กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--เวิรฟ
ซัมซุงจัดงานแถลงข่าวที่งาน IFA 2016 ในกรุงเบอร์ลิน แสดงให้เห็นว่าซัมซุงกำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ผู้บริโภคอย่างไรบ้าง โดยจัดแสดงผลิตภัณฑ์และความร่วมมือใหม่ๆ เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จอภาพ และระบบความบันเทิงภายในบ้านที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตลาดยุโรป
มร. เดวิด โลวส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยุโรป กล่าวว่า "IFA 2016 ปีนี้ เราต้องการแสดงให้ยุโรปเห็นว่าเราทุ่มเทอย่างต่อเนื่องเพียงใดเพื่อสร้างนิยามใหม่ให้แก่ประสบการณ์ของผู้บริโภคและพันธมิตรทุกรายของเรา ครอบคลุมทุกๆ ผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ทีวี เครื่องเสียงในบ้าน จนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ทุกสิ่งที่ซัมซุงสร้างสรรค์ขึ้นล้วนเกิดจากความมุ่งมั่นที่จะทำให้ชีวิตประจำวันของผู้คนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจอันลึกซึ้งว่าผู้บริโภคต้องการอะไรและมีความจำเป็นในเรื่องใดอย่างแท้จริง"
ยืนยันคำมั่นต่อศักยภาพของยุโรป
ซัมซุงได้เน้นย้ำพันธสัญญาที่มีต่อยุโรป การจ้างงาน 14,000 คนในประเทศต่างๆ 34 ประเทศ ผลิตภัณฑ์ซัมซุงเต็มเปี่ยมด้วยรสนิยมสไตล์แฟชั่นและดีไซน์แบบยุโรป รวมถึงแบบแผนชั้นดีเรื่องความเป็นเลิศในการผลิต ในช่วงไตรมาสที่ 2 รายได้ของซัมซุงเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อปีก่อน นอกจากนี้ 7 ใน 10 ของครัวเรือนยุโรปจะมีสมาร์ทโฟนซัมซุง 1 เครื่อง และ 1 ใน 3 ครอบครัวยังรับชมรายการโปรดและภาพยนตร์จากทีวีซัมซุง ซัมซุงจึงเชื่อมั่นเดินหน้าลงทุนต่อกับศักยภาพที่ยุโรปมีอยู่ เพื่อเดินหน้าตามพันธสัญญานี้ ซัมซุงได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับ เมคเกอร์บอท (MakerBot) ผู้นำระดับโลกในด้านการพิมพ์ 3 มิติ ด้วยจำนวนเครื่องพิมพ์เมคเกอร์บอทที่มีใช้งานอยู่ถึง 100,000 เครื่องทั่วโลก โดยจะมอบเครื่องพิมพ์ 3 มิติให้กับโรงเรียน วิทยาลัย และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในยุโรป 5 ประเทศ และดฝึกอบรมการใช้เทคโนโลยีนี้ให้แก่ครูและนักเรียน นอกจากนี้ซัมซุงยังประกาศว่ากำลังเดินหน้าตามคำมั่นที่ได้เคยให้ไว้ภายใต้กรอบความร่วมมือของสหภาพยุโรปเพื่อสร้างเสริมทักษะแรงงานด้านดิจิตอล (European Commission's Grand Coalition for Digital Jobs) โดยจะสนับสนุนเยาวชนจนครบ 400,000 คนตามเป้าหมายได้ภายในปี 2559 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 3 ปี
อนาคตของทีวี: สร้างนิยามใหม่ด้วยแควนตัมดอท
ซัมซุงยังได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีจอภาพแบบแควนตัมดอท (Quantum Dot) โดยเผยโฉมทีวีแควนตัมดอทขนาด 88 นิ้วรุ่น KS9800 ที่จะมอบความเป็นที่สุดทั้งในด้านคุณภาพของภาพ รวมถึงความสามารถเช่นเดียวกับทีวีSUHD ของซัมซุง ที่แสดงสีได้ถึง 1 พันล้านสี ในปัจจุบัน SUHD มีให้เลือกหลากหลายที่สุดในยุโรป ด้วยขนาดหน้าจอ 19 ขนาด ตั้งแต่ 43 นิ้วจนถึง 88 นิ้ว ซึ่งเป็นผลจากความยืดหยุ่นในเรื่องขนาดหน้าจอและความละเอียดที่เทคโนโลยีแควนตัมดอทสามารถให้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้ซัมซุงยังได้ประกาศเปิดตัวจอมอนิเตอร์ซีรีส์แรกในโลกที่เป็นจอโค้ง ได้แก่รุ่น CF791 ใหม่ในแบบUltra Wide QHD ขนาด 34 นิ้ว โดยเป็นจอมอนิเตอร์จอโค้งรุ่นแรกที่มีระยะเวลาตอบสนอง (Response Time) ในการแสดงภาพเคลื่อนไหวเพียง 1 มิลลิวินาที และมีความเร็วในการสร้างภาพใหม่ (Refresh Rate) สูงถึง 144 เฮิรตซ์เพื่อการเล่นเกมที่ราบรื่นไร้ที่ติ
นอกจากนี้ ซัมซุงยังเป็นเพียงบริษัทเดียวที่สามารถนำเสนอทีวีแควนตัมดอทแบบปลอดสารแคดเมียมโดยได้รับเกียรติจากมร. เจสัน ฮาร์ทเลิฟ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nanosys และยังเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในโลกในด้านเทคโนโลยีแควนตัมดอท เปิดเผยว่า "แควนตัมดอทเป็นวัสดุหน้าจอที่เสถียรและเชื่อถือได้มากที่สุด อีกทั้งยังมีอยู่ทุกหนแห่งทั่วโลก ซัมซุงทำให้พวกเราได้ใช้จอที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่าเดิมด้วยอายุการใช้งานที่ยาวนานเป็นพิเศษ ด้วยความมั่นใจอันเต็มเปี่ยมที่มีต่อแควนตัมดอท จึงได้ประกาศมอบการรับประกัน 10 ปี ให้กับทีวี SUHD ของซัมซุงที่ใช้เทคโนโลยีแควนตัมดอทสร้างหลักประกันคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องอาการจอไหม้ (Burn-in) อย่างยาวนานตลอดหนึ่งทศวรรษ"
มร. วอน จิน ลี รองประธานบริหารกลุ่มธุรกิจจอภาพของ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยังได้แนะนำ สมาร์ทฮับ (Smart Hub) แพลทฟอร์มด้านคอนเทนท์ของซัมซุง พร้อมทั้งประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ในด้านคอนเทนท์แบบ HDR ระดับพรีเมียมที่จะช่วยปลดปล่อยศักยภาพของทีวี SUHD Quantum Dot อย่างเต็มที่ ซึ่งแผนงานส่วนหนึ่งในความร่วมมือดังกล่าวคือการขยายการให้บริการ ทีวีพลัส (TV Plus) ของซัมซุงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในเกาหลีใต้ โดยมุ่งจะเปิดให้บริการนี้ทั้งในสหรัฐฯและยุโรป เนื่องจากตระหนักดีอยู่เสมอว่าประสบการณ์อันยอดเยี่ยมจากทีวีมาจากคอนเทนท์ที่น่าตื่นตาตื่นใจผสานกับคุณภาพอันโดดเด่นในการแสดงภาพ ซัมซุงประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกหลายราย อาทิ Amazon และ Netflix โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับNetflix ที่กำลังเร่งเพิ่มปริมาณคอนเทนท์แบบ HDR ให้ลูกค้าในยุโรปด้วยภาพยนตร์ดีๆ อย่าง Marco Polo, The Do-Over และThe Ridiculous Six เป็นต้น นอกจากนี้พันธมิตรในยุโรปเอง เช่น RTVE และ Insight TV ก็กำลังเริ่มปล่อยคอนเทนท์แบบ HDRแล้วในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 นี้
ซัมซุงยังได้โชว์ความสามารถต่างๆ ของ ซัมซุง สมาร์ท รีโมท (Samsung Smart Remote) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งการอุปกรณ์ทุกอย่างที่เชื่อมต่ออยู่ได้โดยใช้รีโมทคอนโทรลเพียงตัวเดียว สมาร์ทรีโมทได้รับการออกแบบให้ตรวจหาอุปกรณ์ภายนอกที่เชื่อมต่อกับทีวีได้เองโดยอัตโนมัติ ผู้บริโภคจึงสลับการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องหารีโมทหลายๆ ตัว และสุดท้าย ซัมซุงได้ตอกย้ำสถานภาพความเป็นผู้นำตลาดเครื่องเสียงในบ้านและผู้ผลิตซาวน์บาร์อันดับหนึ่งในยุโรป โดยจัดแสดงWireless Audio 360 และ HW-K950 Soundbar ที่ใช้เทคโนโลยีเสียง Dolby Atmos® เพื่อถ่ายทอดเสียงหลากมิติดุจระบบเสียงในโรงภาพยนตร์ ยิ่งเมื่อผสานกันเป็นระบบกับทีวี SUHD เครื่องเล่นบลู-เรย์ UHD และคอนเทนท์แบบ HDR ของซัมซุง ความครบถ้วนของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทำให้ซัมซุงเป็นเพียงบริษัทเดียวที่สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงในบ้านแบบ 4K อย่างเต็มระบบ
สร้างนิยามใหม่ให้แบรนด์ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของซัมซุงเติบโตรวดเร็วกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมนี้ในยุโรปถึงประมาณ 5 เท่าตัว ความสำเร็จจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างเช่นเครื่องซักผ้า AddWash ที่เผยโฉมเป็นครั้งแรกที่งาน IFA 2015 ได้ทำให้ซัมซุงก้าวขึ้นเป็นแบรนด์เครื่องซักผ้าระดับพรีเมียมอันดับหนึ่งในฝรั่งเศส โปแลนด์ อิตาลี และสหราชอาณาจักร สำหรับที่งานIFA 2016 ในครั้งนี้ ซัมซุงได้ประกาศเปิดตัวเครื่องซักผ้า AddWash ใหม่อีก 2 รุ่น คือ AddWash Combo ที่ช่วยขจัดความยุ่งยากจากการต้องหาซื้อเครื่องปั่นแห้งต่างหากอีกเครื่อง และ AddWash Slim ที่แทรกตัวอยู่ในพื้นที่เล็กๆ ของห้องครัวได้โดยไม่ต้องลดทอนความจุของถังซักลงแต่อย่างใด
ซัมซุงได้แนะนำผลิตภัณฑ์แบบบิลท์อินใหม่ 3 สายผลิตภัณฑ์ เริ่มจาก Contemporary Line ที่เปิดตัวด้วยตู้เย็นแบบบิลท์อินใหม่ 1 รุ่น ตามด้วย Black Line ที่ใช้สีดำกึ่งด้าน (Semi-Matte Black) เพื่อให้ลุคอันทันสมัยไม่อิงกับกาลเวลา และปิดท้ายด้วยChef Collection ที่มีอยู่เดิม โดยตู้เย็นแบบบิลท์อินขนานแท้รุ่นใหม่จาก Contemporary Line มอบความกลมกลืนพร้อมด้วยประสิทธิภาพอันก้าวล้ำอย่างไร้ที่ติ ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ อาทิ No Frost, Tein Cooling PlusTM และ Cool Select Zone Plus
นอกจากนี้ซัมซุงยังประกาศด้วยว่าได้เตรียมนำ Familiy Hub ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามมาวางจำหน่ายในยุโรป โดยตู้เย็นรุ่นสูงสุดรุ่นนี้โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Twin Cooling PlusTM ที่ช่วยถนอมรักษาอาหารให้คงความสดใหม่สูงสุด รวมถึงระบบ Precise Chef CoolingTM ที่จำกัดความผันผวนของอุณหภูมิให้เพิ่มขึ้นหรือลดลงเกินกว่า 0.5 องศา นอกจากนี้ Family Hubยังมีช่อง Chef ZoneTM ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับเก็บรักษาอาหารโปรตีนที่มีความอ่อนไหวต่ออุณหภูมิ และที่ลืมไม่ได้คือกล้อง 3 ตัวภายในตู้เย็นที่ช่วยถ่ายภาพภายในตู้เย็นและให้ผู้บริโภคสามารถดูภาพผ่านสมาร์ทโฟนได้ไม่ว่าอยู่ที่ใด
ยิ่งไปกว่านั้น Family Hub ยังมีหน้าจอสัมผัสแบบ Full HD ขนาด 21.5 นิ้วเพื่อช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายขึ้นได้อย่างมากมาย สามารถใช้เป็นไวท์บอร์ดแบบอินเตอร์แอคทีฟของครอบครัว ทั้งการเขียนข้อความถึงกัน แบ่งปันภาพถ่าย ปฏิทินที่ใช้ร่วมกัน และงานศิลปะ เป็นต้น โดยสามารถอัพโหลดคอนเทนท์โดยตรงได้ทางหน้าจอทัชสกรีนของตู้เย็น หรือจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเมื่อไม่อยู่ที่ตู้เย็น ผู้บริโภคยังสามารถใช้หน้าจอทัชสกรีนนี้ร่วมกับแอพสำหรับช้อปปิ้งเพื่อสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้โดยตรงจากในห้องครัวของตนเพื่อให้จัดส่งถึงหน้าบ้าน โดยซัมซุงกำลังสร้างความร่วมมือกับเว็บสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์ในยุโรปหลายราย อาทิ ผู้ให้บริการอาหารอิตาเลียนระดับพรีเมียมอย่าง Eataly ตลอดจนผู้ให้บริการอาหารแบบดิลิเวอรี่รายต่างๆ ในยุโรป เช่น Supermercato24 และ coop@home ของสวิตเซอร์แลนด์
นอกจากนี้ Family Hub ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคในยุโรปฝึกทำอาหารกับมือโปรผ่านแอพ Club des Chefs ได้โดยตรงบนหน้าจอของ Family Hub โดยแอพ Club des Chefs นำเสนอเคล็ดลับการทำครัวระดับมืออาชีพ เป็นการให้ข้อแนะนำต่างๆ ทั้งในรูปแบบข้อความและวีดีโอ ซึ่งการที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารระดับโลกลงมือทำอาหารให้เห็นผ่านครึ่งบนของหน้าจอพร้อมๆ ไปกับบรรยายสูตรอาหารที่แสดงอยู่บนครึ่งล่างของหน้าจอเช่นนี้ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งว่า ซัมซุงกำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ในห้องครัวอย่างไร
บูธของ ซัมซุง เปิดต้อนรับผู้เข้าชมงาน IFA 2016 ในช่วงวันที่ 2 – 7 กันยายนที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร City Cube Berlin