กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ สานต่อนโยบายบีโอไอ เร่งสปีดกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน จับมือ 3 นิคมอุตสาหกรรมใหญ่ของไทย เพื่อส่งเสริมนักธุรกิจจีนให้เข้ามาลงทุนในไทยได้สะดวกยิ่งขึ้น เปิดตัวโครงการสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินประกอบธุรกิจในนิคมอุตสาห กรรมสำหรับลูกค้าจีน ในรูปแบบBridging Loan ระยะ 1 ปี อำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น มั่นใจนักลงทุนจีนให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการไม่ตำกว่า 50 ราย ด้วยวงเงินสินเชื่อรวมกว่า 5,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี
นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประเทศที่มีบทบาทอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจโลก ทั้งยังมีความสำคัญในด้านการลงทุนด้วยนโยบายของรัฐบาลจีนที่ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจออกไปลงทุนต่างประเทศมากยิ่งขึ้น จากข้อมูลใน 5 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนจากจีนมีปริมาณการลงทุนโดยตรง (เอฟดีไอ) ในประเทศไทยที่มีอัตราเติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 1 และมีแนวโน้มที่จะรักษาปริมาณการลงทุนระดับสูงเช่นนี้ อย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยศักยภาพความเหมาะสมของที่ตั้ง มาตรฐานฝีมือของบุคคลากร ความพร้อมด้านสาธารณูปโภคของประเทศไทย และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่บีโอไอให้กับนักลงทุน ซึ่งเมื่อนักลงทุนกลุ่มนี้สามารถดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้สำเร็จ เม็ดเงินลงทุนต่างๆ จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ในระยะยาว เพิ่มปริมาณการค้าขายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเงินตราต่างประเทศที่จะได้รับจากการที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก ช่วยให้เกิดการจ้างงานมีอีกจำนวนมาก
ธนาคารไทยพาณิชย์ตระหนักถึงศักยภาพการเข้ามาลงทุนจากจีนที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงขยายเพิ่มสายงานธุรกิจและทีมทำงานเพื่อให้บริการลูกค้าธุรกิจจากจีนโดยเฉพาะ ด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรมและพร้อมจะให้คำแนะนำและบริการลูกค้าในการลงทุนในประเทศไทย เราได้ทำงานเพื่อตอบโจทย์ความต้องการแก่นักธุรกิจจีนให้มีความสะดวก รวดเร็ว สร้างความพึงพอใจอย่างสูง ในการเข้ามาลงทุนมากยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จากที่ผ่านมาก็มีลูกค้าในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ที่ประสบความสำเร็จแล้ว อาทิ บริษัท ทริน่า โซลาร์ จำกัด ผู้ผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์อันดับ 1 ของโลก และ บริษัท ชิงเต่า เซนจูรี่ ไทร์ จำกัด ผู้ผลิตยางรถยนต์เทคโนโลยีชั้นสูง รายใหญ่จากประเทศจีน เป็นต้น
"เพื่อสานต่อการสนับสนุนธุรกิจจีนอย่างต่อเนื่อง และเป็นการทำงานสอดคล้องต่อเนื่อง ตั้งแต่ในประเทศจีนที่ส่งเสริมให้นักลงทุนออกไปลงทุนต่างประเทศตาม กรอบ One belt One road , ต่อด้วย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย หรือ BOI ได้ให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ จูงใจแก่นักลงทุนแล้ว ธนาคารฯ ได้จัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินประกอบธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ในเครือ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด(มหาชน) และ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สำหรับลูกค้าจีนที่จะเข้ามาลงทุน ในรูปแบบการให้สินเชื่อBridging Loan วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 200 ล้าน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจให้กับนักลงทุนครอบคลุมอย่างครบวงจร พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อสนับสนุนธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการอย่างแท้จริง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี (Customer experience) ให้กับนักธุรกิจจีนในประเทศ ซึ่งการเข้าร่วมโครงการจะช่วยให้นักลงทุนจีนสามารถ ทำการลงทุนต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้นช่วยให้สามารถบริหารจัดการเงินลงทุนได้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นการริเริ่มครั้งสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้ตรงตามความต้องการอย่างครบถ้วน คาดว่าจะมีลูกค้าจีนเข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 50 ราย ด้วยวงเงินสินเชื่อรวมกว่า 5,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี และหากมีการตอบรับที่ดีก็อาจจะขยายโครงการสู่นักลงทุนจากประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต"
โครงการสินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินประกอบธุรกิจ เป็นสินเชื่อเพื่ออำนวยความสะดวกให้ธุรกิจจีนสามารถเดินหน้าซื้อที่ดินเพื่อ ดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว วงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี โดยธุรกิจจีนที่สนใจต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย ได้รับการอนุมัติการลงทุนจากบีโอไอแล้ว และต้องมีสัญญาซื้อขายที่ดินกับนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 3 แห่ง โดยธุรกิจที่สนใจสามารถติดต่อหน่วยงานธุรกิจจีน ธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-795-1490