กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--ซีพีเอฟ
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณหน่วยงานที่ร่วมตรวจประเมินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ จากสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO ในงานประชุมวิชาการนานาชาติและมหกรรมนิทรรศการด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการพัฒนาเศรษฐกิจฐานชีวภาพอย่างยั่งยืน
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีนโยบายและทิศทาง กลยุทธ์ CSR สู่ความยั่งยืน ภายใต้ 3 เสาหลัก "อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่" ดังนั้นการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ บริษัทได้ให้ความสำคัญตั้งแต่เรื่องสถานที่ตั้งสถานประกอบการที่ต้องไม่อยู่ในแหล่งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามระเบียบข้อบังคับ มาตรฐาน และกฎกระทรวงที่กำหนดไว้ รวมถึงมีการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงของระบบนิเวศและฐานทรัพยากรของประเทศอันเป็นต้นทุนในการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน
" ภายใต้เสาหลัก "ดิน น้ำ ป่าคงอยู่" ด้วยเป้าหมายบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และร่วมปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเริ่มนำร่องในการดำเนินงาน ร่วมกับ BEDO ดำเนินการตรวจประเมินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (Business & Biodiversity Check) ซึ่งเป็นแนวคิดที่พัฒนาโดย Global Nature Fund (GNF) และองค์กรต่างๆ ในสหภาพยุโรป เพื่อใช้เป็นแนวทางขั้นต้นในการตรวจหาผลกระทบของบริษัทที่มีต่อความหลากหลายทางชีวภาพ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on Biological Diversity; CBD) ของสหประชาชาติตามแผนกลยุทธ์ความหลากหลายทางชีวภาพ 2011-2020 (Strategic Plan for Biodiversity 2011-2020 and the Aichi Targets) โดยข้อมูลที่ได้รับจะสามารถนำมาบูรณาการร่วมกับการประเมินระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังใช้เป็นแนวทางพัฒนาการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน" นายวุฒิชัย กล่าวเสริม
นายชาตรี รชตสมบูรณ์รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ จังหวัด สระบุรี ได้เข้าร่วมการตรวจประเมินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ โดยทาง BEDO ได้ส่งทีมผู้ตรวจประเมินเข้าไปวิเคราะห์การดำเนินกิจกรรมของโรงงานฯ ภายใต้ขอบเขต 9 ด้าน เพื่อการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางชีวภาพอย่างยั่งยืน ได้แก่ กลยุทธ์และการบริหารจัดการองค์กร, ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง, ที่ดิน สิ่งก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์, การจัดซื้อจัดจ้าง: วัตถุดิบ พลังงาน น้ำ, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการผลิต, ระบบโลจิสติกส์และการขนส่ง ผลิตภัณฑ์และการบริการ, การขาย-การตลาด และทรัพยากรมนุษย์
"จากการตรวจประเมินฯ พบว่า โรงงานได้ให้ความเชื่อมั่นและแสดงเจตจำนงในเรื่องการร่วมบรรเทาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยโรงงานได้มีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อลดการใช้พลังงานและร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ช่วยลดการซื้อไฟฟ้าจากภายนอก ระบบ Biogas ทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติ" นายชาตรี กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ในอนาคตโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ จังหวัด สระบุรี จะทำการศึกษาถึงผลกระทบจากกิจกรรมของ โรงงาน โดยคำนึงถึงการดำเนินงานเพื่อร่วมบรรเทาผลกระทบตลอดห่วงโซ่คุณค่า 6 ด้าน คือ พลังงาน การปลดปล่อยมลพิษ การก่อให้เกิดความเป็นพิษ อุบัติเหตุและความเจ็บป่วยจากการทำงาน ทรัพยากร การใช้ที่ดิน ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง.