กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 4 จังหวัด ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ได้แก่ พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล เตรียมพร้อมรับมือดินถล่ม ดินไหล และน้ำป่าไหลหลาก จากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 25 - 26 สิงหาคม 2559 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณน้ำฝน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และความผิดปกติทางธรรมชาติที่เป็นสัญญาณเตือนก่อนเกิดดินถล่ม เพื่อประสานแจ้งเตือนและอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศ คาดว่าในช่วงวันที่ 25 – 26 สิงหาคม 2559 จะมีฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกสะสม ส่งผลให้ดินชุ่มน้ำและระดับน้ำในลำคลองเพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้เกิดดินถล่ม ดินไหล หรือน้ำป่าไหลหลาก บริเวณพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยเฉพาะชายฝั่งทะเลใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพังงา (อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอตะกั่วป่า อำเภอท้ายเหมือง อำเภอคุระบุรี และอำเภอกะปง) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้) จังหวัดตรัง (อำเภอนาโยง อำเภอย่านตาขาว อำเภอห้วยยอด และอำเภอปะเหลียน) จังหวัดสตูล (อำเภอทุ่งหว้า อำเภอมะนัง อำเภอควนกาหลง และอำเภอควนโดน) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสาน 4 จังหวัด ดังกล่าว รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา และเขต 18 ภูเก็ต เตรียมพร้อมรับมือป้องกันและ แก้ไขปัญหาดินถล่ม ดินไหล หรือน้ำป่าไหลหลากจากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 25 – 26 สิงหาคม 2559 โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย และประสานข้อมูลสภาพอากาศกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณน้ำฝน สังเกตการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ กรณีสังเกตความผิดปกติทางธรรมชาติที่เป็นสัญญาณเตือนก่อนเกิดดินถล่ม ให้ประสานแจ้งเตือนและอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วย เหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย กรณีมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย หรือจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว และให้ดำเนินการตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด แผนปฏิบัติการ และแผนเผชิญเหตุของอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำ ริมน้ำไหลผ่าน บริเวณชายฝั่งทะเล ให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th