กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--เอ.พี. ฮอนด้า
เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดตัวโครงการรณรงค์ให้คนไทยใส่หมวกกันน็อกภายใต้ชื่อโครงการ "สังคมหัวแข็ง" ด้วยคอนเซปต์ ปฏิว้ติความคิดใหม่ คนไทยใส่หมวก วางเป้าหมายให้เกิดการปฏิบัติจริง ด้วยความต่อเนื่องและจริงจังผ่านการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรอิสระต่างๆ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนไทยหันมาใส่หมวกกันน็อกจนเป็นนิสัยเมื่อใช้รถจักรยานยนต์เพื่อปกป้องตนเองจากอุบัติเหตุ
นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า "ปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่คนไทยกลับไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการปกป้องตนเองจากความเสี่ยงดังกล่าว ดั่งเช่นข้อมูลล่าสุดในปีที่ผ่านมาจากไทยโรดส์จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในเมืองไทยที่ใส่หมวกกันน็อกเพียงแค่ 43% เท่านั้น โดยคนไทยมักจะมีข้ออ้างที่จะไม่ใส่หมวกกันน็อกมากมายจนกลายเป็นความเคยชินตลอดมา"
"ในฐานะผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย เอ.พี. ฮอนด้า มีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนเมืองไทยสู่เส้นทางของความปลอดภัยอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้โครงการฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย โดยหนึ่งในการดำเนินงานหลักคือการรณรงค์ให้เกิดการปฎิบัติจริง ในปีนี้เราจึงได้สร้างสรรค์โครงการใหม่ที่มีชื่อว่าสังคมหัวแข็ง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปลูกจิตสำนึกและเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนไทยใส่หมวกกันน็อกจนเป็นนิสัย ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งมุ่งประสานความร่วมมือกับภาคีต่างๆสร้างความเป็นต้นแบบจากแต่ละเครือข่าย ต่อยอดขยายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมต่อสังคมไทยในวงกว้างต่อไป"
"โครงการนี้จะเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวัน โดยมีเพลงสังคมหัวแข็งซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากจังหวะที่จริงจังของเพลงปลุกใจ มาใส่ความสนุกสนานร่วมสมัยในสไตล์ฮิพฮอพ โดยในเนื้อเพลงจะกล่าวถึง 3 กฏเหล็กของการใส่หมวกกันน็อกที่จะนำมาซึ่งความปลอดภัย ได้แก่ขี่ซ้อนเราใส่ ใกล้ไกลเราใส่ ใครไม่ใส่เราไม่ยอม บอกเล่าผ่านสื่อต่างๆไม่ว่าจะเป็น มิวสิควีดีโอ ออนไลน์คลิปภาพยนตร์โฆษณา สื่อกลางแจ้ง และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ โดยมีจอห์น วิญญู, แป้งโกะ จินตนัดดา และกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ซึ่งต่างก็เป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่มาร่วมรณรงค์ในฐานะผู้นำสังคมหัวแข็งในการสร้างจิตสำนึกและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้รถจักรยานยนต์"
"ในขณะเดียวกัน เอ.พี. ฮอนด้า ก็จะเป็นต้นแบบที่ทำให้เกิดการปฏิบัติจริง โดยในช่วงแรกของโครงการ เราจะร่วมกับกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทยรวม 12 บริษัท และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้ากว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ สร้างสรรค์สังคมหัวแข็งต้นแบบ โดยมีพนักงานรวมกว่า 35,000 คน มาเป็นตัวอย่างที่ดีของคนไทยที่ใส่หมวกกันน็อกทุกครั้งเมื่อใช้รถจักรยานยนต์ ก่อนที่จะขยายแนวคิดนี้ไปยังสถานศึกษา สถานที่ราชการ และชุมชนต่างๆทุกจังหวัด ก่อเกิดเป็นสถานศึกษาและชุมชนหัวแข็งต้นแบบ แล้วยกระดับไปสู่การรณรงค์ในระดับประเทศ โดยมีการกำหนดมาตรฐานในการดำเนินงานของแต่ละแห่งอย่างเป็นรูปธรรม"
"และในอนาคตอันใกล้นี้ ทางเอ.พี.ฮอนด้า จะร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจหรือ MOU กับหน่วยงานต่างๆต่อไป โดยจะมีการร่วมตกลงถึงรายละเอียดในการประสานความร่วมมือ การกำหนดกฏเกณฑ์ต่างๆ และวิธีปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้"
สำหรับโครงการ "สังคมหัวแข็ง" ภายใต้คอนเซปต์ ปฏิวัติความคิดใหม่ คนไทยใส่หมวก ถือเป็นการประสานความร่วมมือครั้งใหญ่ระหว่าง บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรอิสระ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนไทยหันมาใส่หมวกกันน็อกจนเป็นนิสัยเมื่อใช้รถจักรยานยนต์ เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนสังคมไทยให้ดีขึ้น ด้วยการใส่หมวกกันน็อกให้เป็นนิสัย แล้วติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการได้ที่www.aphonda.co.th