กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม
จังหวัดนครพนม พร้อมเป็นเจ้าภาพหลัก จัดมหกรรมวิชาการสุขภาพ เขตสุขภาพที่ 8 ปี 2559 เครือข่ายสุขภาพ 7 จังหวัด อุดรธานี สกลนคร นครพนม หนองคาย เลย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ ร่วมงาน ดีเดย์ 31 สิงหาคม - 2 กันยายน 2559 นี้ที่ศูนย์ประชุมหนองบึก สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม เผยเย็นวันที่ 1 กันยายน 2559 จัดงานแสดงมุทิตาจิตแด่ผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2559 ให้แก่บุคลากรสาธารณสุขในเครือข่ายสุขภาพ เขตสุขภาพที่ 8
นายแพทย์ประภาส วีระพล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2559 เขตสุขภาพที่ 8 ได้บูรณาการดำเนินงานตามกลยุทธ์ 59 (ห้าเก้า = เก้าเรื่อง) ควบคู่ไปพร้อมกับการพัฒนาระบบบริการ (Service Plan) ใน 13 สาขา โดยกำหนดให้แต่ละจังหวัดเป็นเจ้าภาพหลักในการพัฒนางานตามกลยุทธ์ที่ได้รับมอบหมาย จากการประเมินผลการดำเนินงานของจังหวัดเจ้าภาพลักและผู้นิเทศ และผลการประเมินการดำเนินงานตามแผนการตรวจราชการและนิเทศงานกรณีปกติประจำปีงบประมาณ 2559 พบว่ามีการดำเนินการบรรลุเป้าหมายตามตัวชี้วัดในหลายเรื่อง และมีบางเรื่องที่จะต้องเร่งรัดพัฒนาต่อไป
"เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคลากรและหน่วยงานสาธารณสุข การจัดมหกรรมวิชาการเป็นช่องทางที่สำคัญที่จะช่วยให้บุคลากรสาธารณสุขทุกสาขาวิชาชีพ ได้มีโอกาสนำองค์ความรู้จากการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และจากการดำเนินงานตามกลยุทธ์ของเขต มาเผยแพร่สู่เวทีเขตสุขภาพที่ 8 รวมทั้งให้บุคลากรสาธารณสุขในเขต ได้มีโอกาสพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นและประสบการณ์ เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ อันจะนำไปสู่การพัฒนางานและการสร้างเครือข่ายทางวิชาการ เขตสุขภาพที่ 8 เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการมหกรรมวิชาการสุขภาพ เขตสุขภาพที่ 8 ประจำปีงบประมาณ 2559 ขึ้น โดยในปี 2559 นี้ จังหวัดนครพนม เป็นเจ้าภาพหลักจัดงานในชื่อ มหกรรมวิชาการเขตสุขภาพที่ 8 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 2 กันยายน 2559 ณ ศูนย์ประชุมหนองบึก สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม จำกัด จังหวัดนครพนม โดยในช่วงเย็นวันที่ 1 กันยายน 2559 จะจัดให้มีงานแสดงมุทิตาจิตแด่ผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2559 ให้แก่บุคลากรสาธารณสุขในเครือข่ายสุขภาพ เขตสุขภาพที่ 8 ประกอบด้วย จังหวัดอุดรธานี สกลนคร นครพนม หนองคาย เลย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ" นายแพทย์ประภาส วีระพล กล่าว
สำหรับกิจกรรมงานมหกรรมวิชาการสุขภาพ เขตสุขภาพที่ 8 จะเริ่มด้วยการจัดประชุมคณะทำงานและสรุปผลการดำเนินงานตามกลยุทธ์ 59 เขตสุขภาพที่ 8 และการจัดแสดงนิทรรศการผลงานเด่น ในวันที่ 31 สิงหาคม 2559 และจะมีพิธีเปิดในวันที่ 1 กันยายน 2559 เวลา 09.30 น.ต่อด้วยการบรรยายพิเศษ เรื่อง "ทิศทางนโยบายเขตสุขภาพที่ 8 ปี 2560" และพิธีมอบรางวัลดีเด่นประเภทต่าง ๆ แก่บุคลากรและหน่วยงาน โดยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 ปิดภาคเช้าด้วยการบรรยายพิเศษ เรื่อง "แนวทางการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสซิกา เขตสุขภาพที่ 8" โดย ดร.พญ.ฉันทนา ผดุงทศ ผู้อำนวยการ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 8
ในภาคบ่ายจะเป็นการนำเสนอผลงานวิชาการระดับดีเด่น เขตสุขภาพที่ 8 ต่อด้วยการประชุมกลุ่มระดมความคิดเห็นหาแนวทางพัฒนากลยุทธ์การดำเนินงาน และในส่วนของวันที่ 2 กันยายน 2559 จัดให้มีการบรรยายเรื่อง "งานสัมฤทธิ์ ชีวิตรื่นรมย์" โดยพระมหาศรีพยัคฆ์ สิริวิญญู และพันตรีสุธี สุขสากล อนุศาสนาจารย์ กรมการทหารสื่อสาร ปิดท้ายด้วยการประชุมเชิงปฏิบัติการบูรณาการแผนพัฒนาสาธารณสุข เรื่อง "แนวทางการดำเนินงานของเขตสุขภาพที่ 8 ปี 2560"
อนึ่ง กระทรวงสาธารณสุข กำหนดนโยบายกระจายอำนาจการบริหารจัดการลงสู่พื้นที่และลดความแตกต่างในการจัดสรรทรัพยากร โดยแบ่งกลุ่มจังหวัดเป็นเขตสุขภาพ 12 เขต เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ แต่ละเขตครอบคลุม 4-8 จังหวัด รับผิดชอบประชากร 3-6 ล้านคน โดยมีเป้าหมาย 1.เพิ่มการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ 2.สร้างความเท่าเทียมในการจัดสรรทรัพยากรสุขภาพ 3.เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการ และ 4.สร้างการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ภายใต้การบริหารจัดการโดยคณะกรรมการเขตสุขภาพ (Regional health board) นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการเขตบริการสุขภาพ (Regional Provider health board) ที่จะบริหารจัดการหน่วยบริการทั้งหมดที่อยู่ภายใต้เขตสุขภาพให้เป็นเอกภาพเดียวกัน โดยยึดตามแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ระดับเขต ในการดำเนินงานร่วมกันเป็นเครือข่ายสุขภาพ เขตสุขภาพที่ 8 ประกอบด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี สกลนคร นครพนม หนองคาย เลย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ โดยได้กำหนดเป็นนโยบาย R8WAY เพื่อเป็นกรอบการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
ในปีงบประมาณ 2559 ได้กำหนดกลยุทธ์ 59 (ห้าเก้า = ห้าสนับสนุน เก้าเรื่อง) เพื่อเป็นกรอบแนวทางการปฏิบัติงาน ซึ่งกำหนดเป็น 3 กลยุทธ์ คือ 1) กลยุทธ์ Excellence เพื่อเป็นความเป็นเลิศ ประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่ ไข้เลือดออก โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) โรคหัวใจขาดเลือด (STEMI) และอุบัติเหตุ 2) กลยุทธ์ Strength สร้างจุดแข็ง ประกอบด้วย 5 เรื่อง ได้แก่ อาหารปลอดภัย โรคไม่ติดต่อ (ความดันโลหิตสูง/เบาหวาน/ไต) มะเร็งท่อน้ำดี สาขาตาและ 5 สาขาหลัก และ 3) กลยุทธ์ Support สนับสนุนเพื่อความยั่งยืน ประกอบด้วย 5 เรื่อง ได้แก่ ระบบข้อมูลอำเภอ-ตำบลจัดการสุจภาพ (บูรณาการติดดาว) คุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ระบบสาธารณสุขฉุกเฉิน (EOC) และการเงินการคลัง