมร. ดูเอน ซิทเนอร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธาน ฝ่าย Computing Systems ของเอชพี จะเป็นผู้ดูแล
- รายได้ประมาณ 23 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จะมาจากฝ่ายโครงสร้างไอทีพื้นฐาน เซิร์ฟเวอร์ ระบบจัดเก็บข้อมูล และซอฟต์แวร์ โดยมร. ปีเตอร์ แบล็กมอร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยประธาน ฝ่ายบริการและการขายของคอมแพค เป็นผู้ดูแล
- รายได้ประมาณ 15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากฝ่ายธุรกิจบริการ โดยมีพนักงานประมาณ 65,000 คนในส่วนของงานด้านที่ปรึกษา สนับสนุนและการจ้างงานภายนอก โดยมิสแอน ลิเวอร์มอร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายการให้บริการของเอชพี จะเป็นผู้ดูแล
หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินผู้ดูแลการควบรวมครั้งนี้จะเป็น นายโรเบิร์ต เวย์แมน ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายการเงินของเอชพี นอกจากนั้นยังประกอบด้วยนายเว็บบ์ แม็คคินนี่ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารฝ่ายลูกค้าธุรกิจของเอชพี และนายเจ็ฟฟ์ คลาค หัวหน้าพนักงานฝ่ายการเงินของคอมแพค
นางฟิออร์ริน่าสรุปว่า "เห็นได้ชัดว่า การควบรวมกิจการในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์อย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่เราเข้าใจถึงความท้าทายในการดำเนินการตามแผนอย่างความรวดเร็ว ความจริงที่ช่วยเราก็คือทั้งสองบริษัทฯ มีโครงสร้างภายในองค์กรและรูปแบบทีมขายที่คล้ายคลึงกัน และยังมีทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถสูง เราได้มีการวางแผนการควบรวมกิจการกันอย่างรอบคอบ และมีภาพที่ชัดเจนในการก้าวไปสู่ความสำเร็จ เราสัญญาว่าจะนำบริษัทฯ ให้บรรลุเป้าหมายในการทำงานที่เรากำหนดไว้ในเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและความต่อเนื่องในตลาด"
ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
บริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด เป็นผู้นำของโลกในการจัดจำหน่ายโซลูชั่นและให้บริการทางด้านระบบคอมพิวเตอร์และระบบการพิมพ์ภาพ (imaging solutions) ให้แก่ลูกค้า บริษัทฯ มุ่งเน้นที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ได้สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงประโยชน์อื่นๆ จากเทคโนโลยีที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้น เอชพีมีรายได้รวมประจำปีงบประมาณ 2543 เป็นเงิน 48.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี ผลิตภัณฑ์ของเอชพี ท่านสามารถเข้าไปยังเวิลด์ไวด์เว็บ ได้ที่ http://www.hp.com
ข้อมูลของคอมแพค
บริษัท คอมแพค คอมพิวเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้นำการให้บริการด้านเทคโนโลยีและโซลูชันสารสนเทศองค์กรระบบโลก คอมแพคเป็นผู้ออกแบบ, พัฒนา, ผลิต และจำหน่ายฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, โซลูชั่น และการบริการ ซึ่งรวมทั้ง โซลูชันชั้นนำสำหรับจัดเก็บข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์ องค์กรธุรกิจ โซลูชั่นสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ที่ปฏิบัติงานต่อเนื่อง (fault-tolerant business-critical solutions) และผลิตภัณฑ์เพื่อการสื่อสาร เดสก์ทอปสำหรับการใช้งานธุรกิจ ผลิตภัณฑ์แบบพกพา และเครื่องพีซีสำหรับการใช้งานตามบ้าน ผลิตภัณฑ์และบริการของคอมแพค มีจำหน่ายโดยตรงเข้าสู่ธุรกิจต่างๆ ในมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลสนับสนุนสำหรับลูกค้าเกี่ยวกับบริษัท, ผลิตภัณฑ์ และการบริการ ได้ที่ http://www.compaq.com หรือ http://www.compaq.co.th/
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอชพี / คอมแพค
สรุปขั้นตอนการควบรวมกิจการโครงสร้าง การควบรวมโดยการแลกหุ้นอัตราการแลกเปลี่ยน มูลค่าหุ้นของเอชพีต่อหุ้นของคอมแพค 0.6325 มูลค่าปัจจุบัน ประมาณ 25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯเจ้าของ เอชพีถือหุ้น 64 เปอร์เซ็นต์ คอมแพคถือหุ้น 36 เปอร์เซ็นต์บัญชี ซื้อกำหนดสิ้นสุดของการควบรวม ครึ่งแรกของปี 2002
ข้อมูลทั่วไป
- สร้างความเป็นผู้นำเทคโนโลยีสารสนเทศในโลกด้วยมูลค่า 87 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยชุดผลิตภัณฑ์และการบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่สมบูรณ์แบบ สำหรับองค์กรธุรกิจและผู้บริโภค
- บริษัทเอชพีใหม่นี้จะเป็นผู้นำหมายเลข 1 ในโลกด้านเซิร์ฟเวอร์ ระบบภาพและการพิมพ์ Access Devices (พีซีและอุปกรณ์ไร้สาย) และเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งในสามของการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบการจัดเก็บข้อมูล และซอฟต์แวร์การบริหาร
- การควบรวมในครั้งนี้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะนำเสนอระบบและสถาปัตยกรรมในระบบเปิดโดยผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย และการจำหน่ายตรง
- บริษัทฯ ที่รวมแล้วนี้ จะสามารถสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างสำคัญผ่านการปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนและการเข้าสู่โอกาสในการเติบโตของธุรกิจใหม่ๆ
- การซื้อขายนี้จะเพิ่มกำไรต่อหุ้น (earning per share) ในช่วงหนึ่งปีแรกของการรวมกิจการเข้าด้วยกัน
- ผลประกอบการปี 2003 ซึ่งเป็นการครบปีแรกของการปฏิบัติการร่วมกันคาดว่า ค่าใช้จ่ายที่จะลดลงได้จากการควบรวมจะ มีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าเพิ่มของการควบรวมกิจการครั้งนี้ จะมีมูลค่าประมาณ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2004
- บริษัทเอชพีใหม่นี้มีพนักงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 145,000 คนในกว่า 160 ประเทศ
ข้อมูลสำคัญ (ในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา) เอชพี คอมแพค มูลค่าประมาณการรวมรายได้รวมทั้งสิ้น (พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) 47.0 40.4 87.4 ทรัพย์สิน (พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) 32.4 23.9 56.4กำไรจากการดำเนินงาน (พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) 2.1 1.9 3.9
คณะผู้บริหาร- คณะกรรมการผู้อำนวยการ คณะผู้บริหาร 5 คนของคอมแพคมาร่วมทีมกับคณะกรรมการบริหารของเอชพี- ประธานและหัวหน้าผู้บริหาร คาร์ลี ฟิออร์รินา- ประธาน ไมเคิล คาเพลลาส- หัวหน้าผู้บริหารการเงิน โรเบิร์ต เวย์แมน- ระบบภาพและการพิมพ์ โยเมช โจชิ- Access Devices ดูแอน ซิทเซอร์- โครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี ปีเตอร์ แบล็คมอร์
สารสนเทศ- บริการ แอน ลิเวอร์มอร์
ข่าวประชาสัมพันธ์โดย :
บริษัทพีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด
เมธาวี เฉลิมธนศักดิ์
โทรศัพท์ : 0-2971-3711 แฟกซ์: 0-2521-9030
อีเมล์ : maythavee@pc-a.inet.co.th
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
เอชพี : คุณหัสญา หาสิตะพันธุ์ โทร. 0-2661-3900 ต่อ 4124 คอมแพค: คุณทองฉาน บุญญภัทโร โทร. 0-2654-0788 ต่อ 3375--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ