กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เดินหน้าพัฒนาคุณภาพบริการไปรษณีย์ภายใต้ระบบบริหารคุณภาพมาตรฐานการให้บริการ ISO 9001: 2015 เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจไปรษณีย์และการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน พร้อมเปิดตัวบริการและนวัตกรรมใหม่ ที่เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว เพื่อรองรับทุกความต้องการของคนไทยยุคดิจิทัล อาทิ พร้อมโพสต์ (Prompt Post) ระบบเตรียมการฝากส่ง กล่องพร้อมส่ง กล่องพัสดุเหมาจ่ายไม่ต้องช่างน้ำหนัก แมสเซนเจอร์โพสต์ แอปฯเรียกใช้บริการพนักงานรับ-ส่งสิ่งของ และตู้บริการไปรษณีย์อัตโนมัติ (APM: Automatic Post Machine) ที่จะเริ่มให้บริการคนไทยตั้งแต่กันยายนนี้เป็นต้นไป
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) มีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยสำคัญของการดำเนินธุรกิจดังกล่าวคือ ความสะดวกและความรวดเร็ว ไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานหลักที่ให้บริการผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซในการจัดส่งสิ่งของถึงผู้ซื้อมาโดยตลอด จึงมีความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพบริการไปรษณีย์ทุกประเภท ให้มีมาตรฐานการบริการที่เป็นสากล ผ่านระบบบริหารคุณภาพมาตรฐานการให้บริการ ISO 9001: 2015 พร้อมทั้งพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานให้รองรับปริมาณและรูปแบบของสิ่งของที่ฝากส่งทุกรูปแบบ
นางสมร กล่าวต่อว่า ไปรษณีย์ไทยเปิดตัวบริการและนวัตกรรมใหม่เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนไทยในยุคดิจิทัล อาทิพร้อมโพสต์ (Prompt Post) แอปพลิเคชันสำหรับเตรียมการฝากส่งสิ่งของล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ เพื่อส่งข้อมูลไปยังที่ทำการไปรษณีย์ต้นทางก่อนมาฝากส่ง โดยสามารถกรอกจำนวนกล่องพัสดุที่ต้องการฝาก เลือกบริการที่ต้องการส่ง ระบบจะคำนวณค่าใช้บริการให้อัตโนมัติและจัดทำ "ใบส่งมอบสิ่งของ" ที่ผู้ฝากส่งสามารถนำไปยื่น ณ ที่ทำการไปรษณีย์เพื่อให้เจ้าหน้าที่สแกนเลขที่บาร์โค้ดเพียงเลขที่เดียว พัสดุทุกกล่องก็จะเข้าระบบเพื่อรอการนำจ่ายต่อไป กล่องพร้อมส่ง กล่องพัสดุเหมาจ่ายสุดสะดวกที่สามารถบรรจุสิ่งของตามขนาดที่ต้องการแบบไม่ต้องชั่งน้ำหนัก สามารถสั่งซื้อได้บนแอปพลิเคชัน พร้อมโพสต์ (Prompt Post) เท่านั้น มีให้เลือกทั้งหมด 4 ขนาด ได้แก่ SS S M และ L อัตราค่าบริการพร้อมส่งเริ่มต้นเพียง 35 บาท กล่องดังกล่าวให้บริการจัดส่งในพื้นที่เขตเดียวกันภายใน 1 - 2 วันทำการ ต่างพื้นที่ภายใน 3 - 5 วันทำการ
นางสมร กล่าวเพิ่มเติมว่า ไปรษณีย์ไทยยังได้จัดทำ แอปพลิเคชั่น แมสเซนเจอร์โพสต์ (Messenger Post) สำหรับผู้ใช้บริการที่ต้องการเรียกพนักงานบริการส่งเอกสารหรือสิ่งของเร่งด่วน และรับสินค้าเพื่อฝากส่งเข้าสู่เส้นทางไปรษณีย์ โดยผู้ใช้บริการระบุสถานที่รับและสถานที่ปลายทาง ระบบจะทำการคำนวณและแจ้งค่าบริการ ซึ่งเริ่มต้นที่ 65 บาท ทั้งนี้ระบบจะแสดงชื่อและภาพถ่ายของพนักงานนำส่ง พร้อมเลขทะเบียนรถและเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งมีมาตรฐานการนำส่งถึงผู้รับภายใน 2 – 3 ชั่วโมง นับจากเวลาที่รับมอบสิ่งของจากผู้ฝากส่ง โดยระบบจะทำการแจ้งสถานะนำส่งในรูปแบบ push notification ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบริการอื่นๆ ที่ไปรษณีย์ไทยคิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการให้ครอบคลุม อาทิ เครื่องบริการไปรษณีย์อัตโนมัติ (APM) บริการเตรียมการฝากส่งทางอินเทอร์เน็ตสำหรับกลุ่มธุรกิจ e-Commerce (Pre Load)บริการรับฝากไปรษณีย์ด้วยระบบอัตโนมัติ บริการเซมเดย์โพสต์ (Same Day Post) รับ-ส่งสิ่งของ/ สินค้าด่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่งถึงกันภายในวันเดียว สำหรับกลุ่มลูกค้า e-Commerce โดยคาดว่าบริการต่างๆ ข้างต้นจะสามารถทยอยเปิดใช้บริการได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี ไปรษณีย์ไทยเชื่อมั่นว่าการยกระดับมาตรฐานคุณภาพบริการ พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ในปีนี้ จะทำให้สามารถรองรับและตอบสนองความต้องการผู้ใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น และก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจไปรษณีย์และโลจิสติกส์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียนตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ รวมทั้งเป็นเครือข่ายการขนส่งที่ดีของคนไทยและสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน นางสมร กล่าวสรุป
รายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.thailandpost.co.th หรือสอบถาม THP Contact Center 1545