กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
บริษัทไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ประกาศเปิดตัวซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล IDS 9.3 (IBM Informix Dynamic Server 9.3) ใหม่ ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไอบีเอ็มในการพัฒนาและรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ
คุณสมบัติใหม่ ๆ ของ IDS 9.3 ได้แก่ ความสามารถในการวิเคราะห์ขั้นสูง (Advanced spatial analysis capabilities), ชุดเครื่องมือที่ใช้งานง่าย, และ การเพิ่มประสิทธิภาพการสำรองข้อมูลของบริษัท (Enhanced enterprise replication) คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ IDS สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของฐานข้อมูล และลดค่าใช้จ่ายในการบริหารได้
นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังได้เปิดตัว DB2 Relational Connect ที่รองรับการใช้งาน IDS 9.3 สำหรับผู้ใช้ IDS ที่ตัดสินใจเลือกใช้ DB2 ในการพัฒนาแอพพลิชั่นในอนาคต ปัจจุบันนี้ลูกค้าที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นซึ่งใช้งานบน DB2 สามารถเข้าใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลของ IDS ได้แล้ว
นายธำรงค์ ฐิติยานนท์ง ผู้จัดการแผนกการตลาด โซลูชั่นการจัดการข้อมูลของไอบีเอ็ม กล่าวว่า "การเปิดตัวในวันนี้เป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของไอบีเอ็มที่จะพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรักษาผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล IDS ต่อไปในอนาคต พร้อมกันนี้จะอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ IDS ให้ได้ใช้ประโยชน์จาก DB2 ในการพัฒนาแอพพลิชั่นในอนาคตได้มากยิ่งขึ้นโดยการใช้ผลิตภัณฑ์เช่น DB2 Relational Connect"
"ไอบีเอ็มมีเหตุผลทางด้านธุรกิจที่ชัดเจนหลายประการที่จะรักษาฐานลูกค้า Informix โดยอาศัยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Informix อย่างต่อเนื่อง" นายคาร์ล โอลอฟสันล ผู้อำนวยการโครงการ หน่วยวิจัยการตลาดด้านซอฟต์แวร์การจัดการข้อมูล ประจำ IDC กล่าวด "การเปิดตัว IDS ในครั้งนี้ เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของไอบีเอ็มที่จะดำเนินการดังกล่าว"
IDS 9.3 มีคุณสมบัติใหม่ดังนี้:
Spatial DataBlade 8.11 เพื่อการวิเคราะห์ตำแหน่งพื้นที่ เครื่องมือเชิงวิเคราะห์ตำแหน่งพื้นที่ขั้นสูง เป็นฟังก์ชันที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย ช่วยให้ IDS สามารถระบุตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ได้
DataBlade นี้จะทำงานโดยวิเคราะห์จาก "ตำแหน่งที่ใกล้ที่สุด" (Nearest neighbor) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาจุดที่ใกล้เคียงกับตำแหน่งใดๆ มากที่สุด เช่น การหารถแท็กซี่ที่อยู่ใกล้เคียงที่สุดให้แก่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ
Exclusive tools bundled for IDS 9.3 ชุดเครื่องมือเฉพาะ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานชุดเครื่องมือต่างๆ เช่น ServerStudio JE, Dynamic Logs อีกทั้ง IBM/Informix System Administrator จะช่วยลดเวลาดาวน์ไทม์และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโดยรวม การใช้งานชุดเครื่องมือร่วมกันนี้คือสิ่งที่ลูกค้าในธุรกิจขนาดกลางทั่วโลกต้องการ เนื่องจากจะเป็นการช่วยลดจำนวนผู้บริหารฐานข้อมูลที่ดูแลให้ระบบทำงานตลอด 24X7
การสำรองข้อมูลบริษัทขั้นสูง (Advanced Enterprise Replication): คุณสมบัตินี้จะทำให้การเคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างไซต์และเครื่องจำนวนมากเป็นไปอย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่น สามารถขยายและเคลื่อนย้ายข้อมูลจากสำนักงานในระดับท้องถิ่นหรือภูมิภาค สำนักงานระหว่างประเทศ หรือสำนักงานใหญ่ ในองค์กรระดับนานาชาติได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย
DB2 Relational Connect: ผู้ใช้ IDS จะสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ บน DB2 ได้อย่างง่ายดาย ไปพร้อมกับการรองรับสภาวะการทำงานเดิมของซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลอินฟอร์มิกซ์ด้วย DB2 Relational Connect แอพพลิเคชั่นบน DB2 สามารถเข้าใช้งานฟังก์ชันบนฐานข้อมูล IDS 9.3 ราวกับอยู่บน DB2
"ด้วย IDS ที่เปิดตัวไปล่าสุดนี้เองที่ทำให้บริษัทของเรารู้สึกถึงประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น "นายเดวิด ลิงค์ ผู้บริหารฐานข้อมูลแห่งเวสต์ อินเทอร์แอคทีฟ (West Interactive) กล่าว "ตอนนี้เราสามารถทำธุรกรรมได้เร็วกว่าเดิมถึงสองเท่า และลูกค้าของเราได้ประโยชน์โดยตรง"
การควบกิจการอินฟอร์มิกซ์
วันที่ 25 เมษายน 2001 ไอบีเอ็มและอินฟอร์มิกซ์ คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศข้อตกลงอย่างเป็นทางการว่า ไอบีเอ็มได้ซื้อกิจการส่วนธุรกิจฐานข้อมูลของ ซอฟต์แวร์อินฟอร์มิกซ์ ด้วยเงินสดมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นการซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในรอบระยะเวลา 6 ปีของไอบีเอ็ม การซื้อกิจการครั้งนี้รวมถึงการโอนเทคโนโลยีและพนักงานจากอินฟอร์มิกซ์มายังไอบีเอ็ม ภายในเวลา 10 สัปดาห์นับจากคำประกาศดังกล่าวนี้ ไอบีเอ็มได้สิ้นสุดการควบกิจการของอินฟอร์มิกซ์อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2001 โดยยกเว้นกิจการในประเทศ สิงคโปร์ มาเลเชีย ฮ่องกง ไต้หวัน และอินเดียซึ่งได้สรุปซื้อกิจการของอินฟอร์มิกซ์เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2001 ผลจากการควบกิจการในครั้งนี้ไอบีเอ็มได้ถ่ายโอนพนักงาน ทั้ง นักพัฒนา เจ้าหน้าที่ให้บริการ เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคและเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายที่มีจำนวนเกือบ 400 คนจากทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เข้าร่วมทีมจัดการข้อมูลของ ไอบีเอ็ม ซอฟต์แวร์ และจากการซื้อกิจการครั้งนี้ อินฟอร์มิกซ์ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น แอสเซนเชียล ซอฟต์แวร์ (Ascential Software)
ตามรายงานส่วนแบ่งทางการตลาดด้านฐานข้อมูลทั่วโลกของ Gartner Dataquest 2000 ไอบีเอ็มมีส่วนแบ่งทางการตลาด 30.1% และอินฟอร์มิกซ์ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ 3% และเมื่อนำส่วนแบ่งทางการตลาดของทั้งสองบริษัทมารวมกันแล้ว ไอบีเอ็มจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านฐานข้อมูล 33.1% จากส่วนแบ่งการตลาดฐานข้อมูลโลก การเข้าซื้อกิจการของอินฟอร์มิกซ์ได้ช่วยขยายขนาดของธุรกิจจำหน่ายฐานข้อมูลแบบ Distributed Database ของไอบีเอ็มให้เติบโตขึ้นเป็นสองเท่าและส่งผลให้ไอบีเอ็มเป็นบริษัทที่เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไอบีเอ็มจะนำทักษะความชำนาญและเทคโนโลยีที่คัดสรรแล้วจากอินฟอร์มิกซ์มาใช้ เพื่อเร่งสร้าง DB2 เวอร์ชันใหม่ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้อินฟอร์มิกซ์จะไม่ถูกบังคับให้ต้องโอนถ่ายเพื่อเปลี่ยนไปใช้ DB2 โดยไอบีเอ็มเตรียมพร้อมที่จะสนับสนุนการติดตั้งและบริการมาตลอด
ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มการบริหารข้อมูลของไอบีเอ็ม (IBM Data Managerment)
ซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล DB2 ของไอบีเอ็มเติบโตขึ้นเป็นเวลา 14 ไตรมาสติดต่อกันทั่วโลก ในไตรมาสแรกของปี 2001 ธุรกิจการจัดการข้อมูล DB2 ของไอบีเอ็มได้เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 36 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับอัตราการเจริญเติบโตทางอุตสาหกรรมและเติบโตกว่า 6 เท่าเมื่อเทียบกับธุรกิจฐานข้อมูลของออราเคิล การจัดการข้อมูลที่แพร่หลายนี้ นับเป็นโอกาสของธุรกิจมิดเดิ้ลแวร์ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งและได้สร้างไอบีเอ็มให้เป็นธุรกิจเชิงกลยุทธ์ที่เจริญเติบโต
ข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็มเป็นผู้ให้บริการมิดเดิ้ลแวร์รายใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบัน โดยมีซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ ดำเนินธุรกิจได้โดยระบบอัตโนมัติ เชื่อมการดำเนินงานต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือช่วยเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกิจขององค์กรลูกค้า กลุ่มไอบีเอ็ม ซอฟต์แวร์ เป็น ส่วนสำคัญของการริเริ่มบุกเบิกการทำอีบิสิเนสของไอบีเอ็มโดยมีรายได้จากทั่วโลกในปี 2000 ถึง 13 พันล้านเหรียญสหรัฐและ โดยมี 4 ผลิตภัณฑ์หลักคือ WebSphere, DB2, Lotus และ Tivoli ช่วยให้องค์กรผู้ใช้ได้ประโยชน์จากอีบิสิเนสอย่างเต็มที่ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ไอบีเอ็ม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ http://www.ibm.com/software/
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Software IBM สามารถสอบถามได้ที่ IBM.com Sales Center โทรศัพท์: 0-2273-4444
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย:
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
คุณชูจิตต์ วัฒนล้ำเลิศ โทรศัพท์: 0-2273-4306 อีเมล์: chujit@th.ibm.com
คุณกฤษณา ศิลประเสริฐ โทรศัพท์: 0-2273-4639 อีเมล์: krisana@th.ibm.com-- จบ--
-อน-