กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
: ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS ดังนี้
- ASP ได้รับการคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'A-(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'F2(tha)'
- FSS ได้รับการคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'BBB+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'F2(tha)'
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตภายในประเทศของ ASP สะท้อนถึงเครือข่ายทางธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นการดำเนินงานผ่านบริษัทลูก คือ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) ทั้งนี้ในการพิจาณาอันดับเครดิตของ ASP ฟิทช์ทำการประเมินระดับความแข็งแกร่งของโครงสร้างเครดิตโดยรวมของกลุ่ม เนื่องจาก ASP และ ASPS (ซึ่งเป็นบริษัทลูกหลักของกลุ่ม) มีการเชื่อมโยงในการดำเนินงานระหว่างกันในระดับสูงและยังมีการใช้ชื่อบริษัทและสัญลักษณ์ร่วมกัน ฟิทช์คาดว่าถึงแม้ ASPS จะดำเนินงานโดยอิสระและไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับธนาคารพาณิชย์ใด ASPS น่าจะยังคงสามารถรักษาระดับส่วนแบ่งการตลาดในด้านธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และธุรกิจวาณิชธนกิจได้ โดยปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของ ASPS ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แม้จะมีบริษัทหลักทรัพย์รายใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา
ฟิทช์คาดว่ากลุ่ม ASP จะสามารถรักษาผลการดำเนินงานไว้ได้ในระดับที่ดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการกระจายตัวของรายได้ที่ดีกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมและยังมีอัตราค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่สูงกว่าอัตราเฉลี่ยของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ทางกลุ่มได้รักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับสม่ำเสมอ โดยมีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (return on equity) ที่ 13.7% ในครึ่งปีแรกของปี 2559 (ครึ่งปีแรกของปี 2558: 15.4%) แม้จะมีการแข่งขันสูงในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ นอกจากนี้ทางกลุ่มยังได้รักษาระดับหนี้สินให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยมีอัตราส่วนผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์ที่ 48.9% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559 (ธันวาคม 2558: 57.1% )
อันดับเครดิตภายในประเทศของ FSS สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศไทยของบริษัทที่อยู่ในระดับปานกลาง การกระจายตัวของโครงสร้างรายได้ที่น้อยกว่าบริษัทหลักทรัพย์อื่น และความแข็งแกร่งของฐานะเงินทุนและสภาพคล่องของบริษัท FSS มีส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ 5.6% (สำหรับในครึ่งปีแรกของปี 2559) ซึ่งเป็นอันดับที่ 3 ในอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามค่าธรรมเนียมนายหน้าหลักทรัพย์เฉลี่ยของบริษัทปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์ต่ำกว่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดของบริษัทค่อนข้างมาก
การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างรายได้และการแข่งขันที่สูงน่าจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันผลการดำเนินงานของ FSS ต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามด้วยฐานะเงินทุนและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง (ซึ่งสะท้อนได้จากอัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์ที่ 47.1% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559 และสินทรัพย์สภาพคล่องซึ่งอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล) ปัจจัยดังกล่าวน่าจะสามารถรองรับความเสี่ยงจากโครงสร้างธุรกิจของบริษัทได้อย่างเหมาะสม
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
การลดลงอย่างมีนัยสำคัญของอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของ ASP และ FSS ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลงหรือการเติบโตของสินทรัพย์เสี่ยงในระดับที่สูง ซึ่งไม่สอดคล้องกับแนวโน้มของอุตสาหกรรมโดยรวม อาจส่งผลให้อันดับเครดิตของบริษัทถูกปรับลดอันดับ
อันดับเครดิตภายในประเทศของ FSS และ ASP อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากบริษัทสามารถแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวดีขึ้นของอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญอย่างต่อเนื่องตลอดวัฏจักรของอุตสาหกรรมโดยบริษัทยังคงสามารถรักษาความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินและโครงสร้างความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง รวมทั้งสามารถรักษาความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจได้